บทความที่ได้รับความนิยม


Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

แอร์ประดิษฐ์ ไอเดียเจ๋ง เพื่อคนงบน้อย

Pic_262213

ฝนตกได้ไม่กี่วัน ก็ดันแดดร้อนเปรี้ยงให้อารมณ์บูดกันอีกแล้ว วันนี้ Trend can do เลยหาไอเดียการคลายร้อนจากเว็บไซต์ www.tinkernut.com มาให้ลองดูกัน สำหรับคนอยากประหยัด และงบน้อย กับวิธีการประดิษฐ์เครื่องปรับอากาศแบบบ้านๆ จะเป็นอย่างไรนั้น ต้องมาดู



วัสดุที่ต้องเตรียม

 

1. ถังคูลเลอร์ทำจากโฟม
2. สายทองแดง 1 ม้วน
3. คีม สายรัด
4. พัดลม

 


5. น้ำ และน้ำแข็ง
6.ปั๊ม Adaptor
7. ปืนกาวพลาสติก
8. มีดคัตเตอร์ และที่ตัดทองแดง


ขั้นตอนการประดิษฐ์

1.วัด ขนาดสายทองแดงให้เหลือสัก 9-10 ซม. จากนั้นนำเส้นทองแดงพันที่ขอบของตัวกรอบใบพัดของพัดมวนไปเรื่อยๆ ให้รอบ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง (เพื่อไม่ให้สายทองแดงหลุดออกง่าย ระหว่างที่พันทองแดง ควรผูกติดกับตัวกรอบพัดลมเป็นระยะๆ)

 
 
 
2. หลังจากพันเสร็จแล้ว บิดสายทองแดงให้ตั้งตรงทั้งสองเส้น จากนั้นวัดระยะห่างระหว่างเส้นที่ 1 และ 2 เพื่อนำไปวัดที่ฝาถังโฟมให้เท่ากันอีกที

 

3. เจาะรูที่ฝาโฟมที่วัดระยะเรียบร้อยแล้ว จากนั้นนำสายทองแดงเสียบลงไป

 

4. นำขั้วที่ต่อระหว่างปั๊ม Adaptor มาต่อเข้ากับทองแดงตามภาพ (ใช้ปืนยิงกาวพลาสติกเป็นตัวช่วย เพื่อให้ติดแน่นมากขึ้น)



5.  นำปั๊ม Adaptor ใส่ลงไปในถังโฟม จากนั้นวัดความยาวของสายให้ออกจากนอกตัวถัง ใช้มีดคัตเตอร์ฝานขอบถังโฟม เพื่อให้สาย Adaptor สามารถลอดออกมาได้เวลาที่ปิดฝา

 
 

6. ใส่น้ำและน้ำแข็งลงไปประมาณครึ่งถัง

 

7. นำส่วนที่ต่อเข้ากับสายทองแดงครั้งแรกต่อเข้ากับปั๊ม Adaptor อีกที จากนั้นหย่อนลงไปให้ลอยเหนือน้ำ และปิดฝาให้แน่น

เห็น รูปร่างหน้าตาของเจ้าแอร์บ้านๆ ตัวนี้แล้ว ใครที่คิดจะลองทำจริงๆ ก็อาจจะต้องศึกษาข้อมูลกันดีๆ เพราะวัสดุอุปกรณ์อาจไม่เหมือนของที่บ้านเรา อย่างไรก็ตามดูเอาไว้เป็นตัวอย่าง เพื่อนำไปปรับใช้กับตัวเราดีกว่า อย่าเพิ่งเสี่ยงทำใช้เองเลย

ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : www.tinkernut.com

Read More...


’แหวนหนัง“ สร้างสรรค์ทำเงินสวย



 

อาชีพทำงานประดิษฐ์-งานฝีมือ บางครั้งไม่จำเป็นต้องเรียนจบด้านการทำมาโดยตรงก็สามารถที่จะฝึกหัดทำ สามารถสร้างสรรค์สินค้าได้ ขอเพียงมุ่งมั่นตั้งใจและรักในอาชีพที่ทำ ก็สามารถพลิกผันจากความชอบให้กลายมาเป็นอาชีพทำเงินได้อย่างดี อย่างเช่น งานประดิษฐ์จากวัสดุหนัง เช่น ’แหวนหนัง“ ที่ก็เป็น ’ช่องทางทำกิน“ ที่น่าสนใจ... “สุวิษา เธียรฐิติพฤฒิ” เล่าว่า เดิมประกอบธุรกิจส่วนตัว ต่อมาแต่งงานมีครอบครัวจึงเปลี่ยนบทบาทกลายเป็นแม่บ้าน แต่ด้วยความที่เป็นคนไม่ชอบหยุดนิ่งและสนใจเกี่ยวกับการทำงานประดิษฐ์ โดยเฉพาะงานที่นำวัสดุประเภทหินสีสวยและหนังประเภทต่าง ๆ มาใช้ทำ จึงคิดว่าน่าจะอาศัยเวลาว่างคิดประดิษฐ์จัดทำสินค้าประเภทเครื่องประดับ เพื่อจำหน่าย โดยเริ่มจำหน่ายจริงจังมาตั้งแต่ประมาณปี 2551 และก็ทำมาเรื่อย โดยปัจจุบันมีลูกค้าหลากหลายกลุ่ม คือทั้งลูกค้าที่ซื้อเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ และลูกค้าที่สั่งให้ทำชิ้นงานพิเศษเพื่อนำไปใช้ในวาระโอกาสต่าง ๆ เช่น งานเลี้ยง, งานแต่งงาน นอกจากนี้ก็ยังมีกลุ่มที่ซื้อสินค้าเพื่อนำไปใช้เป็นวัสดุตกแต่งชิ้นงาน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มอีกด้วย เรียกได้ว่าสินค้าที่ทำขึ้นนั้นสามารถทำขายได้ตลอดทั้งปี สำหรับช่องทางการจำหน่ายเน้นที่การขายผ่านทางเว็บไซต์ชื่อ www.longdoona.com ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับการตอบรับดี จนปัจจุบันสามารถยึดทำเป็นอาชีพได้อย่างดี “เรียนจบมาทางด้านวิทยาศาสตร์ แต่เป็นคนชอบงานประดิษฐ์ เคยฝึกทำงานประเภทนี้ จึงคิดว่าน่าจะใช้เวลาว่างที่อยู่บ้านลองประดิษฐ์สินค้า โดยเฉพาะงานเกี่ยวกับหนังและหินสี จึงออกมาเป็นสินค้าอย่างที่เห็น” สุวิษากล่าว สินค้าที่ใช้วัสดุหลักอย่าง “หนัง” นั้น เธอบอกว่ามีอยู่หลายประเภท อาทิ แหวน, พวงกุญแจ, ที่คาดผม, กำไลข้อมือ, สร้อยคอ, กระเป๋าถือ, กระเป๋าสะพาย โดยนอกจากใช้หนังเป็นส่วนประกอบหลัก ก็อาจจะมีวัสดุตกแต่งอย่างอื่นมาประกอบเพื่อเพิ่มลูกเล่นรายละเอียดด้วยก็ ได้ ขึ้นอยู่กับตลาดและกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการจำหน่าย จุดเด่นของสินค้าที่ทำให้ลูกค้าชื่นชอบคือ รายละเอียดของแต่ละชิ้นงาน รูปแบบของสินค้า รวมไปถึงความที่เป็นงานแฮนด์เมดสินค้าจึงมักจะไม่ค่อยมีแบบที่ซ้ำกัน ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะชอบใน “ความแตกต่าง” ไม่ซ้ำใคร ดังนั้น งานจึงมีรูปแบบที่ปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามความนิยมของตลาด และออกแบบตามความต้องการของลูกค้า “ยอมรับว่าการสร้างจุดขาย สร้างความแตกต่าง สำคัญมากสำหรับคนที่คิดจะทำอาชีพแบบนี้ ยิ่งเป็นสินค้าเครื่องประดับตกแต่งยิ่งต้องเน้น เพราะลูกค้ากลุ่มนี้ตัดสินใจซื้อสินค้ายากหากสินค้าไม่โดดเด่นพอ แต่ถ้าเกิดสินค้ามีรูปแบบที่โดนใจ ราคาสูงแค่ไหนลูกค้าก็สู้หรือพร้อมซื้อ” เป็นคำแนะนำจากสุวิษาที่น่าคิด... ทุนเบื้องต้นอาชีพนี้ ใช้ประมาณ 20,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นค่าวัสดุและค่าจ้างแรงงาน ขณะที่ทุนวัสดุต่อชิ้นอยู่ที่ประมาณ 40% จากราคาขาย ที่เริ่มตั้งแต่ชิ้นละ 30-350 บาท ขึ้นกับรายละเอียด รูปแบบ และขนาดชิ้นงาน วัสดุ-อุปกรณ์ที่จำเป็นในการทำชิ้นงาน หลัก ๆ ประกอบด้วย คีมปากจิ้งจก (ขนาดต่าง ๆ), เข็มกับด้าย, ปืนยิงกาวและกาวร้อน, เชือกเทียน สำหรับใช้มัด, คัตเตอร์, กรรไกร และวัสดุตกแต่งประกอบ อาทิ ตัวเรือนแหวน, กระเป๋า, พวงกุญแจ, หินสี และเศษหนังขนาดและสีสันต่าง ๆ (อาจใช้วิธีออกแบบและจ้างให้โรงงานตัดหรือปั๊มออกมาเป็นชิ้น ๆ เพื่อตัดขั้นตอนการทำงานหรือลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนเครื่องปั๊มหนัง) ขั้นตอนการทำ ยกตัวอย่างการทำ ’แหวนหนัง“ ทรงพุ่มดอกไม้ เริ่มจากออกแบบชิ้นงานว่าต้องการให้ออกมาเป็นรูปทรงแบบไหน ซึ่งหากเป็นทรงพุ่มดอกไม้ที่สุวิษาทำอยู่ก็จะมี 3 แบบ คือ ทรงพุ่มเดี่ยว สองชั้น และสามชั้น ส่วนโทนสีก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ เมื่อมีแบบแล้ว จากนั้นก็อาจทำการตัดหนังเองด้วยกรรไกรหรือคัตเตอร์ หากเป็นการทำในจำนวนน้อย แต่ถ้าผลิตในจำนวนมาก ๆ อาจใช้การจ้างโรงงานให้ตัดหรือปั๊มหนังตามแบบ เมื่อได้ส่วนประกอบของดอกแล้ว ก็นำมามัดร้อยรวมกันให้เป็นทรงพุ่มดอกไม้ โดยใช้เชือกเทียนมัดส่วนประกอบดอกรวมกันจนกลายเป็นทรงพุ่มดอกไม้ จากนั้นนำดอกไม้หนังที่ได้มาทำการตกแต่งด้วยวัสดุผสมอื่น ๆ ที่เตรียมไว้ แล้วนำไปประกอบกับตัวเรือนแหวน โดยอาจใช้ปืนยิงกาวร้อนยึดติดเพื่อความแข็งแรง เป็นอันเสร็จขั้นตอนหลัก ๆ ในการทำ “ดอกไม้หนังที่ทำขึ้น เราสามารถนำไปใช้ประกอบกับเครื่องประดับหรือเครื่องใช้ประเภทอื่นได้ อาทิ ที่คาดผม, กระเป๋าถือ, พวงกุญแจ ขึ้นอยู่กับไอเดียที่ต้องการจะทำ เรียกได้ว่าพลิกแพลงดัดแปลงได้ตลอด ไม่มีตัน” สุวิษากล่าว ใครสนใจชิ้นงานจากหนังลองเข้าไปดูข้อมูล ดูสินค้าต่าง ๆ ได้ในเว็บไซต์ดังกล่าวข้างต้น หรือหากต้องการติดต่อสุวิษา ติดต่อได้ที่ โทร.08-1432-2272 หรืออีเมล finemist@windowslive.com ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษา ’ช่องทางทำกิน“ จาก ’แหวนหนัง“ และ งานประดิษฐ์จากวัสดุหนัง อื่น ๆ ที่มีรายได้เป็นผลตอบแทนของความรักความชอบ. ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ รายงาน

 

ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : http://www.dailynews.co.th/

Read More...


‘งานปั้นดิน’ ‘ตกแต่งสิ่งของ’ราคาดี



 
การปั้นดินญี่ปุ่น-ดินไทย ให้เป็นชิ้นงานจำลอง เช่น เบเกอรี่ ขนม ไอศกรีม ที่เรียกกันว่าเป็นแนว sweet deco ยังคงได้รับความนิยม สามารถนำไปตกแต่งบนของใช้ต่าง ๆ ให้เกิดความสวยงาม และเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับของเหล่านั้นได้อีกด้วย อย่างกรณีศึกษา ’งานปั้นดินตกแต่งสิ่งของ“ ที่ทีม ’ช่องทางทำกิน“ จะนำเสนอในวันนี้ เป็นงานปั้นดินเป็นขนม เบเกอรี่จิ๋ว นำไปตกแต่งของใช้ต่าง ๆ ได้หลากหลาย รวมถึงกรอบมือถือ นี่ก็สามารถสร้างรายได้ได้อย่างดี…

น้ำผึ้ง-วิสุทธิณี เลิศสดับสุวรรณ ซึ่งมีประสบการณ์ในการปั้นดินญี่ปุ่น-ดินไทย แนว sweet deco มากว่า 2 ปี เล่าว่า หลังจากที่เรียนจบก็เข้าทำงานเป็นพนักงานตามห้างสรรพสินค้า จนได้เห็นงานการปั้นดินเป็นขนมเบเกอรี่ ออกแนวน่ารัก ๆ หวาน ๆ ก็เกิดความชอบ และด้วยความที่เป็นคนที่ชอบงานประดิษฐ์ตั้งแต่เด็กแล้ว จึงคิดว่าตัวเองนั้นก็น่าจะทำงานตัวนี้ได้ จากนั้นจึงเริ่มที่จะลองฝึกหัดปั้นดู โดยไปหาซื้อวัสดุมาทำการทดลองปั้นเอง

ในช่วงแรก ๆ ก็อาศัยเรียนรู้วิธีการปั้นจากอินเทอร์เน็ต ใช้เวลาฝึกหัดลองผิดลองถูกกว่า 2 เดือน ก็เริ่มค้นพบวิธีการปั้นและการเลือกวัสดุที่จะนำมาทำการปั้นที่ลงตัวได้ เมื่อทำได้ก็เริ่มปั้นมาเรื่อย ๆ และก็เริ่มนำงานปั้นขนมจิ๋วไปประยุกต์ ตกแต่งลงบนของใช้ต่าง ๆ เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า อย่างพวก เคสหรือกรอบมือถือ กล่องใส่คอนแทคเลนส์ กระจก หรือเครื่องประดับ ก็นำไปตกแต่งได้ เช่นพวก กิ๊บติดผม แหวน ตุ้มหู ที่คาดผม เป็นต้น

“แรก ๆ ก็ทำไว้ใช้เอง แล้วก็เริ่มทำขาย โดยลงขายทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี มีออร์เดอร์เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งงานปั้นตัวนี้มีคนทำอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อที่เราจะครองใจลูกค้าได้ งานที่เราทำออกมานอกจากจะต้องเน้นเรื่องสวยงามสมจริงแล้ว ความคงทนก็จะต้องคำนึงถึงด้วย ซึ่งสินค้าที่ทำจะต้องใช้งานได้นาน”

น้ำผึ้งกล่าวต่อไปว่า งานปั้นดินแนว sweet deco แล้วนำไปตกแต่งลงบนเคสมือถือ ก็กำลังเป็นสินค้าที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ ซึ่งวันนี้ทีมงาน “ช่องทางทำกิน” ได้สัมภาษณ์ถึงเทคนิคและวิธีการทำ การตกแต่งเคสมือถือด้วยดินปั้นที่เป็นรูปขนม ไอศกรีม มานำเสนอเป็นตัวอย่าง ซึ่งน้ำผึ้งบอกว่าสำหรับการลงทุนเบื้องต้นของการทำงานตัวนี้ ใช้เงินลงทุนไม่สูง ลงทุนประมาณ 2,500 บาท ก็สามารถปั้นขายได้แล้ว

วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำ มีดังนี้คือ...ดินญี่ปุ่น, ดินไทย, สีอะคริลิก, ซิลิโคน (สำหรับตกแต่ง), ที่กลิ้งดิน (ใช้เป็นแท่งอะคริลิกหรือไม้ก็ได้), กาว (ใช้สำหรับติดพวกเครื่องประดับ), คีมหนีบ, หัวบีบที่ใช้แต่งหน้าเค้ก, น้ำยาเคลือบเงา ฯลฯ

ดินที่ใช้ปั้นจะมีทั้งดินไทยและดินญี่ปุ่น งานบางชิ้นก็จะใช้ดินไทยผสมกับดินญี่ปุ่นแล้วถึงปั้น เพราะจะทำให้ปั้นง่าย จัดรูปทรงได้ง่าย แห้งเร็ว

วิธีการทำเริ่มจาก...ออกแบบ วางรูปแบบที่ต้องการจะทำ หลังจากออกแบบเรียบร้อยแล้วก็ทำการปั้นดินให้เป็นรูปขนมตามที่ต้องการจะนำไป วางตกแต่งลงบนเคสมือถือ โดยการปั้นขนมต่าง ๆ นั้นจะต้องปั้นให้ออกมาสวยงาม สีสันต้องคล้ายของจริงที่สุด โดยใช้วิธีการดูแบบจากของจริง แล้วก็ทำการปั้น เมื่อทำการปั้นขนมจิ๋วเสร็จแล้วก็ปล่อยตากทิ้งไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง รอให้แห้ง

การผสมสีลงในดินที่ใช้ทำ จะใช้สีอะคริลิก จะให้ดินเป็นสีอะไรก็ใช้สีนั้นทำการผสมลงไปในดิน แล้วทำการนวดให้สีเข้าเป็นเนื้อเดียวกับดิน ก็จะได้ดินที่เป็นสีตามต้องการ

เมื่อได้ขนมต่าง ๆ ที่ต้องการตามแบบแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการตกแต่งลงบนเคสมือถือ เริ่มจากการนำเคสมือถือมาเช็ดทำความสะอาดพื้นผิว เช็ดเอาฝุ่นละอองออกให้หมดก่อน นำซิลิโคนบีบใส่ลงในถุงที่ติดหัวบีบสำหรับแต่งหน้าเค้ก หลังจากนั้นก็ทำการบีบซิลิโคนลงไปบนเคสมือถือที่เตรียมไว้ให้ทั่ว จากนั้นจึงนำขนมต่าง ๆ ที่ปั้นเตรียมไว้ มาทำการจัดวางตามแบบที่ออกไว้บนซิลิโคน (ถ้าต้องการให้ติดแน่นก็สามารถใช้กาวร้อนที่ใช้ติดเครื่องประดับทาลงไปบนซิ ลิโคนก่อนที่จะนำขนมต่าง ๆ มาติดตกแต่ง)

หลังจากทำการติดตกแต่งจัดวางดินปั้นรูปขนมต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ก็ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 6 ชั่วโมง รอจนงานแห้งสนิท จึงนำมาทำการทาน้ำยาเคลือบเงา ทาทั่วแล้วก็รอให้น้ำยาเคลือบเงาแห้ง ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอน

งานปั้นดินเป็นรูปขนม แนวหวาน ๆ นั้น สามารถนำไปตกแต่งติดลงบนสิ่งของได้
หลากหลาย ไม่ว่าจะติดลงบนพื้นที่เป็นไม้ โลหะ พลาสติก หรือกระจก สามารถทำได้หมด

สินค้าของน้ำผึ้งนั้นก็มีหลากหลายแบบ นอกจากเคสมือถือ ก็ยังมีกล่องใส่คอนแทคเลนส์ กล่องใส่ของใช้ กระจก กิ๊บติดผม แหวน ตุ้มหู ที่คาดผม เค้กปลอม ฯลฯ โดยมีราคาขายชิ้นละ 19-750 บาท แล้วแต่รูปแบบชิ้นงาน

ผู้ที่สนใจงานปั้นดินแนว sweet deco ตกแต่งสิ่งของต่าง ๆ ของน้ำผึ้ง-วิสุทธิณี สามารถเข้าไปดูแบบงานได้ที่ www.byladies.com หรือที่ www.facebook.com/byladies หรือหากต้องการสั่งออร์เดอร์ไปจำหน่ายต่อก็ลองโทรฯ ไปสอบถามกันดูได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08-2550-0989 ซึ่งงาน ’ปั้นดินตกแต่งสิ่งของ“ นี้ก็เป็นอีก ’ช่องทางทำกิน“ ที่น่าสนใจ.
ขอขอบคุณเจ้าของบทความ :บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน

Read More...


''ช่อไม้ประดับ'' เพิ่มไฟ รายได้ก็เพิ่ม



 
 

ช่อไม้ประดับ ที่ขายกันทั่วไปนั้น สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าได้อีก เพียงพลิกแพลงเพิ่มลูกเล่นเข้าไปก็ทำให้ช่อไม้ประดับนั้นกลายเป็นของที่มี ราคาเพิ่มขึ้นมาทันที ยกตัวอย่างเช่น “ช่อไม้ประดับมีไฟ” ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอให้พิจารณากันเป็นกรณีศึกษาการทำกินในวันนี้...

ดารณี แต้สุจิ หรือ คุณบู่ อดีตพนักงานบริษัท เจ้าของร้านช่อไม้ประดับ Natural Arts ในตลาดนัดสวนจตุจักร บอกเล่าถึง “ช่อไม้ประดับมีไฟ” นี้ว่า เป็นผลงานต่อยอด จากที่ทำอาชีพประดิษฐ์ดอกไม้ประดับมากว่า 10 ปี โดยก่อนหน้านั้นทำงานบริษัทอยู่ราว 20 ปี เมื่อเศรษฐกิจฟองสบู่แตกจึงเลือกที่จะออกมาทำงานส่วนตัว ไม่เป็นลูกจ้างอีกต่อไป

“ช่วงที่ทำงานก็ชอบจัดดอกไม้เป็นงานอดิเรกอยู่แล้ว ก็เลยไปหัดทำดอกไม้จากเกล็ดปลา ดอกไม้จากใบยางพารา จากสถาบันวิจัยยาง ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ต่อมาเมื่อได้ที่ในสวนจตุจักรจึงคิดว่าจะประกอบอาชีพด้านนี้ เพราะตลาดนี้มีต่างชาติเดินชอปปิงมาก ต่างชาติชอบผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ คิดว่าเดินทางนี้คงไม่ผิด”

สำหรับช่อไม้ประดับมีไฟ ดารณีเล่าว่า เป็นพัฒนาการตกแต่งช่อไม้ประดับ ซึ่งความคิดริเริ่มนี้มาจากข้อเสนอแนะจากลูกค้าที่มาซื้อของที่ร้าน และตนเองก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ จนได้เป็นรูปเป็นร่างในปัจจุบัน ดารณีได้อธิบายวิธีการทำช่อไม้ประดับมีไฟ โดยยกตัวอย่าง “ช่อคาร่าลิลลี่” ซึ่งวัสดุที่ใช้ก็มี ชุดไฟ 20 จุด (เส้นละ 5 จุดต่อชุดไฟ 1 ชุด มี 4 เส้น) และสายปลั๊ก ราคา 35 บาทต่อชุด, ลวดขนาดต่าง ๆ (พันด้วยกระดาษพันก้าน),  กลีบดอกโสน 20 ชิ้น (รูปแบบดอกคาร่า กว้าง 10 ซม. สูง 11 ซม.), กลีบดอกโสนรูประฆังคว่ำ (สำหรับทำเกสร กว้าง 7 ซม. สูง 7.5 ซม.), ใบไม้จากกระดาษสา 8 ใบ, ลวดขนาดต่าง ๆ, ท่อหด, สก๊อตเทป, ด้ายขาว, กาว และน้ำเปล่า

ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ หลัก ๆ ก็มี กรรไกร, คัตเตอร์, ไฟแช็ก, ไม้ไอศกรีม, ชุดทดลองไฟ ฯลฯ วิธีทำ เริ่มที่ทำเกสรดอกด้วยการใช้กลีบดอกโสนที่ตัดเป็นรูประฆังคว่ำ ม้วนเป็นวงกลมมัดติดกับก้านลวดเบอร์ 24 (ยาว 12 นิ้ว) ซึ่งพันกระดาษพันก้านสีเขียว จากนั้นพับกลีบดอกโสนให้เป็นรูปดอกไม้ ให้มีช่องว่างด้านล่างเพื่อสอดเกสรและดวงไฟเข้าไปในตัวดอกไม้ได้ มัดก้านดอกไม้ด้วยด้ายขาวให้แน่น และพันด้วยกระดาษพันก้านสีเขียวเข้มอีกครั้งหนึ่ง เท่ากับได้ดอกโสน 1 ดอก
เมื่อทำครบ 4 ดอก ในไฟสาย 1 เส้นแล้ว ให้ติดใบไม้ ซึ่งเป็นใบไม้จากกระดาษสา 1 ใบ ซึ่งจะต้องจัดเป็นช่อให้สวยงาม โดยเรียงดอกไม้ให้ลดระดับความสูง-ต่ำ ให้ดูมีมิติของช่อดอกไม้ โดยใช้ลวดเบอร์ 18 เป็นตัวคอยพยุงให้เป็นช่อ

ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนครบไฟสาย 5 เส้น มัดเป็นช่อดอกไม้รวมกัน จากนั้นใช้ก้านลวดเบอร์ 12 (ยาว 22 นิ้ว) เป็นก้านหลัก เพื่อรวมช่อย่อยทั้ง 5 ช่อเข้าด้วยกัน  ซึ่งจะได้ดอกไม้ 20 ดอก และติดใบไม้เพิ่มอีก 4 ใบ เท่านี้ก็จะได้ช่อดอกไม้ใหญ่ 1 ช่อ ขั้นตอนต่อมาคือ ต่อวงจรไฟฟ้าภายในช่อดอกไม้ โดยวิธีการต่อคุณบู่บอกว่า ในไฟสาย 1 เส้น จะมีสายไฟ 2 เส้น คือสายยาวและสายสั้น โดยการต่อสายไฟนั้นให้เริ่มที่เอาลวดสายสั้นของสายไฟเส้นที่หนึ่งต่อเข้ากับ ลวดสายยาวของสายไฟเส้นที่สอง, ลวดสายสั้นของสายไฟเส้นที่สองต่อกับลวดสายยาวของสายไฟเส้นที่สาม, ลวดสายสั้นของสายไฟเส้นที่สามต่อกับลวดสายยาวของสายไฟเส้นที่สี่, ลวดสายสั้นของสายไฟเส้นที่สี่ต่อกับลวดสายยาวของสายไฟเส้นที่ห้า และลวดสายสั้นของสายไฟเส้นที่ห้าต่อกับลวดสายยาวของสายไฟเส้นที่หนึ่ง ซึ่งสายสุดท้ายจะต่อกับสายปลั๊ก

ขั้นตอนสุดท้าย ใช้ท่อหดเล็กสวมตรงรอยต่อระหว่างลวดไฟทุกเส้น เพื่อปกปิดไม่ให้เห็นลวดที่เชื่อมต่อกัน เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ ซึ่งก่อนจะขายนั้น ต้องทดลองไฟก่อนว่าไฟติดหรือเปล่าด้วย

ราคาขาย “ช่อไม้ประดับมีไฟ” นี้ อยู่ที่ช่อละ 300-450 บาท โดยมีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 180 บาท

ใครสนใจ “ช่อไม้ประดับมีไฟ” ของ ดารณี แต้สุจิ หรือคุณบู่  สามารถติดต่อได้โดยตรงที่ร้านในตลาดนัดสวนจตุจักร อยู่โครงการ 9 ซอย 13 เปิดทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ หรือสอบถามที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-1274-1823 หรืออีเมลไปคุยกับเธอได้ที่ daraneetay@hotmail.com ซึ่งก็เป็นอีกกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” ที่ “ต่อยอดเพิ่มรายได้”.

ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล

Read More...


“ที่คล้องประตู” ทุนต่ำ-ทำง่าย-ขายลื่น

.
.
.


อาชีพทำกินหลาย ๆ อาชีพ นอกจากจะต้องมีฝีมือแล้ว ในเรื่องการมองหาโอกาส การมองหาตลาด ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญและมองข้ามไม่ได้ เพราะยิ่งจับจุดความต้องการของลูกค้าได้เร็วได้มากแค่ไหน โอกาสที่สินค้าจะกลายเป็นที่สนใจก็มีมากขึ้น แม้แต่งานที่ดูง่าย ๆ แต่เมื่อนำมาเติมแต่งด้วยไอเดียเก๋ ๆ กวน ๆ ก็สามารถที่จะทำเป็นอาชีพได้อย่างดี อย่างเช่นงานประดิษฐ์ ’ที่คล้องประตู“ ที่วันนี้ทีม ’ช่องทางทำกิน“ มีข้อมูลมานำเสนอให้พิจารณากัน...
                  
“จารุวรรณ อินจันทร์” และ “ศักดิ์นรินทร์ เรืองโรจน์วรไชย” ประดิษฐ์ “ที่คล้องประตู” จำหน่าย โดยจารุวรรณเล่าว่า ตนเองและศักดิ์นรินทร์มีอาชีพหลักอยู่แล้วคือเป็นพนักงานคอมพิวเตอร์กราฟิก ทำให้มีโอกาสได้พบเห็นงานออกแบบ งานกราฟิก งานไอเดียแปลกใหม่อยู่เสมอ ประกอบกับมีรูปภาพประกอบหรืองานที่ออกแบบทิ้งไว้อยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งลายเส้น ลายการ์ตูน รวมถึงการออกแบบตัวหนังสือต่าง ๆ จึงคิดว่าถ้าสามารถนำวัตถุดิบที่มีอยู่เดิมมาพัฒนาต่อยอดออกมาให้เป็นสินค้า ก็น่าจะสามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้ แต่ตอนแรกก็ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะผลิตสินค้าประเภทใด

ดังนั้น จึงลอง สำรวจตลาด ก็พบว่ามีสินค้าอยู่ประเภทหนึ่งที่ในตลาดยังมีคนทำไม่มาก อีกทั้งรูปแบบของสินค้าเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้วนั้นก็มักจะเป็นรูปแบบธรรมดา เพราะเน้นใช้งานเป็นหลัก นั่นก็คือ “ที่คล้องประตู” จึงคิดว่าหากนำงานออกแบบมาผสมผสานเข้ากับสินค้าประเภทนี้ ก็น่าจะสร้างจุดขายและสร้างความน่าสนใจให้สินค้าได้เพิ่มขึ้น จึงทดลองออกแบบและเริ่มทดลองทำออกจำหน่าย โดยในระยะแรก ๆ นั้นผลิตและจำหน่ายทางเว็บไซต์เป็นหลัก คือhttp://jikong.bigshopping.com ต่อมาก็เปิดหน้าร้านขายที่ตลาดนัดรถไฟในวันหยุด ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

“ปกติที่เคยเห็นส่วนใหญ่จะเน้นไปที่คำภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการ และมักจะมีรูปแบบเดิม ๆ เราสองคนจึงคิดว่าถ้าใส่ลูกเล่นเข้าไปก็น่าจะสร้างจุดสนใจให้กับสินค้าได้ ประกอบกับมีลายและภาพที่เก็บไว้อยู่แล้ว จึงนำมาออกแบบและผลิตขึ้น ซึ่งพอทำออกมาขายก็ปรากฏว่าลูกค้าชอบ ปัจจุบันก็มีทั้งลูกค้าที่กลับมาซื้อซ้ำ กับลูกค้าที่มาจ้างให้ออกแบบทำเพื่อนำไปใช้เป็นของที่ระลึก” จารุวรรณกล่าว

ด้านศักดิ์นรินทร์เสริมว่า แรก ๆ มักถูกลูกค้าถามตลอดว่าเป็นสินค้าอะไร ใช้ทำอะไร แต่หลังจากสินค้าเริ่มเป็นที่รู้จักกว้างขึ้น ก็ปรากฏว่ามีลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ มีทั้งเพื่อนำไปเก็บเป็นของสะสม หรือไม่ก็มาซื้อเป็นจำนวนหลายชิ้นเพื่อนำไปมอบเป็นของที่ระลึก ทั้งยังมีลูกค้าที่มาสั่งเป็นจำนวนมากเพื่อนำไปใช้คล้องประตูจริง ๆ โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นลูกค้าที่มีธุรกิจอพาร์ตเมนต์, รีสอร์ท และโรงแรมขนาดกลาง-ขนาดเล็ก นอกจากนี้ก็ยังมีลูกค้าที่มาสั่งทำพิเศษเพื่อนำไปใช้แทนของชำร่วย หรือใช้แทนการ์ดในงานแต่งและงานเลี้ยง ก็ทำให้สามารถทำขายได้ตลอดทั้งปี

สำหรับที่คล้องประตูที่ผลิตอยู่ ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 14 แบบหรือชุด โดยแต่ละชุดก็จะมีลายแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่จะคงไว้ที่ขนาดสินค้าขนาดเดียว ข้อดีของการมีสินค้าหลากหลายแบบก็คือช่วยทำให้หน้าร้านดูหลากหลายน่าสนใจ ซึ่งลูกค้าที่ซื้อไปส่วนใหญ่แต่ละครั้งที่ซื้อก็จะซื้อกันไปคนละหลายแบบ โดยแบบที่นิยมมากที่สุดเห็นจะเป็นลายการ์ตูน กับลายที่เป็นประโยคหรือวลีที่กำลังเป็นหัวข้อที่ผู้คนสนใจอยู่ในขณะนั้น

“แรก ๆ จะเป็นรูปภาพน่ารัก ลายการ์ตูน ต่อมาเราคิดว่าคำกวน ๆคำพูดติดปากที่กำลังฮิต ก็สามารถนำมาใช้ผลิตเพื่อทำเป็นสินค้าได้ เช่น เอาอยู่ ห้ามยืมตังค์ เป็นต้น ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีไม่แพ้กัน” ศักดิ์นรินทร์กล่าว

ทุนเบื้องต้นอาชีพนี้ ไม่รวมค่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับการออกแบบ จะใช้ประมาณ 1,000 บาท โดยวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นมีเพียงสติกเกอร์, กระดาษแข็ง, กรรไกร, คัตเตอร์ ส่วนทุนในการทำแต่ละชุดอยู่ที่ประมาณ 60% จากราคาขาย ซึ่งราคาขายชิ้นงานขนาดมาตรฐานคือชิ้นละ 29 บาท

ขั้นตอนการทำ เนื่องจากเป็นงานที่ใช้การออกแบบเป็นหลัก ขั้นตอนการทำหลัก ๆ จึงอยู่ที่เรื่องของการออกแบบ-คิดรูปแบบให้กับสินค้า ซึ่งคนที่สนใจจะทำงานด้านนี้ก็จะต้องมีความรู้หรือมีความชำนาญในเรื่องของ โปรแกรมการออกแบบงานกราฟิกในคอมพิวเตอร์ติดตัวอยู่บ้าง หลังจากออกแบบเสร็จแล้ว ก็ส่งไฟล์งานสำเร็จรูปให้กับโรงพิมพ์เพื่อพิมพ์ผลงานออกมาเป็นสติกเกอร์ จากนั้นก็นำมาติดลงบนกระดาษแข็งเพื่อให้เป็นทรงของที่คล้องประตู แล้วจึงนำมาตัดด้วยกรรไกรออกเป็นแผ่น ๆ พร้อมขาย ซึ่งขั้นตอนการทำหลัก ๆ มีเพียงเท่านี้ ที่เป็นจุดขายจริง ๆ คือไอเดีย
 
“จุดสำคัญที่สุดอยู่ที่จุดเริ่มต้น คือการคิดแบบ และออกแบบที่คล้องประตูให้ดูน่าสนใจ” จารุวรรณกล่าว

ใครสนใจชิ้นงาน “ที่คล้องประตู” รูปแบบนี้ ต้องการติดต่อผู้ที่ทำ ก็ติดต่อได้ที่ โทร. 08-5260-3900 หรือที่อีเมล
roungrot@hotmail.com และ mild.mapundung@gmail.com ซึ่งนี่ก็เป็นอีกตัวอย่าง ’ช่องทางทำกิน“ เป็นงานไอเดียที่คิดและผลิตขึ้นจากการมองเห็นโอกาสของคนรุ่นใหม่ เป็นงานที่ทำไม่ยาก ขายง่าย สร้างรายได้อย่างน่าสนใจไม่น้อย.

ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ เรื่อง-ภาพ

Read More...


''บ้านทรงไทย'' “ย่อส่วน” ขายได้เรื่อยๆ

.
.
.
 
 

''บ้านทรงไทย'' “ย่อส่วน” ขายได้เรื่อยๆ
บ้านทรงไทย นั้นมีความสวยงามและมีเสน่ห์ แม้แต่นำมา “ย่อส่วน” ทำเป็น “โมเดล” ก็ยังคงความสวยงามของทรงบ้านไว้ในตัว เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากผู้ที่ชื่นชอบบ้านทรงไทย สร้างรายได้ให้กับผู้ที่สร้างสรรค์ผลงานออกมาได้เป็นอย่างดี ซึ่ง “กลุ่มยี่หวาโมเดล” ที่ทำ ’บ้านทรงไทยย่อส่วน“ ทำโมเดลบ้านทรงไทยขนาดเล็กจำหน่าย ก็ได้การตอบรับจากทั้งในและต่างประเทศ และวันนี้ทางทีม ’ช่องทางทำกิน“ ก็มีข้อมูลมานำเสนอให้ลองพิจารณากัน...

บุญพร ยี่หวา ประธานกลุ่มยี่หวาโมเดล เล่าว่า ตนนั้นเรียนจบมาทางด้านก่อสร้าง หลังจากที่เรียนจบก็ได้มีโอกาสเข้าทำงานอยู่ที่บริษัทบ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง เป็นงานที่ทำโมเดลบ้านจัดสรร หลังจากที่ทำงานประจำอยู่ได้ประมาณ 5 ปี พอแต่งงานกับภรรยาก็ตัดสินใจออกจากงาน แล้วก็ย้ายไปอยู่ที่พระนครศรีอยุธยา อ.ลาดบัวหลวง ที่อยู่ปัจจุบัน พอมาอยู่ที่นี่ก็เริ่มมองหาอาชีพใหม่ทำเสริมรายได้ อยู่ที่อยุธยาก็ได้เห็นบ้านทรงไทย ก็เห็นว่าบ้านทรงไทยนั้นมีความสวยงามและมีเสน่ห์ที่น่าหลงใหล มีเอกลักษณ์ของความเป็นไทย และจากความถนัดในเรื่องของการทำโมเดลบ้านอยู่แล้ว จึงเกิดความคิดที่จะทำอาชีพโดยทำ “บ้านทรงไทยย่อส่วน” ออกเป็นสินค้าจำหน่าย

“การที่เราจะทำโมเดลบ้านทรงไทยนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเราพอที่จะมีพื้นฐานความรู้ในการทำโมเดลบ้านอยู่แล้ว แต่ก่อนที่เราจะทำบ้านทรงไทยย่อส่วน เราก็ต้องศึกษาเกี่ยวกับรูปแบบต่าง ๆ ของบ้านทรงไทย โดยการหาหนังสือเกี่ยวกับบ้านทรงไทยมาศึกษารูปแบบ” บุญพรบอก ซึ่งหลังจากที่ศึกษารูปแบบบ้านอยู่ไม่นานบุญพรก็สามารถทำบ้านทรงไทยย่อส่วน ได้สำเร็จ โดยเขาบอกว่า การทำบ้านทรงไทยย่อส่วนนั้นทำไม่ยาก หากผู้ที่ต้องการจะทำมีความตั้งใจจริง และมีความพยายาม อดทน ก็สามารถทำออกมาได้ สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐาน ก็สามารถฝึกทำได้ ใช้เวลาฝึกหัดประมาณ 1 สัปดาห์ ก็พอจะสามารถทำได้แล้ว โดยสำหรับผู้ที่เริ่มหัดทำใหม่ ๆ ก็ให้ใช้กระดาษลายไม้ทำก่อน

“ตลาดของบ้านทรงไทยย่อส่วนนั้นก็ไปได้เรื่อย ๆ ขายได้ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ” บุญพรกล่าว

ไม้ที่ใช้ทำ ก็จะมีทั้ง ไม้สัก, ไม้เมเปิ้ล และไม้ไผ่สีสุก

“เราเลือกใช้วัสดุที่หลากหลาย เพื่อที่ลูกค้าจะได้มีตัวเลือกที่หลากหลาย ถ้าเป็นไม้สักบ้านจะออกมาสีเข้ม ถ้าเป็นไม้เมเปิ้ลทำออกมาบ้านจะออกเป็นสีอ่อนหน่อย แต่ถ้าเป็นไม้ไผ่สีสุกทำออกมาบ้านจะดูเป็นสีขาว ซึ่งเป็นการสร้างความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์”

วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำบ้านทรงไทยย่อส่วน หลัก ๆ ก็มี...ไม้สัก, ไม้เมเปิ้ล, ไม้ไผ่สีสุก, กรรไกร, กรรไกรซิกแซ็ก, คัตเตอร์, กาวลาเท็กซ์, กาวร้อน, สเปรย์แล็กเกอร์, หญ้าเทียม และอุปกรณ์เขียนแบบ พวกดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด เป็นต้น

ไม้สักและไม้เมเปิ้ลจะใช้เป็นไม้แผ่นบาง หาซื้อได้ตามร้านขายไม้ ส่วนไม้ไผ่สีสุกจะต้องนำมาเหลาให้เป็นแผ่นบาง ๆ คล้ายการทำเส้นตอก

ขั้นตอนการทำเริ่มจาก...ทำตัวบ้านก่อน โดยการวาดแบบตัวบ้านลงบนกระดาษ ทำการวาดเส้นลวดลายตีตารางบนตัวบ้านให้เป็นสี่เหลี่ยมหรือที่เรียกว่า “ฝาเฟี้ยม” จากนั้นก็ตัดช่องประตูช่องหน้าต่างให้เรียบร้อย แล้วใช้กรรไกรตัดตามแบบที่วาด ทำการพับติดกัน จะได้เป็นลักษณะกล่องสี่เหลี่ยมที่ไม่มีฝาบนล่าง ยึดติดด้วยกาวให้แน่นหนา

หลังจากทำการประกอบเป็นกล่องสี่เหลี่ยมแล้ว ก็นำไม้ที่ต้องการจะใช้ทำ ไม่ว่าจะเป็นไม้สัก ไม้เมเปิ้ล หรือไม้ไผ่สีสุก มาทำการตัดให้เป็นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ เท่ากับแผ่นฝาเฟี้ยมที่วาดไว้บนตัวบ้าน แล้วทำการติดลงบนตัวบ้านที่เป็นกระดาษ โดยใช้กาวยึดติดให้แน่น ทำการติดจนรอบตัวบ้าน

เมื่อได้ตัวบ้านก็ทำการติดพื้นด้านล่าง ติดเสา ติดคาน ด้านล่างให้เรียบร้อย จากนั้นก็เริ่มมาทำหลังคา โดยการใช้กรรไกรซิกแซ็กตัดไม้ให้เป็นลักษณะฟันปลา ตัดหลาย ๆ ชิ้น นำไม้ที่ตัดมาเรียงซ้อนสลับฟันปลา ยึดด้วยกาวให้แน่นโดยเรียงให้ได้ขนาดตามแบบหลังคาที่ต้องการ จั่วบ้านก็ใช้การวาดแบบลงบนกระดาษแล้วนำไปทาบลงบนไม้แล้วตัดตามแบบ เมื่อได้หลังคากับจั่วบ้าน ก็ทำการประกอบเข้าด้วยกันและนำติดกับตัวบ้าน ติดกาวให้แน่น

จากนั้นก็ทำการตกแต่ง ติดบันได ราวบันได และก็เก็บรายละเอียดให้เรียบร้อย นำไปติดตั้งไว้บนฐานไม้ให้เรียบร้อย ตกแต่งเพิ่มด้วยการนำหญ้าเทียมมาปู ใส่ต้นไม้ปลอมตกแต่งเข้าไปให้เกิดความสวยงาม จากนั้นก็ทำการพ่นแล็กเกอร์ 2 รอบ เพื่อเพิ่มความเงาสวยงาม แล้วบรรจุลงกล่องครอบกระจก เท่านี้ก็เรียบร้อย เตรียมส่งขายได้เลย

บ้านทรงไทยย่อส่วนของบุญพรนั้นมีหลายขนาด ตั้งแต่ 1 ต่อ 100, 1 ต่อ 75, 1 ต่อ 50 และ 1 ต่อ 25 ส่วนรูปแบบบ้านนั้นมีหลากหลาย ทั้ง เรือนหมู่หอกลาง เรือนหมู่ เรือนสองหลังบันไดข้าง เรือนเดี่ยวบันไดหน้าและบันไดข้าง โดยราคาขายนั้นขึ้นอยู่กับขนาดและรูปแบบของบ้าน ราคาก็มีตั้งแต่ 400-6,500 บาท

ผู้ที่สนใจ ’บ้านทรงไทยย่อส่วน“ ของกลุ่มยี่หวาโมเดล ต้องการติดต่อ ก็สามารถสั่งทำและติดต่อสอบถามได้ที่ บุญพร เลขที่ 333/381 ต.สามเมือง อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เบอร์โทรศัพท์ 08-9992-4529 ซึ่งนี่ก็เป็นอีกรูปแบบ “ช่องทางทำกิน” ที่อิงกับวิถีไทยดั้งเดิม ซึ่งก็น่าพิจารณาไม่น้อยเลย...
ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ รายงาน

Read More...


ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0










































 
Blogger Tips and TricksLatest Tips And TricksBlogger Tricks
Do it your self,handmade,HandiCraft,งานฝีมือ,อาชีพเสริม,ช่องทางทำเงิน บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.