บทความที่ได้รับความนิยม


Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

‘พวงกุญแจรูปสัตว์’ อีกหนึ่งงานทำมือทำเงิน

ตลาดงานแฮนด์เมดมีการเติบโตอย่างรวดเร็วทำให้ตลาดมีการแข่งขันกันสูง สินค้าแฮนด์เมด แม้จะเป็นงานขายไอเดียจินตนาการ ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมองหาจุดขาย สร้างความแตกต่างให้กับสินค้า ผู้ผลิตงานจำเป็นต้องมีการตื่นตัวปรับตัวตลอดเวลา ซึ่งกับเจ้าของงาน ’พวงกุญแจรูปสัตว์“ ที่ทีม ’ช่องทางทำกิน“ จะนำเสนอในวันนี้ ก็เช่นกัน...

 “เทวินทร์ แก้วสมบัติ” เจ้าของงาน “พวงกุญแจรูปสัตว์” เล่าว่า เรียนทางด้านออกแบบนิเทศศิลป์ ช่วงนั้นก็ทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วย โดยทำงานออกแบบจัดหน้าหนังสือ หลังจากเรียนจบก็ทำงานจัดหน้าหนังสืออยู่ระยะหนึ่ง แล้วก็เริ่มเบื่อ อยากลองเปลี่ยนงานดู จึงหันมาทำงานเกี่ยวกับงานโปรดักส์ดีไซน์ ออกแบบแพ็กเกจจิ้ง เป็นการเปลี่ยนสายงานไปเลย เพราะการออกแบบแพ็กเกจจิ้งเป็นงานที่มีการขึ้นรูป มีมิติ ไม่เหมือนกับการออกแบบหน้าหนังสือ

 

 


หลังจากที่หันมาทำงานออกแบบ  แพ็กเกจจิ้ง ก็มีความรู้สึกว่าชอบ ก็ไปเรียนหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อเอามาใช้กับงานที่ทำอยู่ ทำงานออกแบบแพ็กเกจจิ้งมากว่า 20 ปี ทำงานเป็นพนักงานบริษัทมานาน ที่สุดก็เริ่มอยากเป็นเจ้าของกิจการของตัวเองบ้าง ช่วงแรกก็ยังไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่ แต่ก็ตัดสินใจออกมารับงานออกแบบอิสระ ทำงานของตัวเอง ซึ่งก็ทำให้มีเวลามากขึ้น จนวันนี้ก็ออกมาทำงานของตัวเองได้ประมาณ 3 ปีแล้ว

เมื่อมีเวลาว่าง ก็มานั่งคิดทำงานหารายได้เสริม ก็คิดที่จะทำอะไรหลายอย่าง จนมาลงตัวที่งานพวงกุญแจรูปสัตว์ เป็นงานแฮนด์เมดทำมือทุกขั้นตอน ใช้ชื่อแบรนด์ว่า “tewindesigns” โดยออกแบบตัวสัตว์ให้ออกมาเป็นเอกลักษณ์ สร้างจุดเด่นให้กับสินค้า นอกจากนั้นก็ทำแพ็กเกจกล่องใส่พวงกุญแจด้วย เพื่อให้สินค้าดูดี น่าสนใจ และมีคุณค่ามากขึ้น

กว่าที่จะได้รูปสัตว์ต่าง ๆ เพื่อที่จะทำเป็นพวงกุญแจ ก็ใช้เวลาออกแบบหลายรอบ ปรับแก้แบบอยู่ประมาณ 2-3 รอบกว่าที่จะได้แบบที่ต้องการ ซึ่งต้องละเอียดในการออกแบบ ตัวการ์ตูนต้องออกมาดูแล้วมีเสน่ห์ในตัวของมันเอง

วัสดุที่ใช้ทำพวงกุญแจรูปสัตว์ หลัก ๆ ก็มี...ผ้ายืด, ใยสังเคราะห์ (ใยโพลีเอสเตอร์), ห่วงเหล็ก (สำหรับทำห่วงกุญแจ) ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ ก็เป็นพวก กรรไกร, เข็มหมุด, เข็ม-ด้าย

การลงทุนในเบื้องต้นเพื่อที่จะทำงานนี้ ใช้ทุนประมาณ 5,000 บาท

เทวินทร์บอกว่า ที่ใช้ผ้ายืดทำก็เพราะว่าผ้ายืดสามารถยืดหยุ่นได้ดี เวลาทำแล้วสามารถแต่งเข้ารูปได้ง่าย ลวดลายผ้าก็สวย ที่สำคัญเวลาทำรูปตัวการ์ตูนสัตว์ออกมาแล้วดูสวย ซึ่งยังไม่ค่อยมีใครนำผ้ายืดมาใช้ทำกัน โดยผ้า 1 เมตรสามารถทำการ์ตูนรูปสัตว์ได้ประมาณ 10 กว่าตัว

ขั้นตอนการทำ...เริ่มจากทำการออกแบบรูปการ์ตูนสัตว์ต่าง ๆ ที่ต้องการจะทำเป็นพวงกุญแจในคอมพิวเตอร์ หรือจะใช้วิธีวาดแบบลงบนกระดาษก็ได้ จากนั้นนำแบบที่ออกแบบไว้มาทำการตัดแพทเทิร์นลงกระดาษแข็ง

ถัดมาก็ทำการเลือกผ้า เลือกลวดลายและสีตามที่ต้องการ เลือกผ้าได้แล้วก็ตัดผ้าให้เป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า ความสูงประมาณ 15 เซนติเมตร ส่วนความยาวนั้นแล้วแต่แบบของการ์ตูนที่ออกแบบ เมื่อทำการตัดผ้าเรียบร้อยแล้วก็ทำการพับผ้าแบ่งครึ่ง ใช้เข็มหมุดกลัดให้เรียบร้อย กันผ้าเลื่อน

เวลาพับผ้าแบ่งครึ่ง จะต้องทำการจัดผ้าให้เรียบร้อย โดยลายของผ้าทั้งด้านหน้าและด้านหลังนั้นจะต้องตรงกัน เพื่อที่เวลาทำตัวการ์ตูนรูปสัตว์ออกมาแล้วจะได้ดูสวย

เมื่อเตรียมผ้าเรียบร้อยแล้ว ก็นำแพทเทิร์นที่ต้องการจะทำมาวางลงบนผ้า วาดตามแบบแพทเทิร์นจากนั้นก็ทำการเย็บตามรอยวาด โดยการเย็บจะต้องเย็บให้แน่นหนาและมีความถี่ หลังจากที่เย็บเกือบครบรอบ โดยเหลือช่องว่างไว้ประมาณหนึ่ง ก็ใช้กรรไกรตัดผ้าตามแบบ โดยตัดห่างจากที่ส่วนเย็บประมาณ 1 เซนติเมตร จากนั้นยัดใยสังเคราะห์เข้าไปในช่องที่เว้นไว้ ทำการยัดให้แน่นพอประมาณ อย่ายัดจนแน่นเกินไป

ยัดใยสังเคราะห์เสร็จก็ทำการเย็บปิดรูที่เว้นไว้ให้เรียบร้อย แล้วก็ทำห่วงสำหรับใช้ใส่ห่วงเหล็ก โดยการใช้ด้ายเย็บทำเป็นห่วงด้านบนหัวการ์ตูนสัตว์ ซึ่งด้ายที่ทำนั้นจะต้องให้เน้นหนาแข็งแรง จากนั้นก็นำห่วงเหล็กมาใส่ แล้วก็ใส่กิ๊บหลาย ๆ อันสำหรับใช้เกี่ยวกับกุญแจที่จะมาใส่ สุดท้ายก็เป็นการจัดใส่แพ็กเกจที่เป็นกล่องทรงสามเหลี่ยม เป็นอันเสร็จ

“พวงกุญแจรูปสัตว์” ของเทวินทร์นั้น นอกจากจะใช้เป็นพวงกุญแจแล้ว ยังทำเป็นที่ห้อยมือถือหรือห้อยกระเป๋าก็ได้ มีหลากหลายแบบ เช่นพวก 12 นักษัตร และรูปสัตว์อื่น ๆ โดยมีราคาขายอยู่ที่ชิ้นละ 139 บาท ถ้าลูกค้าให้จัดส่งให้ก็มีค่าส่งอีก 30 บาท ซึ่งเจ้าของงานนี้บอกว่าสั่งแค่ 1 ชิ้นก็ส่ง

สนใจ ’พวงกุญแจรูปสัตว์“ เข้าไปชมแบบสินค้าได้ที่ www.tewin designs.com หรือต้องการจะสั่งซื้อไปใช้ หรือไปจำหน่ายต่อ ก็ติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08-9929-6908 โดยเทวินทร์ บอกว่าถ้าจะสั่งออร์เดอร์ครั้งละเยอะ ๆ ก็ต้องโทรฯไปคุยกันล่วงหน้าไว้ก่อน เพราะ “ช่องทางทำกิน” รูปแบบนี้เป็นงานทำมือ ก็ต้องใช้เวลาทำนานหน่อย.

บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน

..........................................

คู่มือลงทุน...พวงกุญแจรูปสัตว์

ทุนเบื้องต้น    ประมาณ 5,000 บาท
ทุนวัสดุ        ประมาณ 60% ของราคา
รายได้        ราคา 139 บาท / ชิ้น
แรงงาน        1 คน
ตลาด        ลงขายผ่านอินเทอร์เน็ต
จุดน่าสนใจ    ทุนต่ำ, ทำเป็นอาชีพเสริมได้




Read More...


หุ่นพิมพ์ 3 มิติ ทำเงินแปลกใหม่ไฮเทค



งานศิลปะ-งานประดิษฐ์ในปัจจุบัน นอกจากจะแข่งขันกันที่เรื่องของรูปแบบความสวยงามแล้ว เทคโนโลยีก็เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์ชิ้นงาน ใหม่ ๆ เกิดขึ้น อย่างเช่นงาน ’หุ่นพิมพ์ 3 มิติ“ ของ ’ทรงพร ชัยศิลป์วัฒนา“ ที่มีการนำภาพถ่ายกับเทคโนโลยีมาใช้เพื่อผลิตชิ้นงาน เป็นอีกกรณีศึกษา ’ช่องทางทำกิน“ ที่น่าสนใจ...

                             
เจ้าของชิ้นงาน ’หุ่นพิมพ์ 3 มิติ“ ที่ว่านี้ เล่าว่า เรียนจบทางศิลปะและชอบงานปั้นหุ่นมาก แต่งานประเภทนี้ต้องใช้ระยะเวลานานเพราะมีกระบวนการหลายขั้นตอนกว่าจะออกมา เป็นหุ่นสักตัวหนึ่ง อีกทั้งราคาต่อชิ้นงานก็มักจะมีราคาแพง ทำให้ไม่ค่อยแพร่หลายสำหรับบุคคลทั่วไปนัก จนต่อมาเมื่อเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์พัฒนาและแพร่หลายขึ้น จึงเริ่มมีธุรกิจที่เกี่ยวกับการตกแต่ง โดยนำภาพของคนมาแทรกเข้ากับฉากหรือสถานที่ต่าง ๆ เพื่อจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว

ประกอบกับได้เห็นงานปั้นหุ่นขนาดเล็ก แต่เป็นงานในลักษณะภาพล้อเลียนหรือตัวการ์ตูน จึงคิดว่าหากนำเทคโนโลยีมาผสานเข้ากับงานปั้นหุ่น น่าจะเป็นช่องทางในการทำอาชีพหรือธุรกิจได้ จึงตัดสินใจทดลองค้นคว้าและพัฒนาเครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ จนเกิดเป็นเทคโนโลยีสำหรับการพิมพ์หุ่นพิมพ์ 3 มิติเสมือนต้นแบบนี้ขึ้น โดยใช้เวลาในการพัฒนามานาน 10 กว่าปี และขณะนี้ก็ได้ทำการจดอนุสิทธิบัตรเพื่อให้เป็นสิ่งประดิษฐ์จากฝีมือคนไทย เรียบร้อยแล้ว

องค์ประกอบสำคัญของเทคโนโลยีที่นำมาใช้ ประกอบไปด้วยเครื่องสแกนภาพต้นแบบหรือตัวแบบที่สแกนได้ทั้งตัวหรือเฉพาะส่วน ใบหน้า กับเครื่องพิมพ์ที่ใช้ในการพิมพ์ใบหน้าหรือหุ่นตัวแบบได้โดยตรงจากการสั่ง งานผ่านโปรแกรมในเครื่องคอมพิวเตอร์

“เทคโนโลยีตัวนี้เกิดขึ้นเพื่อทดแทนการปั้นที่ต้องใช้ระยะเวลานาน ข้อดีคือ สะดวกรวดเร็วกว่า โดยจะเป็นการพิมพ์ซ้อนทับจนหุ่นหรือใบหน้าตัวแบบนูนขึ้น และเพิ่มสีหรือลงรายละเอียดต่าง ๆ บนใบหน้าได้เหมือนคนจริงมากที่สุด แม้กระทั่งแววตา ที่สำคัญราคาต่อหนึ่งชิ้นงานก็ยังถูกกว่างานปั้น” เจ้าของชิ้นงานกล่าว

ทรงพรระบุอีกว่า เหตุที่คิดจับทำธุรกิจตัวนี้ขึ้นมา เนื่องจากมองว่าทุกคนต่างต้องการสิ่งที่จะทำให้หวนระลึกถึงเพื่อเก็บไว้เป็น ความทรงจำ โดยเฉพาะช่วงเวลาสำคัญ ๆ ที่เกิดขึ้น อาทิ งานรับปริญญา, งานแต่งงาน, งานเกษียณ นอกจากนี้ยังมองไปที่ตลาดของที่ระลึก นักท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาเรามักจะพบแต่ชิ้นงานอย่างเช่น ภาพถ่าย, ภาพวาด, ตุ๊กตาปั้น ซึ่งงานหุ่นพิมพ์ 3 มิตินี้ ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำหรับเก็บบันทึกช่วงเวลาดี ๆ นั้นไว้

รูปแบบชิ้นงานที่มีการทำอยู่ แบ่งออกเป็นหุ่นชนิดต่าง ๆ อาทิ หุ่นคู่รัก-คู่แต่งงาน, หุ่นคอสตูม, หุ่นกีฬา, หุ่นนักศึกษา-ชุดรับปริญญา, หุ่นฮีโร่, หุ่นคนชรานั่งเก้าอี้โยก, หุ่นนักธุรกิจ และหุ่นครึ่งตัว โดยตลาดของชิ้นงานอยู่ในกลุ่มของขวัญ ของที่ระลึก และของตกแต่ง ซึ่งทำให้มีตลาดจำหน่ายชิ้นงานที่กว้างมาก คือตั้งแต่ร้านเวดดิ้ง, นักศึกษา, วัยทำงาน, ข้าราชการ และนักท่องเที่ยว ส่วนขนาดนั้นมีตั้งแต่ 7 นิ้ว ไปจนถึง 18 นิ้ว

ทุนเบื้องต้นธุรกิจนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดและทำเลของกิจการ โดยมีอุปกรณ์เครื่องมือหลายอย่างที่จำเป็นต้องฝึกฝนและประกอบติดตั้ง ซึ่งเครื่องมือวัสดุหลัก ๆ ประกอบด้วย เครื่องสแกนภาพ 3 มิติ, เครื่องพิมพ์หุ่น, แป้งและสีที่เป็นชุดเฉพาะสำหรับผลิตชิ้นงาน ส่วนทุนวัสดุอยู่ที่ประมาณ 40% ของราคาขาย ซึ่งมีตั้งแต่  3,500 บาทขึ้นไป ขึ้นกับขนาดของหุ่นขั้นตอนการทำ กระบวนการผลิตหุ่นพิมพ์ 3 มิตินี้ เริ่มจากนำเครื่องสแกน 3 มิติ (3D) มาสแกนใบหน้าหรือลำตัวต้นแบบในมุมต่าง ๆ เพื่อเก็บรายละเอียดลักษณะโครงสร้าง สีหน้า สีผิว รูปร่าง แววตา จากนั้นนำข้อมูลที่เก็บได้จากเครื่องสแกน 3 มิติไปเข้าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่คิดค้นขึ้นเพื่อประเมินผลด้วยการประกบภาพ ซ้อนใบหน้าหรือรูปร่างท่าทางนั้นเข้าด้วยกัน เพื่อกำหนดและตกแต่งเพิ่มเติมรายละเอียดต่าง ๆ ให้สมบูรณ์คล้ายต้นแบบมากที่สุด

เมื่อได้ต้นแบบที่ต้องการแล้วจึงทำการป้อนคำสั่งไปยังเครื่องพิมพ์หุ่น 3 มิติ ซึ่งสามารถพิมพ์ได้ตั้งแต่ใบหน้า ศีรษะ หรือทั้งตัว โดยขั้นตอนต่าง ๆ ใช้เวลาตั้งแต่ 2 ชั่วโมงขึ้นไป ขึ้นอยู่กับรายละเอียดและขนาดของหุ่นพิมพ์ที่ต้องการ
“จุดขายอยู่ที่ความรวดเร็ว ความเหมือนของสีผิวและโครงร่าง ซึ่งหากเป็นร้านถ่ายภาพที่มีสตูดิโออยู่แล้วก็สามารถที่จะนำเทคโนโลยีตรงจุด นี้ไปติดตั้ง สามารถที่จะต่อยอดเพิ่มเป็นสินค้า เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า และเพิ่มกำไรให้ธุรกิจเดิมได้อย่างดี ซึ่งที่ร้านเองก็รับสั่งทำหุ่นพิมพ์ตามออร์เดอร์ นอกจากนี้หากใครสนใจที่จะลงทุนทำเป็นธุรกิจเครือข่ายของเราก็สามารถสอบถาม รายละเอียดมาได้ เพราะทางเราก็มีการทำตรงจุดนี้ด้วย” ทรงพร เจ้าของชิ้นงานกล่าว
       
ใครสนใจ ’หุ่นพิมพ์ 3 มิติ“ ดูเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์ www.papme.net ต้องการติดต่อกับทรงพร ติดต่อได้ที่ โทร. 0-2512-3322 หรืออีเมล papme@live.com และผู้ประกอบการรายนี้ยังมีร้านต้นแบบคือ ร้านแพบมี ชั้น 2 ห้อง s169 ห้างสรรพสินค้าเจเจมอลล์จตุจักร โดยมีการบอกกับทางเรามาด้วยว่า ใครที่สนใจ หากอ่านเจอจากคอลัมน์นี้ ถือคอลัมน์นี้ไปที่ร้านด้วย ทางร้านจะมีสิทธิพิเศษให้ในฐานะแฟนตัวจริงของคอลัมน์ช่องทางทำกิน หนังสือพิมพ์เดลินิวส์.

(ชมคลิปวิดีโอ “ช่องทางทำกิน” ได้ที่ www.dailynews.co.th)
ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ เรื่อง / วรัญญู เหมือนเดช ภาพ




Read More...


'พานพุ่มเลื่อม' สานวิถีไทยสร้างอาชีพ



 เก็บตกจากงาน “ตลาดนัดภูมิปัญญาไทยสร้างอาชีพ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ” ระหว่างวันที่ 11-12 ก.ย.ที่ผ่านมา ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร จัดโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งภายในงานมีการสอนและสาธิตงานศิลปะประดิษฐ์หลายอย่าง และอย่างหนึ่งที่ทีม “ช่องทางทำกิน” นำข้อมูลมานำเสนอให้ได้พิจารณากันในวันนี้ คือ “พานพุ่มเลื่อม” ที่มีสีสันสวยงาม ซึ่งใครทำได้ประณีตก็อาจทำเงินได้...

           
จริยา ชื่นตา วิทยากรผู้ฝึกสอนการทำ “พานพุ่มเลื่อม” บอกว่า รับฝึกสอนการทำพานพุ่มเลื่อมนี้มา 5 ปีแล้ว โดยหลังจากเกษียณอายุจากการเป็นครูที่วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานีเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ก็หาเวลาว่างหลังเกษียณตระเวนฝึกอาชีพตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งก็ทำได้หลายอย่าง อาทิ แพ็กเกจการบูร แพ็กเกจเม็ดหอม แพ็กเกจผงถ่าน พานพุ่ม ฯลฯ เมื่อทำได้แล้วก็รับสอนต่อ ซึ่งก็สอนมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน

“อย่างพานพุ่มเลื่อมนี้ก็ไปเรียนมาจากกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ พอทำได้ก็ปรับรูปแบบและขนาดให้ถูกใจของตัวเอง และก็รับสอน ซึ่งก็มีคนสนใจมาก” จริยา เล่า    

วัสดุ–อุปกรณ์ในการทำพานพุ่มเลื่อม หลัก ๆ ก็มี โฟมรูปหยดน้ำ (ก้นแบน) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 ซม. สูงประมาณ 9 ซม., เม็ดเลื่อมกลม (มีหลายสี อาทิ ฟ้า ชมพู ม่วง ขาว ทอง เงิน ฯลฯ) กาวลาเท็กซ์ หรือกาวแท่ง พร้อมปืนกาว, พานเงิน-พานทอง โดยเลือกใช้ขนาดของพานที่ฐานกว้าง 10 ซม., เม็ดพลาสติกสีเงิน-สีทอง ไล่เรียง 3 ขนาด เล็ก-กลาง-ใหญ่, ดอกเลื่อม และด้าย–เข็มเย็บผ้า วัสดุ-อุปกรณ์เหล่านี้หาซื้อได้ที่สำเพ็ง ซึ่งเป็นย่านค้าส่งขนาดใหญ่ วิธีทำ เริ่มที่นำโฟมมาทากาวที่ฐาน แล้วแปะบนพาน จับโฟมให้ตั้งตรง เสร็จแล้วนำเลื่อมที่เลือกสีแล้วมาแตะกาวแล้ววางบนโฟม โดยเริ่มแปะเลื่อมที่บริเวณยอดก่อน เรียงเป็นแนวนอน โดยเรียงเลื่อมให้ซ้อนเหลื่อมกันเล็กน้อย จนครบรอบ โดยให้ด้านริมขวาของเลื่อมแผ่นสุดท้ายไปซ้อนอยู่ใต้ด้านริมซ้ายของเลื่อม แผ่นแรกของแถว ทำแบบนี้ในแถวที่ 2, 3, 4, 5 ไปเรื่อย ๆ จนถึงฐานของโฟมที่ติดกับขอบพาพอดี     นำดอกเลื่อมที่เลือกสีแล้วมาแปะติดบน โฟมที่แปะเม็ดเลื่อมแล้ว โดยแปะเป็นรูปพวงมาลัย ซึ่งจะขึงเส้นด้ายเป็นแนวพวงมาลัยไว้ก่อน เพื่อกันไม่ให้แนวพวงมาลัยเบี้ยวเวลาแปะดอกเลื่อม โดยด้านล่างของพวงมาลัยจะสูงจากขอบพานประมาณ 1 นิ้ว การทำพวงมาลัยนี้จะใช้ดอกเลื่อมประมาณ 16-18 ดอก แล้วใช้เลื่อมเม็ดเล็กที่สุดมาทำเป็นเกสร โดยวางบนกึ่งกลางของดอกเลื่อม แปะด้วยกาว   

จากนั้นนำดอกเลื่อม 12 ดอก มาบีบให้เป็นดอกแย้ม เตรียมไว้ เสร็จแล้วทำพู่ห้อย 3 สาย โดยใช้เข็มร้อยด้ายร้อยเม็ดเงินหรือเม็ดทองสลับดอกแย้ม ทำแบบนี้ 3 สาย โดยให้แต่ละสายยาวประมาณ 7 ซม. แล้วนำพู่ห้อยทั้ง 3 สายมามัดรวมกัน มัดติดลวดเสียบไปในโฟมตรงกึ่งกลางฐานพวงมาลัย แล้วนำดอกแย้มมาปิดบริเวณที่เสียบพู่เพื่อความสวยงาม

ส่วนยอดโฟม ให้นำลวดยาว 4.5 นิ้ว มาร้อยลูกปัดจากใหญ่ไปหาเล็ก สลับกับดอกเลื่อม ส่วนขนาดความยาวตามความต้องการ แล้วปิดหัวด้วยการงอปลายลวดลงให้ชิดกัน ส่วนลวดด้านล่างให้แปะกาวแล้วนำไปเสียบบนยอดโฟม เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย 

ขั้นตอนทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น เป็นการทำพานพุ่มเลื่อมแบบคร่าว ๆ แต่การตกแต่ง การใช้สีของเม็ดเลื่อม ดอกเลื่อม ลูกปัด ขึ้นอยู่กับการออกแบบของผู้ที่ทำจริยาบอกว่า พานพุ่ม 1 คู่ ใช้เวลาทำประมาณ  6 ชั่วโมง ราคาขายอยู่ที่คู่ละ 300 บาท มีต้นทุนไม่เกิน 100 บาท ซึ่งหากใครมีฝีมือในการทำ และมีแหล่งจำหน่าย นี่ก็นับว่าเป็นชิ้นงานที่มีกำไรดีพอสมควร
                   
ใครสนใจเรื่อง “พานพุ่มเลื่อม” ต้องการติดต่อ จริยา ชื่นตา ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-9822-9491 ซึ่งงานประดิษฐ์ในกลุ่มภูมิปัญญาไทยนั้น ยุคปัจจุบันก็หวนกลับมาเป็น “ช่องทางทำกิน” ได้หลากหลายเช่นกัน.
สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล รายงาย




Read More...


'ตราปั๊มยางลบ' สร้างรายได้จากวัสดุชิ้นจิ๋ว


 
งานศิลปะบางแขนงสามารถนำวัสดุบางอย่างมาผนวกเข้ากับงานฝีมือบางประเภทได้ อย่างน่าสนใจ นอกจากจะโดดเด่นด้วยความสวยงามแล้ว ลักษณะเฉพาะของการรวมจุดเด่นของงานแต่ละด้านก็นับว่าเป็นจุดขายสำคัญที่ทำ ให้สินค้ามีความต่าง สร้างจุดขายให้กับชิ้นงาน อย่างเช่นการแกะสลักยางลบจนกลายเป็นชิ้นงาน ’ตราปั๊มจากยางลบ“..
 
                      
“ปัชชา ทิพย์พญาชัย” เล่าว่า เรียนมาทางด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ สาขาศิลปะอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เดิมเป็นคนชอบงานประดิษฐ์กับงานฝีมือมาตั้งแต่เด็กแล้ว ต่อมามีโอกาสได้เห็นงานแกะสลักยางลบ เกิดความสนใจ และอยากจะเรียนรู้ จึงพยายามหาข้อมูลตามแหล่งต่าง ๆ และลองซื้อยางลบเพื่อนำมาลองฝึกหัดการแกะสลักด้วยตัวเอง จนมีทักษะและความชำนาญในงานฝีมือชนิดนี้ ประกอบกับหลายคนที่ได้เห็นก็ชมว่าสวยและแปลกดี อยากให้ทำให้บ้าง และเกิดความคิดว่างานฝีมือตรงนี้สามารถที่จะนำมาทำเป็นอาชีพเสริมได้ จึงลองออกแบบเป็นลวดลายการ์ตูนน่ารัก ๆ แล้วขายผ่านทางเฟซบุ๊ก ใช้ชื่อว่า www.facebook.com/pages/Gomugomu

จากจุดเริ่มต้น ต่อมาก็ได้รับการตอบรับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากกลุ่มลูกค้า เพราะ “ตราปั๊มจากยางลบ” นี้ลูกค้าสามารถนำไปใช้ต่อยอด เพื่อความสวยงาม เพิ่มลูกเล่นให้กับชิ้นงานเดิม ๆ ของลูกค้าได้นั่นเอง...

“มีหลายชื่อเรียก แต่ส่วนใหญ่จะเรียกกันว่าตราปั๊มจากยางลบ ไม่ก็ ตัวปั๊มยางลบ ภาษาอังกฤษจะอ่านว่า รับเบอร์-แสตมป์ ส่วนเหตุผลที่คิดว่าน่าจะสามารถพัฒนาเป็นอาชีพได้ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นของเล็ก ๆ ที่ปัจจุบันอาจยังไม่มีคนรู้จักมากนัก แต่กำลังจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ดูจากจำนวนลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาเพื่อสั่งทำชิ้นงาน เนื่องจากชิ้นงานสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลายอย่าง” เจ้าของชิ้นงาน เจ้าของกรณีศึกษา ’ช่องทางทำกิน“ รายนี้กล่าว

สำหรับลูกค้า ปัชชาเล่าว่า ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ทำชิ้นงานของตัวเองอยู่แล้ว แต่อยากได้ตราปั๊มยางลบไปช่วยเพิ่มเติมสีสันให้กับชิ้นงาน อาทิ นำไปปั๊มทำลวดลายสำหรับการ์ดต่าง ๆ นำไปปั๊มตกแต่งสมุดภาพ หรือสแครปบุ๊ก (Scrapbook) นำไปมอบเป็นของขวัญ หรือของชำร่วยในงานแต่งงาน หรือแม้แต่นำตราปั๊มยางลบไปปั๊มลงบนใบเสร็จ บนถุง บนกล่องบรรจุภัณฑ์ รวมทั้งมีการนำไปปั๊มสร้างลายลงบนเสื้อผ้า เป็นต้น โดยจุดเด่นของทางร้านก็คือจะรับออกแบบตามที่ลูกค้าต้องการด้วย และตัวปั๊มก็จะมีแป้นไม้ที่ติดไว้เพื่อเป็นด้ามจับ ซึ่งแป้นไม้นั้นทางร้านทำขึ้นเอง

“สินค้าที่ทำมี 2 ประเภท คือ ตราปั๊มที่เป็นลายที่ลูกค้าต้องการ มีทั้งแบบที่ลูกค้านำมาให้ทำ กับแบบที่เราออกแบบให้ และอีกประเภทคือตราปั๊มที่เป็นลายเจาะจงที่ทางร้านทำขึ้นมาเองเป็นคอลเลก ชั่น” ปัชชากล่าว

ทุนเบื้องต้นสำหรับการทำชิ้นงานลักษณะนี้ ใช้ประมาณ 500-1,000 บาทก็สามารถทำได้แล้ว ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนไปกับการซื้อยางลบหลาย ๆ แบบมาทดลองทำ และเก็บเป็นสต๊อกไว้ใช้  ขณะที่ทุนวัสดุอยู่ที่ประมาณ 20% จากราคาขาย ซึ่งเริ่มตั้งแต่ชิ้นละ 99 ไปจนถึง 200 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดยางลบและความยากง่ายของแบบ

วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำ “ตราปั๊มจากยางลบ” หลัก ๆ ประกอบด้วย ยางลบ, คัตเตอร์ปากกา หรือคัตเตอร์ธรรมดาก็ได้, แผ่นรองตัด, กระดาษลอกลาย หรือกระดาษไข และดินสอ

สำหรับยางลบนั้น แล้วแต่ว่าจะชอบเนื้อยางลบแบบไหน บางคนอาจชอบแบบนิ่ม บางคนอาจชอบแบบแข็ง ซึ่งยางลบที่นำมาใช้ก็เป็นยางลบธรรมดาทั่วไป แต่ต่างยี่ห้อก็จะมีความแตกต่างกัน ทั้งขนาดและความนิ่มความแข็ง ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านเครื่องเขียนทั่วไป แต่หากต้องการยางลบสำหรับการแกะโดยเฉพาะก็อาจไปซื้อตามร้านจำหน่ายสินค้าจาก ประเทศญี่ปุ่น แต่ราคาจะค่อนข้างสูงหน่อย “และการจะปั๊มลายนั้นอีกอย่างที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือ หมึกพิมพ์ เพราะหมึกแต่ละชนิดก็จะเหมาะกับการพิมพ์หรือปั๊มลงบนวัสดุแต่ละอย่าง” ปัชชากล่าวแนะนำผู้สนใจ

ขั้นตอนการทำ เริ่มจากวาดรูปลงกระดาษไขหรือกระดาษลอกลาย โดยอาจลอกลายที่ต้องการจากหนังสือ จากนั้นนำกระดาษที่วาดลายเรียบร้อยแล้วคว่ำลงไปบนยางลบที่จะใช้แกะ ใช้นิ้วมือหรือก้นดินสอถูให้ลายติดลงบนยางลบ จากนั้นจึงเริ่มแกะยางลบโดยใช้คัตเตอร์ธรรมดา หรือคัตเตอร์ปากกา ตามแบบหรือลายที่ลอกไว้ หลังจากแกะเสร็จ ก็ให้ทดลองปั๊มดูก่อน ถ้าลายเส้นที่แกะครบตามแบบหรือลายที่ต้องการ ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำ

“จุดที่ยากที่สุดคือการทำเส้นให้ดูคมชัดและเท่ากัน เช่น ลูกตาของตัวการ์ตูน จุดที่ง่ายคือการแกะรูปอะไรก็ได้ที่มีพื้นที่ในการแกะทิ้งน้อยที่สุด หากสามารถฝึกฝนเพิ่มเติมอยู่เสมอ ทักษะก็จะพัฒนาเพิ่มขึ้นแน่นอน” เจ้าของชิ้นงานแนะนำ
ใครสนใจ ’ตราปั๊มจากยางลบ“  ก็เข้าไปดูได้ตามช่องทางที่ระบุมาข้างต้น และสามารถจะติดต่อเจ้าของกรณีศึกษา ’ช่องทางทำกิน“ รายนี้ได้ทางอีเมล gomugomuhango@gmail.com หรือที่ โทร.08-6685-1117 ซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งชิ้นงานจากวัสดุชิ้นเล็ก ๆ ที่สามารถสร้างงานทำเงินได้อย่างน่าสนใจ.
ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ รายงาน
credit :  http://www.dailynews.co.th/article/384/155083




Read More...


“ขนมช่อม่วง” ชิ้นเล็กๆที่ไม่ธรรมดา


 
ขนมไทยมีหลายชนิดที่ทำได้ยาก เพราะมีขั้นตอนการทำที่ค่อนข้างพิถีพิถันและประณีตพอสมควร จึงไม่ค่อยเห็นตามท้องตลาดทั่วไป ซึ่งมีบางคนได้ฝึกหัด ดัดแปลงทำขนมไทยทำยากหลาย ๆ ชนิดให้กลายเป็นธุรกิจรับจัดเลี้ยง และได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เป็นอีก “ช่องทางทำกิน” ที่ดี วันนี้มาดูกรณีตัวอย่าง กับ “ขนมช่อม่วง” ...
 
   
เนาวรัตน์ เจาวัฒนา หรือ เหมียว เจ้าของบริษัท ทเวลซีสอาหารและเครื่องดื่ม จำกัด ซึ่งทำธุรกิจรับจัดเลี้ยง เล่าว่า เดิมทำงานด้านสื่อ โฆษณา และการตลาด ในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ด้วยความที่ไม่ชอบถูกสั่งถูกว่าจากลูกค้า และอยากจะมีเวลากับครอบครัวให้มากขึ้น เธอจึงตัดสินใจมองหาธุรกิจใหม่ทำ ซึ่งจากการทำงานจัดงานอีเวนต์จึงรู้ว่ายังมีช่องว่างสำหรับธุรกิจอยู่ และมีแม่ และน้องที่รู้จักกัน ที่มีฝีมือในการทำอาหารและขนมไทยแบบชนิดหาตัวจับยาก จึงหาความรู้ และไปหัดทำกับแม่และน้องที่รู้จัก ฝึกปรือฝีมือจนชำนาญ และเริ่มทำธุรกิจทันที

ขนมที่ถูกสั่งในงานอีเวนต์ ก็มีขนมมงคลประเภทที่ชื่อมีคำว่าทอง และขนมไทยอื่น ๆ อาทิ เสน่ห์จันทร์ ปั้นสิบ ขนมจีบรูปตัวนก สาคู ฯลฯ รวมถึง “ขนมช่อม่วง” ที่จะยกตัวอย่างกันในวันนี้

อุปกรณ์ที่ใช้ทำ หลัก ๆ ก็มีกระทะทองเหลือง ลังถึง เตาแก๊ส จาน-ชามต่าง ๆ และภาชนะต่าง ๆ ที่ใช้ในครัวเรือน

วิธีทำ เริ่มที่เตรียม ส่วนผสมแป้ง ตามสูตรมีแป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย, แป้งเท้ายายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ, แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ, หัวกะทิข้น 1 ถ้วย, น้ำเปล่า 1 3/4 ถ้วย, น้ำอัญชัน 3/4 ถ้วย และใบตองสำหรับวางในลังถึงเตรียมไว้

ขั้นตอนแรก ให้ละลายแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และแป้งเท้ายายม่อม กับน้ำเปล่า คนให้เข้ากัน  ระวังอย่าให้แป้งจับตัวกันเป็นเม็ด

ในส่วนของน้ำอัญชัน เนาวรัตน์บอกว่า ให้เอาดอกอัญชันมาปลิดเอาแต่ดอกสีน้ำเงิน แช่กับน้ำร้อน ขยำและบีบเอากากทิ้ง ใส่น้ำมะนาวลงไปเล็กน้อย ให้น้ำเปลี่ยนเป็นสีม่วง แล้วนำไปใส่ในน้ำแป้งที่ละลายน้ำแล้ว

ตั้งกระทะทองเหลือง ใช้ไฟปานกลาง ใส่แป้งที่ละลายน้ำแล้วลงไป กวนด้วยไม้พาย กวนให้เข้ากันอย่าหยุดมือ ระวังอย่าให้แป้งติดกระทะ ซึ่งใช้เวลากวนประมาณ 10-15 นาที เสร็จแล้วยกกระทะลง ตักแป้งออกจากกระทะใส่ชามพักไว้ให้แป้งคลายร้อนเมื่อแป้งเย็นลงประมาณหนึ่ง แล้ว ใช้มือแตะแป้งมันแล้วนวดให้แป้งนิ่มมือ แล้วแบ่งแป้งเป็นก้อนเล็ก ๆ ขนาดเท่าลูกชิ้น ใช้ผ้าขาวบางคลุมไว้กันลมและฝุ่นส่วนผสมของไส้ช่อม่วง มีฟักเชื่อมหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ บาง ๆ 1/2 ถ้วย, ถั่วลิสงคั่ว 1/2 ถ้วย, น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย, งาขาวคั่วบุบพอแตก 1/2 ถ้วย, เกลือป่น 1/2 ช้อนชา, และมันหมูต้มสุกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ บาง ๆ 1/4 ถ้วย

วิธีผัดไส้ เตรียมกระทะทองเหลือง ใช้ไฟอ่อน นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไป แล้วผัดให้เข้ากัน เมื่อไส้ร้อนก็ยกลง

วิธีปั้นแป้ง และหนีบช่อม่วง นำแป้งที่ปั้นไว้เป็นก้อนกลมมาแผ่ออกเป็นแผ่นกลมขนาดเท่ากับเหรียญ 5 บาท ตักไส้ใส่แล้วหุ้มให้มิด และปั้นให้เป็ก้อนกลมออกแบนนิด ๆ  จากนั้นนำ แหนบหนีบช่อม่วง ไปจุ่มกับแป้งมัน (ป้องกันไม่ให้แป้งติดแหนบ) แล้วหนีบแป้งให้เป็นกลีบ โดยขนมช่อม่วง 1 ชิ้น จะหนีบประมาณ 9 กลีบ แบ่งเป็นกลีบดอกไม้ด้านล่างของตัวขนมประมาณ 5-6 กลีบ  โดยใช้แหนบหนีบช่อม่วงหนีบสับหว่างกันไปให้รอบตัวขนม และหนีบตัวขนมด้านบนซึ่งเป็นส่วนของเกสร 3 กลีบ โดยหนีบแบบสับหว่างเช่นกัน  ซึ่งเมื่อหนีบเสร็จจะได้ขนมออกมาเป็นรูปดอกกุหลาบ

ขั้นต่อไปนำขนมลงไปเรียงในลังถึงซึ่งรองด้วยใบตองไว้ ทาขนมด้วยหัวกะทิ แล้วนำลังถึงไปตั้งไฟนึ่ง ใช้ไฟร้อนปานกลาง ใช้เวลานึ่งประมาณ 5 นาที เมื่อขนมสุกแล้วก็พรมด้วยหัวกะทิอีกครั้งหนึ่ง โรยหน้าด้วยใบผักชี กระเทียมเจียว และพริกชี้ฟ้าซอย รองก้นด้วยผักกาดหอม เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย พร้อมเสิร์ฟ-พร้อมจำหน่าย

จากปริมาณแป้งดังที่กล่าวมา เนาวรัตน์บอกว่า จะทำขนมช่อม่วงได้ประมาณ 20-25 ชิ้น ขายในราคาชิ้นละ 5 บาท โดยมีต้นทุนในส่วนของวัตถุดิบประมาณ 60% ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง “ช่องทางทำกิน” ที่กำไรไม่ธรรมดา
                   
ใครสนใจ “ขนมช่อม่วง” ขนมไทยต่าง ๆ ต้องการติดต่อ เหมียว-เนาวรัตน์ เจาวัฒนา ได้ที่ เลขที่ 19 ซอยสามัคคี 60/4 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี  โทร.0-2976-8942 และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ใน www.twelvesis.com
เชาวลี ชุมขำ เรื่อง / สันติ มฤธนนท์ ภาพ

credit :  http://www.dailynews.co.th/article/384/154025




Read More...


‘สายนาฬิกาข้อมือ’ ‘ลูกปัด’ทำได้-ขายเด่น

.
 
 
  นาฬิกาข้อมือแฟชั่นสีสันลวดลายน่ารักมีขายอยู่ทั่วไป แต่ถ้าเพิ่มจุดขาย สร้างความน่าสนใจด้วยการเสริมแต่งใส่ไอเดียผสมผสานให้ดูสวยงามน่ารักมากขึ้น ก็จะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้อีก ซึ่งก็มีผู้ใช้เทคนิคการนำลูกปัดสีสันต่าง ๆ มาเรียงร้อยเป็นสายของนาฬิกาข้อมือ เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และฉีกแนวสินค้าให้แตกต่างด้วยการสร้างจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จน ’สายนาฬิกาลูกปัด“ เป็นอีกหนึ่ง ’ช่องทางทำกิน“ ที่น่าสนใจ...
 

แป้ง-วรรณิศา บุญสถิธกุล สร้างสรรค์นำลูกปัดสีสันต่าง ๆ มาร้อยทำเป็นสายนาฬิกาข้อมือ ใช้ชื่อแบรนด์ว่า Venniza Handmade เจ้าตัวเล่าว่า เรียนจบมาทางด้านบริหารการโรงแรม แต่ก็ไม่ได้ทำงานด้านที่เรียนมา โดยเลือกที่จะทำงานอิสระ เป็นพริตตี้ เป็นพิธีกร ตามงานอีเวนต์ต่าง ๆ ซึ่งก็รับทำมาตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนอยู่แล้ว ก็ทำมายาวเลย
  
ส่วนเรื่องงานประดิษฐ์งานแฮนด์เมด ก็ทำเป็นอาชีพเสริมจากงานหลักที่ทำอยู่ โดยใช้เวลาว่างช่วงที่ไม่มีงาน ที่มาจับงานประดิษฐ์เป็นอาชีพเสริมนั้น ก็เพราะว่าเป็นคนที่ชอบงานด้านการประดิษฐ์มาตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนอยู่ และตอนที่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยก็เคยทำงานพวกตุ๊กตาถุงเท้าไปวางขายเป็น รายได้เสริมด้วย แต่ก็มาหยุดทำในช่วงตอนอยู่ปี 3 เพราะเรียนหนักขึ้นและต้องทำรายงานมากขึ้น จึงไม่มีเวลาทำงานประดิษฐ์ จึงหยุดทำและก็ร้างราไป
  
หลังจากที่รับงานอีเวนต์อยู่ได้ระยะหนึ่ง และพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง จึงอยากที่จะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และทำงานที่ตนเองชื่นชอบ นั่นก็คือการทำงานประดิษฐ์ แต่ในช่วงแรกที่คิดจะทำก็ยังไม่รู้ว่าจะทำเป็นงานประเภทอะไรดี จนมีโอกาสได้ไปเดินตลาดแห่งหนึ่งที่เขาขายของแฮนด์เมด และเห็นว่านาฬิกาข้อมือแฟชั่นส่วนใหญ่จะทำเป็นสายหนังถักกันเยอะ จึงเกิดไอเดียมาประยุกต์ทำเป็นงานของตัวเอง นั่นก็คือนาฬิกาข้อมือที่นำลูกปัดมาร้อยเป็นสาย เพราะตนเองนั้นเป็นคนที่ชอบลูกปัดอยู่แล้ว เพราะเห็นว่าสวย มีสีสันที่สดใสสวยงาม จึงประยุกต์นำลูกปัดมาร้อยทำเป็นสายนาฬิกา
  
เมื่อได้ความคิด ได้ไอเดียในสิ่งที่จะทำจำหน่ายแล้ว ก็ลงมือทดลองทำทันที โดยออกแบบดีไซน์ และทดลองร้อยลูกปัดเพื่อเป็นสายนาฬิกาข้อมือ แรก ๆ ก็ทำไปให้เพื่อนเป็นของขวัญ และให้เพื่อน ๆ ติชม จากนั้นก็นำมาปรับแก้ตามจุดบกพร่องที่เพื่อนบอกมา ซึ่งก็ใช้เวลาในการลองผิดลองถูกอยู่ประมาณ 1 เดือน ที่สุดก็ได้แบบที่ลงตัวสำหรับนาฬิกาที่มีสายเป็นลูกปัด เป็นนาฬิกาที่มีสีสันสวยงาม และมีน้ำหนักเบาอีกด้วย
  
แป้งกล่าวต่อว่า หลังจากได้รูปแบบชิ้นงานที่ลงตัวแล้วก็เริ่มผลิตออกมาและนำไปขายตามตลาดงาน แฮนด์เมด และลงขายทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นอกจากนั้นก็ยังทำกิ๊บติดผมเป็นชิ้นงานที่เพิ่มขึ้นมาอีกตัวหนึ่งด้วย ซึ่งปัจจุบันก็เริ่มธุรกิจนี้มาได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว ก็สามารถสร้างรายได้เสริมได้เป็นอย่างดี
  
การทำนาฬิกาข้อมือสายลูกปัดนั้น ตัวนาฬิกาเราก็ต้องดูด้วยว่าเราจะเจาะกลุ่มลูกค้าประเภทไหน กลุ่มเด็ก ๆ ก็เน้นนาฬิกาที่เป็นลายการ์ตูน ถ้าเป็นกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มมัธยมไปจนถึงมหาวิทยาลัย พวกนี้ก็จะชอบนาฬิกาที่มีสีสันสดใส หรือสีหวาน ๆ ถ้าเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ก็เป็นแนวสีที่ดูสุขุมหน่อย
  
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำ หลัก ๆ ก็มี ตัวเรือนนาฬิกา, ลูกปัดสีต่าง ๆ, ยางยืด โดยวัสดุอุปกรณ์ส่วนใหญ่หาซื้อได้ที่ตลาดสำเพ็งซึ่งเป็นตลาดแหล่งใหญ่ที่มี วัสดุให้เลือกซื้อได้หลากหลาย นาฬิกาที่นำมาทำนั้นก็ต้องเลือกดูที่เป็นนาฬิกาเกรดดีหน่อย เลือกลวดลายตามกลุ่มลูกค้าที่ต้องการจะขาย ซื้อยกโหลก็จะได้ในราคาที่ไม่สูง ส่วนลูกปัดนั้นก็มีอยู่หลายขนาดหลายสีหลายแบบ มีทั้งลูกปัดไม้และพลาสติก ก็เลือกแบบตามต้องการ สีของลูกปัดนั้นก็ให้ซื้อหลากหลายสี โดยมีขายเป็นถุง ราคาก็แตกต่างกันไปตามชนิดของลูกปัด ของไทยหรือของนอก แต่ที่สำคัญไม่ควรซื้อลูกปัดที่ใหญ่กว่านาฬิกา
  
ทุนวัสดุอุปกรณ์ในการลงทุนทำครั้งแรก มีประมาณ 3,000-4,000 บาท ก็สามารถนำมาทำขายได้แล้ว
  
ขั้นตอนการทำ ขึ้นอยู่กับไอเดียแนวคิดของแต่ละคน โดยที่การเลือกใช้ลูกปัดนั้น ต้องให้สีเข้ากับตัวเรือนนาฬิกาเป็นสำคัญ ส่วนวิธีการทำนั้นก็เริ่มจาก... เลือกตัวเรือนนาฬิกาที่จะนำมาทำ หลังจากที่ได้ตัวเรือนนาฬิกาแล้วก็มาคัดเลือกลูกปัดสีต่าง ๆ ให้เข้ากับตัวเรือนนาฬิกา
  
เมื่อเลือกนาฬิกาและลูกปัดได้แล้ว ก็ทำการถอดสายนาฬิกาที่ติดกับตัวเรือนออกก่อน เอาแต่สายออก เก็บหมุดที่ยึดสายนาฬิกาไว้ที่เดิม จากนั้นก็นำเส้นยางยืดมัดไว้กับหมุดนาฬิกา 2 เส้น วัดให้ได้ความยาวตามที่ต้องการทั้ง 2 เส้น แล้วตัด จากนั้นนำเข็มมาร้อยไว้ที่สายยางยืด
  
ขั้นตอนต่อไปก็ทำการร้อยลูกปัดตามที่ออกแบบไว้ การร้อยลูก ปัดนั้นก็แล้วแต่ไอเดียแต่ละคน จะใช้ลูกปัดแบบกลม แบบรี ลูกปัดไม้ ลูกปัดพลาสติก เล็กใหญ่ ตามต้องการ หลังจากที่ร้อยลูกปัดเรียบร้อยแล้วก็ให้ผูกปลายยึดติดกับหมุดนาฬิกาอีกด้าน หนึ่งให้แน่นทั้ง 2 เส้น เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย
  
นาฬิกาข้อมือสายลูกปัดร้อยของแป้ง มีราคาขายอยู่ที่เรือนละ 280 บาท ส่วนต้นทุนนั้นอยู่ที่ประมาณ 130 บาทขึ้นไป ซึ่งต้นทุนนั้นขึ้นอยู่กับตัวเรือนนาฬิกาที่นำมาทำ และลูกปัดที่นำมาร้อย ซึ่งในส่วนของลูกปัดนั้นมีทั้งของในประเทศและของต่างประเทศ ราคาก็จะไม่เท่ากัน

ใครสนใจ ’นาฬิกาข้อมือสายลูกปัด“ ของ แป้ง-วรรณิศา สามารถเข้าไปดูสินค้าได้ที่ www.facebook.com/Venniza-Handmade หรือต้องการสั่งออร์เดอร์ไปจำหน่ายต่อเป็น ’ช่องทางทำกิน“ อีกรูปแบบหนึ่ง ก็โทรศัพท์ไปพูดคุยสอบถามกันได้โดยตรงที่ โทร. 08-2252-3195.

บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน

..........................................

คู่มือลงทุน...นาฬิกาสายลูกปัด

ทุนเบื้องต้น    ประมาณ 3,000-4,000 บาท
ทุนวัสดุ    ประมาณ 130 บาท / เรือน
รายได้    ราคาขาย 280 บาท / เรือน
แรงงาน    1 คน
ตลาด    กลุ่มงานแฮนด์เมด, ขายผ่านเน็ต
จุดน่าสนใจ    ลงทุนไม่สูง, ขายไอเดีย-ราคาดี
 




Read More...


ช่วยเหลือตนเอง ช่วงน้ำท่วม

ช่วงนี้ไปทางไหน ๆ ก็มีแต่ข่าวน้ำท่วม เดือดร้อนไปตาม ๆ กัน ผมเชื่อว่า อุทกภัยน้ำท่วมครั้ง นี้ยังคงขยายวงกว้างออกไปอีก และกินเวลาไปอีกนานเลยทีเดียว ดังนั้นการช่วยเหลือก็จะ ลดลงไปเรื่อย ๆ เพราะว่าทุกคนเดือดร้อนกันหมด ทุกที่น้ำท่วมหมด ต่างคนต่างก็ต้องช่วยเหลือตัวเองก่อน คงไม่มีเวลาที่จะไปช่วยเหลือใครได้อีก เพราะทุกคนตกอยู่ในสภาพเดียวกัน

เดือนหน้า ผมคิดว่าระดับน้ำยังคงทรงตัวอยู่อีก และจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานเท่าไรยังไม่มีใครตอบเราได้เลย อากาศหนาวก็เริ่มพัดปรกคลุมลงมาเรื่อย ๆ นี่แหละคือปัญหาสำคัญระดับต่อไป อาจจะเกิดอุทกภัยหนาวขึ้นมาอีกจะทำอย่างไรกับสภาวะแบบนี้ ที่ทำได้ก็ต้องช่วยเหลือตนเองเบื้อต้นไปก่อน
วันนี้ผมไม่ได้มาสอนอะไร แค่อยากจะช่วยแนะนำอะไรที่พอจะช่วยกันได้ และช่วยตนเองไปก่อน ก่อนที่คนอื่นจะมาช่วยเรา

** การอยู่ในที่มืดในสภาวะที่ไม่มีไฟฟ้าใช้
** การที่จะหุงหาอาหารรับประทานกันในที่ ๆ ขาดแคลนสิ่งต่าง
** การแก้หนาวด้วยการก่อไฟ บรรเทาหนาว

สิ่งแรกที่อยากให้ลงมือทำครับ คือตะเกียงจากกระป๋องนม
(ถ้าใช้เทียน เวลที่จุดเที่ยน ๆ อาจจะล้มลงอาดเกิดเพลิงลุกใหม้)
ถ้าเป็นตะเกียงกระป๋องนม จะดูมันคงและแข็งแรงกว่า


Canned milk_1

อย่างที่สอง ทำ เตาปิกนิคจาก กระป๋องนม เพราะเตาดังกล่าวให้พลังงานได้ดีมาก หุงหาอาหารทำอาหารต่าง ๆ ด้วยเชื้อเพลิงเพียงเล็กน้อยเพราะเป็นเตาประหยัดพลังงาน สดวกและปลอดภัยดี เชื้อเพลิงก็สามารถหาได้งาย ใช่เพียงแค่เศษไม้เล็ก ๆ แค่นั้นเอง และยังใช้เป็น เตาไปจุดแก้หนาวได้อีกด้วย
Canned milk
Canned milk
อยากให้ทำใช้แก้ขัด (แต่ใช้ได้ดีในสภาวะเช่นนี้) เพื่อบรรเทาทุกข์กันไปก่อน อย่างน้อยเราก็ได้พยามทำทุกวิถีทางเพื่อให้อยู่รอดและปลอดภัย โดยที่ไม่ได้ งอมือ งอเท้ารอให้ใครมาช่วยเราครับ ผมขอเอาใจช่วยทุก ๆ คนเพื่อให้อยู่รอดและปลอดภัยครับ
บ้านผมเองก็หนีไม่พ้นชะตากรรมนี้เช่นคุณทั้งหลายเช่นกันครับ พี่น้อง….

credit : http://goo.gl/Vn3B5




Read More...


เสื้อชูชีพทำมือ

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาศไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่ บ้านหีบ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา มาครับ ไปถึงที่นั้น ผมถึงกับกลั้นน้ำตาตัวเองไม่อยู่ มันเอ่อล้นออกมาเองโดยไม่รู้ตัวเลยครับ เพราะสงสานชาวบ้านตาดำ ๆ ที่นั้นครับ ผมเอาถุงยังชีพจำนวนหนึ่งไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน ก็ไม่ได้มากมายอะไร เอาไปเท่าที่เรามี เท่าที่เราทำได้ครับ

เดินทางโดยขับรถปิกอับ สองคันขนไปเต็มคันรถ ไปถึงก็แจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่นั้น
ผมมีโอกาศได้พูดคุยกับคนที่นั้น เค้าบอกว่า

help-floods_1
“เค้าไม่รู้จะหนีไปไหน เพราะหนีไปไหนไม่ได้แล้ว ที่ไหน ๆ ก็มีแต่น้ำ และน้ำเต็มไปหมด ไม่มีที่แห้งให้อยู่เลย ต้องลอยคอไปมาอยู่อย่างนี้ เกาะโฟมลอยไปลอยมา เรียกได้ว่า แช่น้ำกันจนเปื่อยเลยทีเดียว หมูหมากาไก่ ก็ไม่มีอะไรให้มันกัน ไม่พื้นดินจะให้มันได้คุ้ยเขี่ยหาอาหาร ควายที่หากินตามท้องนา ตอนนี้มันต้องดำน้ำกินหญ้า กันแล้ว แต่ก็ไม่มีหญ้าให้มันกินเลยเพราะว่า น้ำมันลึก ถึง สามเมตรเลยทีเดียว”
help-floods_2
เห็นแล้วก็สงสานเป็นยิ่งนัก เสื้อชูชีพก็ไม่มี เรือก็ไม่มี พื้นที่ ๆ เป็นข่าว ตรงนั้นก็จะมีการช่วยเหลือจนทั่วถึง แต่พื้นที่ ๆ ห่างใกล และเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ก็ไม่มีใครมาช่วยเหลือ หรือการช่วยเหลือก็เป็นไปได้อย่างลำบาก วันนี้ผมได้มีโอกาศเห็นฝีมือของคนไทยที่ชื่อว่า “คุณประเสริฐ มหคุณวรรณ” ได้ออกแบบ เสื้อชูชีพต้นแบบช่วยเหลือน้ำท่วม ออกมาเผิยแพร่ และก็อดไม่ได้ที่จะนำมาเผิยแพร่ต่อ เพราะเป็นการช่วยเหลือตนเองแบบเพื้องต้นจริง ๆ สามารถทำเองได้อย่างสบาย เพื่อช่วยตนเองก่อนที่เราจะจมน้ำได้ดีที่เดียวครับ ขออณุญาตินำมาเผิยแพร่ต่อนะครับ
help-floods

วัตถุประสงค์โครงการ
1.เพื่อช่วยเหลือและลดความเสี่ยงจากการเดินทาง…ทางน้ำในช่วงน้ำท่วม เช่น เจ้าหน้าที่กู้ภัย เด็ก ชาวบ้าน
2.เพื่อพึ่งพาตนเองโดยสามารถจัดทำไว้ใช้ภายในครอบครัวได้เอง
3.ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยนำเศษวัสดุเหลือใช้มาทำให้เกิดประโยชน์
ที่มาของชื่อ เสื้อชูชีพไทยแครป มาจาก
1.ไทย(Thai) คิดและออกแบบโดยคนไทย
2. สแครป(เศษวัสดุเหลือใช้) นำเศษวัสดุกลับมาใช้ใหม่ ให้เกิดประโยชน์ สูงสุด
จุดเด่น
1.ไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถทำได้เอง
2.จัดเก็บได้ง่าย ไม่กินพื้นที่สามารถนำออกมาใช้ได้ทุกปี
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้
1.เสื้อเก่า ขนาดเท่ากัน 2 ตัว
2.ขวดน้ำดื่มขนาด 500-600 มิลลิลิตร จำนวน 8 ขวดพร้อมฝาปิด
3.เข็มและด้ายเย็บผ้า
ขั้นตอนวิธีการทำ
1.นำเสื้อ 2 ตัว ขนาดเท่ากัน ตัดแขนออก 2 ข้าง เหมือนกัน
2.นำเสื้อ มาใส่เข้ากันให้เป็นตัวเดียวกัน(เหมือนใส่เสื้อ 2 ตัว)
3.เย็บด้านหน้าเสื้อ ให้เท่าขนาดขวด 3 สามด้าน เว้นด้านบน เพื่อใส่ขวด (ให้ขวดอยู่ตรงกลางระหว่างเสื้อ 2 ตัว) ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
4.นำขวดพลาสติกปิดฝา ให้สนิทใส่ตามแบบ ด้านหน้า 4 ขวด และด้านหลัง 4 ขวด
5.เย็บปิดด้านบน เพื่อควบคุมทุกขวด ไม่ให้เคลื่อนไหว
6.เสร็จเรียบร้อย ที่สำคัญ ทุกครั้งที่ใช้ควรตรวจสภาพขวดให้ฝาปิดแน่น และตรวจเช็คการเย็บว่าอยู่ในสภาพดี พร้อมใช้งาน
***ไม่ว่าอุปกรณ์จะพร้อมเพียงใด สิ่งสำคัญที่สุดคือไม่ประมาท***
ผู้ออกแบบ : คุณประเสริฐ มหคุณวรรณ โทร.081-8-596-596
ผู้ผลิตและตัดเย็บ : คุณกาญจนา มหคุณวรรณ
สนับ สนุนโดย : บริษัท ไทยสแครป เซ็นเตอร์ จำกัด โทร.035-353-415

credit : http://goo.gl/Wtws1




Read More...


วิธีทำกระทง ทำมือ

วิธีทำกระทงใบตอง ส่วนของตัวกระทง ใช้หยวกกล้วย หรือวัตถุที่ย่อยสลายได้ตัดให้เป็นวงโดยสูงประมาณ1-2.5 นิ้ว ส่วนขนาดแล้วแต่ความพอใจ

วิธีทำกระทงใบตอง ส่วนของตัวกระทง ใช้ หยวกกล้วย หรือวัตถุที่ย่อยสลายได้ตัดให้เป็นวงโดยสูงประมาณ1-2.5 นิ้ว ส่วนขนาดแล้วแต่ความพอใจ ขั้นตอนต่อคือการนำเอาใบตองมาพับเป็นรูปทรงต่างๆ เพื่อประดิษฐ์เป็นกระทง

loy-kratong-festival-4
loy-kratong-festival-1

แบบที่ 1 (กลีบผกา)



  • ตัดใบตองขนาดความกว้าง 1.5 นิ้ว ยาว 6 นิ้ว โดยประมาณ










  • พับตามรูป จำนวน 3 กลีบ จากนั้นนำมาวางซ้อนให้ลดหลั่นกันไปตามภาพ ซึ่งจะนับเป็น 1 ตับ










  • นำไปติดโดยรอบที่ขอบของฐานกระทง ซึ่งเป็นต้นกล้วยตัดเป็นแว่น ความหนา 1.5 - 2 นิ้ว โดยประมาณ ทั้งนี้ปริมาณของกลีบกระทงที่ใช้จะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของตัว ฐาน










  • จากนั้นประดับด้วยดอกไม้ตามความชอบ และปักธูปเทียนลงไป เป็นอันเสร็จ
    สามารถนำการพับใบตองรูปแบบนี้ไปใช้ร่วมกับการพับรูปแบบอื่นๆ ในผลงานชิ้นเดียวกันได้ตามความชอบ และความคิดดัดแปลง ส่วน ตอนที่จะนำไปลอยนั้น บางคนอาจจะตัดเล็บ และผมใส่ลงไปด้วย ตามความเชื่อว่าเป็นการขจัดสิ่งร้ายๆ ให้ออกไปจากตัวเรา หรือจะใส่เหรียญลงไปด้วย เพื่อนำมาซึ่งความมั่งคั่งตามความเชื่อก็ได้นะคับ










  •  











  • loy-kratong-festival-2
     










  • แบบที่ 2 (กลีบกุหลาบ)










  • พับเป็นกลีบกุหลาบตามรูป จำนวน 3 กลีบ จากนั้นนำมาสวมเีัรียงกันให้มีระยะห่างพองามตามความชอบ ควรจัดให้ยอดของกลีบกระทง และลอนของกลีบตรงเสมอเป็นแนวเดียว ซึ่งจะทำให้ผลงานออกมาดูสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย










  • ใช้ด้ายสีเขียวใกล้เคียงกับใบตอง หรือสีดำมาเย็บติดกันด้วยด้นถอยหลังให้เป็นแนวตรงเสมอกันโดยตลอด










  • พับกลีบใบตองแล้วเย็บต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสามารถหุ้มขอบของฐานกระทงได้โดยรอบ ตรึงกลับใบตองกับฐานของกระทงด้วยหมุด แล้วขลิบส่วนที่เลยพ้นฐานลงมาให้เรียบร้อยเสมอกับฐาน เมื่อทำเสร็จแล้วจะมีลักษณะคล้ายกับมงกุฏสวมศีรษะ










  • จากนั้นประดับด้วยดอกไม้ตามความชอบ และปักธูปเทียนลงไป เป็นอันเสร็จสิ้น การทำกระทง ทำมือ
    สามารถนำการพับใบตองรูปแบบนี้ไปใช้ร่วมกับการพับรูปแบบอื่นๆ ในผลงานชิ้นเดียวกันได้ตามความชอบ และความคิดดัดแปลง ส่วนตอนที่จะนำไปลอยนั้น บางคนอาจจะตัดเล็บ และผมใส่ลงไปด้วย ตามความเชื่อว่าเป็นการขจัดสิ่งร้ายๆ ให้ออกไปจากตัวเรา หรือจะใส่เหรียญลงไปด้วย เพื่อนำมาซึ่งความมั่งคั่งตามความเชื่อก็ได้นะคับ











  • loy-kratong-festival-3
     










  • แบบที่ 3 (หัวขวาน)










  • ตัดใบตองขนาดความกว้าง 1.5 นิ้ว ยาว 6 นิ้ว โดยประมาณ










  • พับตามรูป จำนวน 3 กลีบ จากนั้นนำมาสวมเีัรียงกันให้มีระยะห่างพองามตามความชอบ เพื่อให้ผลงานออกมาดูสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย ควรพับแต่ละกลีบให้ได้ขนาดเท่ากันทุกจุด?










  • ใช้ด้ายสีเขียวใกล้เคียงกับใบตอง หรือสีดำมาเย็บติดกันด้วยด้นถอยหลังให้เป็นแนวตรงเสมอกันโดยตลอด?










  • พับกลีบใบตองแล้วเย็บต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสามารถหุ้มขอบของฐานกระทงได้ โดยรอบ ตรึงกลับใบตองกับฐานของกระทงด้วยหมุด แล้วขลิบส่วนที่เลยพ้นฐานลงมาให้เรียบร้อยเสมอกับฐาน เมื่อทำเสร็จแล้วจะมีลักษณะคล้ายอ่างน้ำ?










  • จากนั้นประดับด้วยดอกไม้ตามความชอบ และปักธูปเทียนลงไป เป็นอันเสร็จ
    สามารถนำการพับใบตองรูปแบบนี้ไปใช้ร่วมกับการพับรูปแบบอื่นๆ ในผลงานชิ้นเดียวกันได้ตามความชอบ และความคิดดัดแปลง ส่วน ตอนที่จะนำไปลอยนั้น บางคนอาจจะตัดเล็บ และผมใส่ลงไปด้วย ตามความเชื่อว่าเป็นการขจัดสิ่งร้ายๆ ให้ออกไปจากตัวเรา หรือจะใส่เหรียญลงไปด้วย เพื่อนำมาซึ่งความมั่งคั่งตามความเชื่อก็ได้นะคับ
    ขอบคุณข้อมูลจาก www.loikrathong.net











  • Read More...


    ทำกระทงขนมปัง รายได้ดี

    ลอยกระทงปีนี้ เรามาทำกระทงขายเป็นรายได้เสริมกันดีกว่าครับพี่น้อง
    ยังดีกว่าซื้อเค้าเป็นไหน ๆ วิธีทำกระทงขนมปังก็แสนจะง่ายดาย

    ไม่ใกล้ไม่ไกล หัดทำไว้ไม่เสียหลาย อาจขายได้เงินเป็นกอบเป็นกำ
    “วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำนองเต็มตลิ่ง
    เราทั้งหลายชาย-หญิง สนุกกันจริงวันลอยกระทง….”
    ลอยกระทงปีนี้ เรามาทำกระทงขายเป็นรายได้เสริมกันดีกว่าครับพี่น้อง
    ยังดีกว่าซื้อเค้าเป็นไหน ๆ วิธีทำกระทงขนมปังก็แสนจะง่ายดายครับ
    สิ่งที่ต้องเตรียม ก็มีดังนี้ครับ



    loy-kratong-festival-1

    ส่วนผสม
    - แป้งสาลีเอนกประสงค์ 1 กก
    - ยีสต์ 1 ชต
    - น้ำเย็น 450 กรัม
    - น้ำตาลทราย 60 กรัม
    - เนยขาว 50 กรัม
    - เกลือป่น 20 กรัม

    loy-kratong-festival-2

    วิธีทำกระทงขนมปัง




  • ร่อนแป้ง เติมยีสต์ เคล้าให้เข้ากัน










  • ผนมน้ำตาลทราย เกลือป่น น้ำเย็น คนเข้ากันพอละลาย










  • เทลงในอ่างแป้ง นวดพอเข้ากัน เติมเนยขาว นวดต่อจนแป้งเนียน พักแป้งไว้ 15-20 นาที










  • ตัดแป้งก้อนละ 100 กรัม คลึงให้กลม










  • รีดแป้งเป็นแผ่นกลม เท่ากับจานสังกะสี ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8-9 นิ้ว ที่ทาเนยขาว กรุงแป้งลงในจาน










  • ตกแต่งขอบข้างด้วยพิมพ์ กดให้ขอบเกิดลวยลายสวยงาม










  • รีดแป้งอีกก้อน ให้บางประมาณ 1/4 นิ้ว ให้พิมพ์รูปใบไม้ รูปหัวใจ ตัดแบ่งออกมา ตกแต่งด้านในของพิมพ์










  • ตัดแป้งเป้นเส้นยาว 6-7 นิ้ว กว้าง 1-2 นิ้ว ม้วนเป็นรูปกุหลาบวางตรงกลางสำหรับปีกธูปเทียน พักแป้งไว้ให้ขึ้นอีก 20-30 นาท











  • ทาผิวด้วยไข่ไก่ นำเข้าอบที่อุณภูมิ 400 องศาฟาเรนไฮด์ ประมาณ 20-30 นาที หรือจนสุกเหลือง










  • นำกระทงขนมปัง
    มาตกแต่งด้วยดอกไม้สด และปักธูปเทียน ใช้ในประเพณีวันลอยกระทง










  •  







  • loy-kratong-festival-3

    หัดทำเอาไว้นะครับ แล้ววันลอยกระทงก็เอากระทงขนมปังของเราไปขายกัน
    อาจจะเป็นรายได้เสริม และสร้างรายได้ขึ้นมาอีกทางก็ได้นะครับ
    ได้เที่ยว วันลอยกระทง แถมยังมีรายได้เข้ากระเป๋าอีกทาง

    credit : http://goo.gl/ANXIM




    Read More...


    ปรับปรุง
    รายการบทความทั้งหมด



    การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



    ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



    รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



    รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



    ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





    MASK รุ่นสายคล้องคอ







    MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
    ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
    3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
    เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
    บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
    ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
    มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
    หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
    มีเรทราคาส่งค่ะ

    -> id line : noeyhorm_06
    #มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


    ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
    ● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
    ● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
    ● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
    ● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0










































     
    Blogger Tips and TricksLatest Tips And TricksBlogger Tricks
    Do it your self,handmade,HandiCraft,งานฝีมือ,อาชีพเสริม,ช่องทางทำเงิน บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.