บทความที่ได้รับความนิยม


Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

''ตุ๊กตาแฟลชไดร์ฟ'' ประโยชน์ร่วมสมัยขายลื่น *

งานฝีมือ งานประดิษฐ์ ถ้ามีการอัพเกรดเพิ่มฟังก์ชั่น ใส่ลูกเล่น ให้สินค้าเกิดเป็นรูปแบบใหม่ ๆ เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า จะสามารถดึงความสนใจจากลูกค้าให้มาสนใจชิ้นงานได้เพิ่มขึ้น อย่างงาน “ปั้นตุ๊กตาล้อเลียน” ของ ไชยวัฒน์ พิพัฒน์สิริวรกุล ที่ทำตุ๊กตาปั้นล้อเลียนให้เกิดเป็นสินค้าใหม่ที่สามารถนำไปใช้ให้เกิด ประโยชน์ได้มากกว่าแค่ตั้งโชว์ โดยการใส่ “แฟลชไดร์ฟ” เข้าไป ก็กลายเป็น ’ตุ๊กตาแฟลชไดร์ฟ“ เป็นอีกกรณีศึกษา ’ช่องทางทำกิน“ ...

 ไชยวัฒน์ พิพัฒน์สิริวรกุล เจ้าของผลงาน เล่าว่า เรียนจบมาทางด้านคอมพิวเตอร์ หลังจากที่จบออกมาก็ทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ ทำอยู่ประมาณ 7 ปี และก็เข้าเรียนปริญญาโทด้วย คณะบริหารธุรกิจ สาขาผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยในช่วงเวลาว่างก็ได้ไปเรียนการทำเรซิ่นและการปั้นที่โรงเรียนฝึกอาชีพ เพื่อจะมาทำเป็นอาชีพเสริม เพราะมีความรักความชอบทางด้านงานศิลปะมาตั้งแต่เด็กด้วย


สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

ในช่วงที่เรียนปริญญาโท ก็ได้แรงขับเคลื่อนจากคำพูดของอาจารย์ และเพื่อที่จะทำตามความฝันของตัวเองที่ต้องการจะมีกิจการของตัวเอง จึงตัดสินใจออกจากงานประจำมาทำธุรกิจของตัวเอง โดยเริ่มจากงานหล่อแบบทั่วไป จนได้มาเจอเพื่อนและพี่ ๆ ที่รู้จักกัน ที่มีความสามารถทางด้านการปั้น จึงช่วยกันออกแบบและทำสินค้าเป็นงานปั้นออกมาจำหน่าย ภายใต้แบรนด์ “ตุ๊กตาปั้น” โดยงานจะมีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยการปั้นหน้าคนเป็นหลัก

“ช่วงแรก ๆ ลูกค้าก็ยังงงว่าตุ๊กตาปั้น ตุ๊กตาหน้าคนล้อเลียน เป็นอย่างไร ไม่เคยเห็น ประกอบกับราคาสูง และเพิ่งเริ่มทำผลงาน การปั้นก็ยังไม่เหมือนชัดเจนเท่าที่ควร จนกระทั่งมีการพัฒนาฝีมือการปั้น และเพิ่มอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าไปมากขึ้น จึงเป็นที่พึงพอใจโดนใจและเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้ามากขึ้น”
ไชยวัฒน์บอกอีกว่า งานปั้นตุ๊กตาที่ทำเป็นงานแฮนด์เมด รับงานปั้นตุ๊กตาหน้าคนจากรูปภาพจริง ๆ โดยสามารถใช้เป็นของขวัญ เช่น วันเกิด, วันรับปริญญา, วันแต่งงาน, วาเลนไทน์ ฯลฯ งานปั้นจะทำด้วยดินญี่ปุ่น ซึ่งมีความเหนียวคงทน และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงมีการใส่พร็อพต่าง ๆ เช่น กระถางต้นไม้, ม้านั่ง, รถ ฯลฯ ให้เข้ากับงานปั้นนั้น ๆ

การทำตุ๊กตานั้น ต้องให้ลูกค้าแจ้งมาว่าต้องการแบบไหน ใช้ในงานหรือเทศกาลอะไร แล้วทางร้านจะเสริมหรือแนะนำให้ลูกค้าอีกทีว่าควรจะออกมาในรูปแบบไหน อย่างไรก็ตาม การปั้นตุ๊กตาล้อเลียนขายนั้น ในการทำงานก็ต้องคำนึงถึงลูกค้าเป็นหลักว่าลูกค้าต้องการงานประเภทใด และอธิบายตัวงานให้ชัดเจนว่างานเป็นแนวล้อเลียนน่ารัก ๆ ไม่ได้ปั้นแบบหน้าเหมือน จะออกแนวน่ารัก โดยความเหมือนจะขึ้นอยู่กับเอกลักษณ์ของผู้เป็นแบบปั้น ซึ่งจะต้องมีการประเมินงานและส่งตัวอย่างให้ลูกค้าเข้าใจก่อนทุกครั้งที่จะ ทำการปั้น

สำหรับตุ๊กตาล้อเลียนที่เสริมแฟลชไดร์ฟสำหรับเก็บข้อมูลเข้าไป เป็นสินค้าอีกตัวหนึ่งที่ผลิตขึ้นมาเพื่อให้ตุ๊กตามีรูปแบบใหม่ ๆ ให้ลูกค้าเลือก และยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้

วัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้สำหรับทำงานปั้น หลัก ๆ ก็มี... ดินญี่ปุ่น, สีอะคริลิก, กาวร้อน หรือกาวตราช้าง สำหรับติดส่วนต่าง ๆ, ลวดสำหรับยึดแกน, ฐานสำหรับไว้ตั้งตุ๊กตา, โรล สำหรับกดทับดินให้เป็นแผ่นเรียบ ฯลฯ

ทุนเบื้องต้น สำหรับการซื้อดินมาทดลองปั้น และอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท

ขั้นตอนการทำ “ตุ๊กตาแฟลชไดร์ฟ” ...เริ่มจากการนำรูปถ่ายของลูกค้าที่ส่งมาให้ มาดูเป็นแบบ หลังจากนั้นก็เริ่มปั้นโดยเริ่มจากการขึ้นรูปส่วนหัวก่อน โดยขึ้นรูปหน้าตามเอกลักษณ์รูปหน้าของคนที่เป็นแบบ เช่น จมูกโต, หน้าผากกว้าง, ผมเป็นเช่นไร เมื่อทำการปั้นส่วนหัวเรียบร้อยแล้ว ก็มาปั้นส่วนตัวของตุ๊กตา ซึ่งก็จะปั้นตามชุดที่ลูกค้าสั่ง ส่วนทางด้านล่างของตัวตุ๊กตานั้นจะทำช่องไว้สำหรับใส่แฟลชไดร์ฟ เมื่อปั้นส่วนตัวเสร็จก็นำแฟลชไดร์ฟใส่เข้าไปในช่องที่ทำไว้ ยึดติดให้แน่นด้วยกาว จากนั้นก็ทำฝาครอบปิดแฟลชไดร์ฟ ตกแต่งหน้าตา ลงสีตุ๊กตาตามลวดลายที่ออกแบบไว้ เป็นอันเสร็จ

ตุ๊กตาปั้นล้อเลียนเสริมแฟลชไดร์ฟ มีราคาเริ่มตั้งแต่ชิ้นละ 2,000 บาทขึ้นไป ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับรูปแบบความยากง่ายของงานที่สั่งทำ ถ้ามีพร็อพเยอะราคาก็สูงขึ้น นอกจากนั้นไชยวัฒน์ยังทำตุ๊กตาโมเดล และงานหล่อแบบเป็นของพรีเมียมต่าง ๆ เช่น แม็กเน็ตติดตู้เย็น ตลอดจนงานขึ้นรูปตามที่ลูกค้าต้องการ โดยปัจจุบันไชยวัฒน์ไม่มีหน้าร้าน ใช้การขายผ่านเว็บไซต์ โดยเจ้าตัวบอกว่า การขายผ่านเว็บไซต์มีข้อดีคือลดต้นทุนค่าเช่าร้าน และลูกค้าติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สนใจชิ้นงานตุ๊กตาปั้นที่มีแฟลชไดร์ฟ เก็บข้อมูล สามารถเข้าไปสอบถาม และดูรายละเอียด หรือดูตัวอย่างสินค้า ได้ที่เว็บไซต์ www.tuktapun.com เบอร์โทรศัพท์ 08-6588-8163 อีเมล basissoft@yahoo.com
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ รายงาน
Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/384/180514

Read More...


เครื่องนับเหรียญ ไอเดียนายธนาคารตัวน้อย *

การจะนับเงินเหรียญจำนวนมาก ๆ ให้มีความถูกต้องและแม่นยำไม่ให้ขาดไม่ให้เกินภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ถือเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเด็กชั้นประถมศึกษา เพราะการนับเงินเหรียญให้ครบถ้วนและถูกต้อง ที่มีความแตกต่างของขนาดตามมูลค่าของเงินนั้น ต้องใช้เวลาและสมาธิมากพอสมควร

แต่ที่โรงเรียนธนาคาร ของโรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์ ภายใต้การสนับสนุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่มีนายธนาคารตัวน้อย ๆ ชั้นประถมศึกษาคอยให้บริการรับฝากถอนเงิน มีเงินหมุนเวียนในแต่ละวันเป็นหมื่น ๆ ปัจจุบันมียอดเงินฝากสูงถึง 6 ล้านบาท ซึ่งเด็ก ๆ ไม่มีหวั่นกับการนับเหรียญจำนวนมาก เพราะน้อง ๆ ได้คิดและประดิษฐ์เครื่องนับเหรียญมาเพื่อช่วยลดระยะเวลาในการนับ เพื่อป้องกันความผิดพลาด ทำให้การทำงานธนาคารเป็นเรื่องง่ายและสนุก แม้จะใช้เวลาสั้น ๆ เพียงแค่ 45 นาทีในช่วงพักกลางวันก็ตาม





ด้วยจำนวนนักเรียนที่มากถึง 3,265 คน กับเวลาที่จำกัด เพื่อให้โรงเรียนธนาคารเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงได้นำเรื่องนี้เข้าหารือในสภานักเรียน โดยมีข้อสรุปว่า ให้นักเรียนชั้น ป.5-6 มาฝากเงินวันจันทร์ วันอังคารจะเป็นของน้อง ป.4 ส่วนวันพุธเป็นของน้อง ป.3 วันพฤหัสบดีเป็นของน้อง ป.2 และวันศุกร์จะเป็นของน้อง ป.1 การฝากเงินแต่ละครั้งต้องฝาก 10 บาทขึ้นไป เปิดบัญชีครั้งแรก 100 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 สตางค์ต่อปี และด้วยธนาคารเปิดเพียงแค่ 45 นาที ทำให้ในแต่ละวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งโดยเฉพาะมีน้อง ๆ ป.1 มาฝากเงินก็จะนำเงินเหรียญบาทมาฝากจำนวนมาก บางคนก็ทุบกระปุกออมสินนำเงินมาฝาก ทำให้การนับเงินที่เป็นเหรียญมีความยุ่งยาก ล่าช้า และบางครั้งก็เกิดความผิดพลาดนับผิด จำนวนเงินไม่ตรงกับยอด ทั้งยังเสียเวลาไปกับการนับอีกด้วย

“น้องนาย-เด็กชายศุภณัฐ มังคลาด” ผู้จัดการโรงเรียนธนาคารอนุบาลอุตรดิตถ์ ตัวแทนน้อง ๆ โรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้มีแนวคิดประดิษฐ์เครื่องนับเหรียญขึ้น เพื่อประหยัดเวลา สะดวก และที่สำคัญต้องถูกต้องแม่นยำ ที่ผ่านมาแม้จะเกณฑ์นักเรียนจิตอาสาทั้งหมดที่มี รวมทั้งคุณครูที่ดูแลโรงเรียนธนาคารมาช่วยกันนับ ก็ยังกินเวลาเรียน และเวลาสอน เมื่อมีแนวคิดประดิษฐ์เครื่องนับเหรียญ ครูนงนุช สีสอ และ ครูธนธัช บุญคุ้ม ซึ่งดูแลโรงเรียนธนาคาร โรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์ จึงได้นำแนวคิดไปปรึกษากับช่างไม้ของโรงเรียนเพื่อช่วยกันประดิษฐ์เครื่อง นับเหรียญขึ้น

สำหรับเครื่องนับเหรียญของน้อง ๆ โรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์ เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านแบบง่าย ๆ โดยนำไม้สักมาตัดเป็นรูปทรงคล้ายพัด เซาะเป็นร่องตามยาวเท่าขนาดของเหรียญบาท เหรียญสองบาท เหรียญห้าบาท และเหรียญสิบบาท ทั้งความลึกและความกว้าง ส่วนขนาดนั้นแตกต่างกันออกไปตามจำนวนแถวที่เพิ่มขึ้น เมื่อนำมาใช้ก็จะรู้ได้ทันทีว่าทุกแถวเมื่อนำเหรียญวางลงไปคิดเป็นจำนวนเงิน เท่าไหร่

หลังจากนำมาทดลองใช้ ปรากฏว่าประสบความสำเร็จตั้งแต่วันแรกที่ใช้ เพราะเครื่องนับเงินดังกล่าวไม่เพียงช่วยประหยัดเวลา รวดเร็วแม่นยำ ถูกต้อง แต่ยังช่วยเสริมทักษะทางด้านการเรียนวิชาคณิตศาสตร์อีกด้วย

“โดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนที่ชอบวิชาคณิตศาสตร์ และอยากเรียนรู้วิชาชีพนักการธนาคารเพื่อเป็นพื้นฐานของการประกอบอาชีพใน อนาคต ผมรู้สึกว่าการนับเงินเหรียญช่วยฝึกความรอบคอบและช่วยเสริมทักษะทางด้าน คณิตศาสตร์ เพราะการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเงินต้องมีความรับผิดชอบอย่างสูง”

น้องนาย ยังให้ทรรศนะว่า โรงเรียนธนาคารช่วยส่งเสริมวินัยการออมให้กับเด็กเป็นอย่างมาก การที่เราต้องเก็บเงินไว้ทุกวันเพี่อนำมาฝากทุกสัปดาห์ จะช่วยให้เรามีรากฐานการเงินมั่นคงในอนาคต ช่วยฝึกให้เราเรียนรู้ขั้นตอนตลอดจนกระบวนการในการฝากเงิน และสำหรับส่วนตัวน้องนายมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 400 บาท ซึ่งเขาบอกว่าจะวางแผนการใช้เงินเป็นอย่างดี เพื่อจะได้มีเงินออม

ครูนงนุช สีสอ กล่าวว่า โรงเรียนธนาคารนอกจากจะช่วยฝึกให้เด็กมีนิสัยเรื่องการออมแล้ว ยังช่วยให้เด็กได้ฝึกความอดทน ความมีวินัย ความซื่อสัตย์ และความมีน้ำใจ นอกจากนั้นยังได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับเด็กอีกด้วย

นี่เป็นตัวอย่างเล็ก ๆ ของไอเดียเด็กไทย ที่น่าส่งเสริมในวันเด็กปีนี้!!.

นภาพร พานิชชาติ

napapornp@dailyners.co.th


Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/2567/177802

Read More...


‘เต่าเงิน-เต่าทอง’ ทำเงินจากของที่ระลึก *

 ทีม “ช่องทางทำกิน” เคยนำเสนอการทำงานประดิษฐ์ ของชำร่วย ของที่ระลึก ไปแล้วหลายแบบ และวันนี้ก็จะนำเสนออีกหนึ่งแบบ คือการทำ “เต่าเงิน-เต่าทอง” จากสบู่ โดย อ.พยุง ทองสุข  ประธานชมรมผู้สูงอายุทองสุข 5 เครือข่ายผู้สูงอายุจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นวิทยากรให้สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้ที่ให้ข้อมูลการทำของชำร่วยจากสบู่รูปแบบนี้...

 อ.พยุง บอกว่า เริ่มหัดทำงานประดิษฐ์มาตั้งแต่ พ.ศ.2546 โดยเริ่มที่งานดอกไม้ก่อน  แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนทำอย่างอื่นด้วย สำหรับ “เต่าเงิน-เต่าทอง” ซึ่งเป็นการประดิษฐ์ที่เพิ่มค่าให้กับสบู่ ได้ไอเดียจากการออกงานต่างจังหวัดบ้าง รายการโทรทัศน์บ้าง หรืออ่านหนังสือบ้าง ซึ่งก็ใช้เวลาคิดทำนานพอสมควร เมื่อทำออกมาแล้วก็เป็นของชำร่วยที่ได้รับความนิยมอีกชนิดหนึ่ง โดยนิยมมอบให้ผู้ใหญ่ในโอกาสพิเศษต่าง ๆ อาทิ งานเกษียณอายุ วันเกิด หรือวันปีใหม่





                    
วัสดุ-อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำ หลัก ๆ ก็มี สบู่หอม, หมุดเล็ก, กาว, ริบบิ้นเงิน-ทอง ประมาณ 10 เมตร, คัตเตอร์, ลวดเงิน-ลวดทอง

วิธีทำ ตัดสบู่เป็นก้อนสี่เหลี่ยม ขนาดกว้าง 3 ซม. ยาว  4.5 ซม. หนา 1.5 ซม.  เพื่อทำเป็นรูป “ตัวเต่า”  โดยเกลามุมทั้งสี่ของตัวเต่าให้มน ๆ เสร็จแล้วปักหมุดเล็กบริเวณหัวให้เป็นวงกลม ทั้งหมด 10 ตัว จากนั้นปักหมุดเล็กบริเวณรอบตัวเต่า ประมาณ  42 ตัว กะระยะห่างแต่ละตัวประมาณ 0.5 ซม.

ขั้นต่อไปก็ใช้หมุดเล็กประมาณ 6 ตัว ปักบริเวณตรงกลางหลังเต่าหรือกลางสบู่ ให้เป็นวงกลม สำหรับเป็น “หลัก” ในการโยงริบบิ้นกับหมุดเล็กที่ปักรอบตัวเต่า

วิธีการโยงคือ  ใช้หมุดเล็ก (ที่ปักบริเวณตรงกลางสบู่) อันใดอันหนึ่งปักปลายริบบิ้น แล้วโยงริบบิ้นไปพันกับหมุดเล็กอันใดอันหนึ่งตรงบริเวณหัวเต่า โดยหลัก 1 หลัก จะพันหมุดเล็ก 7 หมุด  ทำไปเรื่อย ๆ จนครบ 6 หลัก เสร็จแล้วก็พลิกสบู่อีกด้านขึ้นมา แล้วทำการโยงเหมือนที่กล่าวมา

ลำดับถัดมาเป็นการทำ “เชิงเต่า” ด้วยการพันริบบิ้นรอบหมุดเล็กที่ปักรอบตัวเต่า  วิธีการคือ ให้พันริบบิ้นรอบหมุดเล็กตัวใดตัวหนึ่ง และค่อย ๆ พันรอบหมุดเล็กตัวต่อไป ทำแบบนี้ 2 รอบ
ขั้นตอนต่อไปคือ การทำ “หลังเต่า” หรือเรียกว่า “กระเบื้อง” ด้วยการปักหมุดเล็กบนหลังเต่า 3 ชั้น ชั้นละ 4 ตัว ชั้นที่ 1 ปักชิดบริเวณเชิงเต่า โดยปักบริเวณตรงกลางด้านหัวเต่า 1 ตัว ตรงกลางด้านท้ายตัวเต่า 1 ตัว และตรงกลางของด้านข้างตัวเต่าแต่ละด้าน ด้านละ 1 ตัว  ชั้นที่ 2 เขยิบขึ้นมาสูงอีกนิด แล้วปักหมุดเล็กลงตรงบริเวณกึ่งกลางของหมุดเล็กของชั้นที่ 1 ส่วน ชั้นที่ 3 ปักหมุดเล็กให้ตรงกับชั้นที่ 2 แต่ขยับพื้นที่ที่จะปักให้ขึ้นมาสูงอีกนิด
วิธีการโยงริบบิ้น  หมุดเล็กชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ให้ริบบิ้นโยงแบบ สลับฟันปลา ไปมา ให้รอบตัวเต่า ส่วนหมุดเล็กชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 ให้โยงริบบิ้นให้เป็นรูป สามเหลี่ยม

เมื่อเสร็จขั้นตอนต่าง ๆ ดังที่ว่ามาข้างต้น ก็ทำการตกแต่งตัวเต่าด้วยการใช้อัญมณีมงคลที่เป็นอัญมณีเทียม เช่น เพชร มุก ทับทิม หรือคริสตัล วางตกแต่งบนหลังเต่า

เสร็จแล้วจึงทำ “หัวเต่า” ด้วยการใช้ริบบิ้นพันบนเม็ดโฟมกลม ๆ (หรือจะใช้เกสรดอกบัวแทนก็ได้) แล้วติดลูกตา และติดลวดเล็กสำหรับเสียบเข้าไปในเนื้อสบู่ ส่วน “หางเต่า” ใช้กระดาษทิซชูแผ่นเล็ก ๆ ม้วนเป็นเส้นยาวประมาณ 1 ซม. ใช้ริบบิ้นพันทับอีกที แล้วติดลวดเล็ก ขณะที่ “ขาเต่า” ทั้ง 4 ขา  ใช้ลวดเล็กทำ ดัดเป็นฝ่าเท้า พันทับด้วยริบบิ้น เสร็จแล้วนำแต่ละส่วนไปเสียบตามตัวเต่าให้เรียบร้อย เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำทั้งหมด

“เต่าเงิน-เต่าทอง” งานประดิษฐ์ ของชำร่วย ของที่ระลึก จากสบู่หอม รูปแบบนี้ ขายพร้อมตู้กระจกในราคาคู่ละ 350 บาท โดยมีต้นทุนชุดละประมาณ 200 บาท
                   
ใครสนใจงานประดิษฐ์ “เต่าเงิน-เต่าทอง” ต้องการติดต่อ  อ.พยุง ทองสุข  ประธานชมรมผู้สูงอายุทองสุข 5 เครือข่ายผู้สูงอายุจังหวัดปทุมธานี ผู้ให้ข้อมูล “ช่องทางทำกิน” รูปแบบนี้ ก็ติดต่อได้ที่ เลขที่ 48 หมู่ 2 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หมายเลขโทรศัพท์ 08-3037-5189 และ 08-6407-0377.

สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล
แสงจันทร์ สนั่นเอื้อ


Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/384/177785

Read More...


เสื้อเชิ้ตคู่รัก ขายคู่ 'ทำเงินทวีคูณ' *

เสื้อเชิ้ตคู่รักที่ทำออกมาจะเน้นเรื่อง ของการแสดงความรักที่มีต่อกัน ไม่ว่าจะกับแฟน หรือกับครอบครัว จึงตั้งชื่อแบรนด์ว่า Alyssa ที่ในภาษากรีกแปลว่า “ผู้เป็นที่รัก” 

สินค้า แบบ “ขายเป็นคู่” เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจ อย่างเช่น “เสื้อคู่รัก” ซึ่งมีมาระยะหนึ่งแล้ว โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นเสื้อยืด แต่บางร้านก็ผลิต ’เสื้อเชิ้ตคู่รัก“ ออกจำหน่าย โดยนำความเป็นคู่มาชูเป็นจุดขาย ดึงดูดลูกค้ากลุ่มคู่รักทั้งหลาย เป็นสินค้าที่ขายได้ทั้งปี ช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ยิ่งขายดี เป็นอีกกรณีศึกษา ’ช่องทางทำกิน“ ...

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

ตุ้น-นริชพันธ์ เป็นผลดี และ เดือน-ศิรินทิพย์ บรรจงศิริ เจ้าของธุรกิจเสื้อเชิ้ตคู่รัก ร้าน “อาลิสสา-Alyssa” เล่าว่า เสื้อเชิ้ตคู่รักที่ทำออกมาจะเน้นเรื่องของการแสดงความรักที่มีต่อกัน ไม่ว่าจะกับแฟน หรือกับครอบครัว จึงตั้งชื่อแบรนด์ว่า Alyssa ที่ในภาษากรีกแปลว่า “ผู้เป็นที่รัก”

ความเป็นมาของธุรกิจเสื้อเชิ้ตคู่รักนั้น ทั้งคู่เล่าว่า เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ตอนกำลังจะแต่งงานกัน ก่อนแต่งงานต้องมีการถ่ายรูปแต่งงานเพื่อใช้ในงาน ก็คิดกันว่าจะใส่เสื้อคู่ถ่ายให้เป็นคอนเซปต์แสดงถึงความเป็นคู่รักกัน ซึ่งตอนนั้นเสื้อคู่มีแต่แบบที่เป็นเสื้อยืด เสื้อโปโล แต่อยากจะหาอะไรที่ดูแตกต่างจากเดิม พอดีแม่เป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้า จึงออกแบบเสื้อคู่ที่เป็นเสื้อเชิ้ตแล้วให้แม่ตัดเย็บให้ ปรากฏว่าเสื้อเชิ้ตคู่รักที่ทำได้รับความสนใจมาก ทุกคนที่มาร่วมงานส่วนใหญ่ก็ถามว่าเสื้อคู่นี่ซื้อมาจากที่ไหน ไม่เคยเห็น แปลก น่ารักดี เมื่อเห็นว่าหลายคนสนใจจึงเกิดไอเดียที่จะทำเป็นธุรกิจ


ที่ทำเสื้อเชิ้ตคู่รักออกมาจำหน่าย เพราะมองว่าเสื้อเชิ้ตคู่รักเป็นสินค้าที่ยังไม่ค่อยมีคนทำ เพราะเสื้อคู่รักที่มีอยู่ในตลาดส่วนใหญ่เป็นเสื้อยืดหรือเสื้อโปโล ก็จะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคในความเป็นเสื้อเชิ้ต ที่มีความแตกต่างจากตลาดเสื้อคู่แบบเดิม สำหรับลูกค้ากลุ่มที่ไม่ชอบใส่เสื้อยืดหรือเสื้อโปโล หรือลูกค้าที่ต้องการความแปลกใหม่

“เราทำตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ตัดเย็บเอง ทำให้สามารถตอบสนองลูกค้าในเรื่องของขนาด ซึ่งบางคนที่ไซซ์ใหญ่หรือเล็กเป็นพิเศษเราก็สามารถตัดเย็บให้ลูกค้าได้ โดยปกติเสื้อแนวเสื้อคู่จะมีไซซ์เป็นมาตรฐาน เช่น M, L, XL ถ้าลูกค้าตัวใหญ่หรือเล็กกว่าไซซ์มาตรฐาน ก็จะไม่พอดี เราก็ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ เราทำธุรกิจเสื้อเชิ้ตคู่รักมาประมาณ 2 ปี ปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่จะรู้ว่าเสื้อเชิ้ตคู่ของเราสามารถสั่งตัดได้ตามไซซ์ ที่ต้องการ กระแสตอบรับก็ค่อนข้างดี ทั้งแบบเสื้อคู่ และเสื้อครอบครัว มีลูกค้าสั่งตลอดทั้งปี ยิ่งช่วงเทศกาล เช่น วาเลนไทน์ สงกรานต์ ปีใหม่ ออร์เดอร์ก็จะเพิ่มขึ้น”


เจ้าของธุรกิจนี้บอกต่อไปว่า กลุ่มลูกค้า ก็จะเป็นลูกค้าที่ต้องการนำเสื้อคู่ไปใส่ถ่ายรูปงานแต่ง หรือใส่ไปเที่ยว หรือใส่เป็นครอบครัว เน้นตลาดคนทำงานออฟฟิศ แม่บ้าน และลูกค้าอีกกลุ่มคือ กลุ่มลูกค้าที่สั่งตัดเย็บพิเศษตามไซซ์พิเศษ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง การออกแบบก็จะเน้นเทรนด์แฟชั่นใหม่ ๆ สินค้าทุกชิ้นจะออกแบบและตัดเย็บเอง เพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพสินค้าได้ เวลาออกแบบก็จะคำนึงถึงเรื่องของการสวมใส่กันเป็นคู่ หรือใส่กันเป็นครอบครัว แบบหรือลวดลาย รวมทั้งสีสัน ต้องให้ดูลงตัว ดูดี ใส่แล้วดูน่ารัก สามารถใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง รวมทั้งเด็กและผู้ใหญ่


“การทำธุรกิจนี้ควรมีพื้นฐานเทรนด์แฟชั่น ยิ่งรู้เรื่องการออกแบบตัดเย็บด้วยยิ่งส่งผลดีในการสร้างแบบใหม่ ๆ ข้อควรระวังในการทำธุรกิจเสื้อคู่รักคือสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นทั่วไปจะขายได้ เร็วกว่า เพราะเสื้อคู่รักมักจะใส่ในโอกาสพิเศษ เช่น ไปเที่ยว รายได้อาจจะเข้ามาช้า แต่ในทางตรงข้ามเราสามารถสร้างกำไรได้มากกว่าเนื่องจากคู่แข่งขันน้อย”


วัสดุอุปกรณ์ในการทำ หลัก ๆ ก็มี...จักรเย็บผ้า, ผ้าคอตตอน, อุปกรณ์สำหรับออกแบบเสื้อ พวกกระดาษ ดินสอ กรรไกร เป็นต้น ขั้นตอนการผลิตเริ่มจาก...คัดเลือกสีและลายผ้าตามต้องการ ออกแบบเสื้อ หลังจากที่ออกแบบเสื้อเสร็จแล้วก็นำมาสร้างชิ้นงานตัวอย่างเสื้อ โดยการทำเป็นแพตเทิร์น ขึ้นมา ทำการปรับปรุงแก้ไขให้เรียบร้อย และเมื่อปรับปรุงแก้ไขเสร็จก็การลอกแบบเป็นแพตเทิร์น ออกมา เมื่อได้แพตเทิร์นที่สมบูรณ์มาก็นำไปลอกแบบลงบนผ้าที่ต้องการ ตัดผ้าตามแพตเทิร์น จากนั้นก็ไปถึงกระบวนการขั้นตอนการเย็บประกอบให้เป็นเสื้อ เย็บกระดุม ติดอุปกรณ์ตกแต่งตามแบบ หลังจากที่เย็บเสร็จแล้วก็ทำการตรวจสอบคุณภาพของเสื้อ ก่อนที่จะทำการแพ็กใส่ซองพลาสติก เพื่อจำหน่าย

สำหรับการลงทุนทำธุรกิจเสื้อเชิ้ตคู่รัก เริ่มต้นประมาณ 100,000-150,000 บาท เป็นค่าผ้าที่เป็นวัสดุหลัก ประมาณ 60% ค่าอุปกรณ์การตัดเย็บ เช่น จักรเย็บผ้า โต๊ะตัดผ้า ประมาณ 30% และเป็นค่าใช้จ่ายย่อยประมาณ 10%

ราคา “เสื้อเชิ้ตคู่รัก” อยู่ที่ 598 - 1,018 บาท/คู่ (ชาย-หญิง) ถ้าเป็นราคาเสื้อเชิ้ตครอบครัว (พ่อ-แม่-ลูก) อยู่ที่ 918 – 1,258 บาท/เซต ทั้งนี้ ราคาจะขึ้นกับความยากง่ายในแต่ละแบบ โดยมีต้นทุนวัสดุประมาณ 50% ของราคา

สนใจ ’เสื้อเชิ้ตคู่รัก“ หรือเสื้อครอบครัว ของร้านอาลิสสา (Alyssa Lovercouple) สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.ladysquare.com/sirintip/ หรือ http://www.facebook.com/pages/เสื้อคู่รัก-อาลิสสาต้องการสั่งออร์เดอร์ หรือสอบถาม ก็ติดต่อได้ที่ โทร. 08-9601-5775, 08-9748-4806, อีเมล Alyssa_lovercouple@hotmail.com
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ รายงาน

Read More...


เปิดร้านออนไลน์ เทรนด์"ทำเงิน"รับเออีซี *

หลายธุรกิจ-หลายผู้ประกอบการ เริ่มหันมาเลือกใช้ “อินเทอร์เน็ต” เป็นช่องทางทำเงินกันเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น การใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะกับโน้ตบุ๊ก เท่านั้น หากแต่ยุคนี้ผู้ใช้งานในกลุ่มสมาร์ทโฟนกับแท็บเล็ตก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อ เนื่อง บรรดาผู้ประกอบการจึงสนใจช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ต และ “โซเชียลเน็ตเวิร์ก” เครือข่ายสังคมออนไลน์ กันมากขึ้นเรื่อย ๆจนกล่าวได้ว่า “ร้านออนไลน์” ได้กลายเป็น “เทรนด์ค้าขายสินค้า-เทรนด์การให้บริการ” สำหรับธุรกิจยุคใหม่ ที่คนทำอาชีพไม่ควรจะมองข้าม...


ในรอบปี 2555 ที่ผ่านมา ทีม “ช่องทางทำกิน” ก็นำเสนอกรณีศึกษาผู้ผลิตหลายรายที่หันมาสนใจและใส่ใจการขายผ่านช่องทางนี้ ทั้งแบบเปิดร้านออนไลน์บนเว็บไซต์ เปิดขายเฉพาะใน
เฟซบุ๊ก-โซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือใช้ทั้ง 2 ช่องทางไปพร้อม ๆ กัน จนสร้างชื่อสินค้าให้เป็นที่รู้จักได้อย่างน่าสนใจ ดังเช่นที่จะนำมาประมวลเป็นตัวอย่างกันในวันนี้...

“ตัวหนีบไม้การ์ตูน” ของ พงศ์พิชา ชาตเสรีย์ รายนี้ใช้ทั้งเว็บไซต์กับเฟซบุ๊กเพื่อจำหน่ายสินค้า โชว์ผลงาน และติดต่อสื่อสารกับลูกค้า ในชื่อ www.coolclamp.ibuy.co.th และ www.facebook.com/Cool-Clamp, “งานผ้าสักหลาด” ของ อรทัย ดานาดแก้ว เด็กสาวที่ผลิตชิ้นงานกระจุกกระจิกขายได้ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เธอมีเว็บไซต์ส่วนตัวชื่อ http://lovelybunny.welove shopping.com เป็นช่องทางขายเสริมเพิ่มจากการตระเวนขาย, “กระดุม-ต่างหูผ้าทำมือ” ของหนุ่มใหญ่ การัณยภาส ทวีสุข รายนี้หันมาทุ่มเทผลิตชิ้นงานจากผ้าลวดลายสดใส ขายผ่านร้านค้าออนไลน์เป็นหลัก คือที่ www.facebook.com/nokllamer และ www.yeshandmade.lnwshop.com ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายเรื่องร้านได้มาก

นอกจากจะใช้การจำหน่ายสินค้าผ่าน “ร้านออนไลน์เป็นหน้าร้าน” เป็นอาชีพหลักแล้ว กับรูปแบบร้านออนไลน์นี้ก็ยังมีผู้ผลิตหลายรายอาศัยเป็นช่องทางในการทำเป็น อาชีพเสริม-เพิ่มรายได้ ซึ่งก็ทำได้โดย “ไม่ต้องใช้ทุนสูง”

ยกตัวอย่าง “ที่คล้องประตู” ดีไซน์เก๋ ๆ ของ จารุวรรณ อินจันทร์-ศักดิ์นรินทร์ เรืองโรจน์วรไชย นักออกแบบกราฟิก รายนี้ใช้เวลาว่างจากงานประจำผลิตสินค้าขายผ่านเว็บไซต์ http://jikong.bigshopping.com, “ที่หุ้มแก้วน้ำ” ของ ภัทรพล เรืองศรี-รัชนก พุมมา สองหนุ่มสาวพนักงานออฟฟิศ ทำงานประจำทั้งคู่ แต่ก็ทำเงินเสริมได้อีกจากการเลือกใช้การจำหน่ายสินค้าผ่านเว็บไซต์ www.mindmoody.com, “ตุ๊กตาหมีอัดเสียง” ของ หทัยชนก สมมิตร กรณีศึกษารายนี้ก็ใช้เฟซบุ๊กชื่อ www.facebook.com/IamAbear2012 เป็นช่องทางในการติดต่อกับลูกค้า

สินค้าประเภทเสื้อผ้า ก็นับว่าถูกโฉลกกับ “ร้านออนไลน์” ไม่น้อยเลย อย่างธุรกิจจำหน่าย “เสื้อผ้าบิ๊กไซซ์” ของ เจมส์-อภิณุ วิริยกอบกุล ในรูปแบบร้านค้าออนไลน์ ในอินเทอร์เน็ต ทางเว็บไซต์ www.fattyshop.com นี่ก็เป็นอีกกรณีที่น่าสนใจมาก ซึ่งเจ้าของธุรกิจนี้มองได้ขาด สามารถตอบสนองความต้องการของคนที่มีไซซ์บิ๊ก ๆ ได้อย่างลงตัว

“รับจัดงานทำบุญ” บริการประเภทนี้ก็สามารถจะใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นช่องทางหาลูกค้า-สื่อสาร กับลูกค้าได้ อย่าง ชลธิชา พร้อมพิพัฒนา ที่เผยแพร่งานบริการประเภทนี้ผ่าน www.facebook.com/pages/Thumboon เป็นต้น

แม้แต่การขาย “อาหาร-ขนม” ก็มีหลายรายที่เปิดร้านออนไลน์เพื่อเพิ่มช่องทางขาย อาทิ “ขนมอิตาเลี่ยนสไตล์ญี่ปุ่น” ของ กมลรัตน์ ภาสวร ที่ใช้เฟซบุ๊ก www.facebook.com/cuppujung เสริมการขาย, “ขนมจีบไทยรูปตัวนก” ของ เนาวรัตน์ เจาวัฒนา ใช้ทั้งเฟซบุ๊ก www.facebook.com/12SiS-Catering และเว็บไซต์ www.twelvesis.com เป็นต้น

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้การจำหน่ายสินค้าผ่าน “ร้านออนไลน์” ทั้งการใช้เว็บไซต์ และเฟซบุ๊ก เป็นที่นิยม น่าจะเกิดจาก “ต้นทุนต่ำ-ลงทุนไม่มาก” อีกทั้งหลายรายยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ หรือทำเพื่อเป็นอาชีพเสริม มีกำลังการผลิตไม่มาก จึงอาจไม่พร้อมที่จะต้องลงทุนมาก ๆ ในการเปิดร้านขายถาวร จึงเลือกช่องทางจำหน่ายรูปแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ที่ทำเป็นธุรกิจจริงจังแล้วแต่ก็ยังใช้ช่องทางนี้ก็มีไม่น้อย ซึ่งช่องทางนี้มีหัวใจสำคัญคือ ต้อง “ซื่อสัตย์-ตรงต่อเวลา” กับลูกค้า

ร้านออนไลน์ ไม่ใช่ว่าจะขาย-ซื้อกันได้ในตลาดสินค้าในประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงต่างประเทศด้วย และในอนาคตอันใกล้ เมื่อ “ตลาดเออีซี (AEC)” หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เปิดขึ้นในปี 2558 การค้าขายสินค้ากับต่างประเทศ กับประเทศเพื่อนบ้าน เทรนด์ค้าขายด้วย “ร้านออนไลน์” ก็น่าจะสำคัญมากขึ้น ซึ่งหากผู้ประกอบการปรับตัวปรับรูปแบบร้านออนไลน์ เช่น มีภาษาอังกฤษ หรือ จัดทำเป็น 2 ภาษา ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสการขายมากยิ่งขึ้น

“จะถูกขยายหรือสร้างมูลค่าได้แค่ไหน ขึ้นกับกระแส และการสร้างสรรค์ หมายความว่า ขึ้นอยู่กับว่าใครจะนำไปใช้งานได้ดี หรือส่งผลได้มากน้อยแค่ไหนต่อกิจกรรมหรือวัตถุประสงค์ที่ต้องการ” นี่เป็นการระบุของ ดร.พจน์ ใจชาญสุขกิจ เจ้าของเว็บไซต์ www.drphot.com นักสื่อสารเชิงกลยุทธ์ชื่อดัง ที่เคยสะท้อนผ่าน “เดลินิวส์” ไว้ กับเรื่องเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและรวดเร็วขึ้น โซเชียลเน็ตเวิร์กมีอิทธิพลกับผู้คนมากขึ้น ซึ่งก็ทำให้ “ตลาดเติบโตมากขึ้น” ด้วย

....เหล่านี้ก็เป็นบางส่วน เป็นตัวอย่างของธุรกิจยุคใหม่ ที่ “อยู่ในกระแส-อยู่ในเทรนด์” การทำธุรกิจด้วยช่องทาง “ร้านออนไลน์” พร้อมด้วยมุมมองผู้สันทัดกรณีที่น่าคิด ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” ประมวลมาให้ลองพิจารณากัน

ช่องทางแบบนี้...นับวันจะยิ่งน่าสนใจนะ!!!.

Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/384/176378

Read More...


ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0










































 
Blogger Tips and TricksLatest Tips And TricksBlogger Tricks
Do it your self,handmade,HandiCraft,งานฝีมือ,อาชีพเสริม,ช่องทางทำเงิน บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.