บทความที่ได้รับความนิยม


Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

วิธีป้องกันงูเข้าบ้านรู้ไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย


          เรียกว่าเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนกลัวงูเลยทีเดียว หากมีงูเข้าบ้านให้ต้องกระวนกระวายใจ เพราะเมื่องูเข้าบ้านมาแล้ว ก็อาจจะไปซุกตัวอยู่บริเวณใดบริเวณหนึ่ง ไม่ยอมจากไปง่าย ๆ แถมยิ่งถ้าเป็นงูที่มีพิษด้วยล่ะก็ ยิ่งเสี่ยงจะเกิดอันตรายกับคนในบ้านได้มาก โดยเฉพาะในฤดูฝนที่มักมีงูเงี้ยวเขี้ยวขอชุกชุมเป็นพิเศษ ดังนั้นหากใครอยากรู้ วิธีกันงูเข้าบ้าน หรือ ทำอย่างไรไม่ให้งูเข้าบ้าน วันนี้กระปุกดอทคอมมีคำตอบมาฝากแล้วจ้า
ลักษณะของงู
          งู เป็นสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่ง ลำตัวยาว ไม่มีขา เคลื่อนไหวได้ด้วยการเลื้อยอย่างปราดเปรียวและว่องไว ยกเว้นงูขนาดใหญ่ที่มักเคลื่อนที่ช้า ลำตัวมีเกล็ดหุ้ม ไม่มีเปลือกตา มีลิ้นสองแฉกเพื่อใช้รับความรู้สึกทางกลิ่น ทั้งนี้ส่วนใหญ่งูมักจะกลัวคนและไม่ค่อยกัด นอกจากถูกรบกวน โดยจะออกหาเหยื่อเมื่อรู้สึกหิว และมักกินสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กเป็นอาหาร เช่น หนู, จิ้งจก, ลูกไก่, กระต่าย ฯลฯ
          โดย งู มีอยู่จำนวนนับร้อยชนิด ทั้งแบบมีพิษ และไม่มีพิษ แต่ที่พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศไทยคือ งูเห่า (มีพิษ) งูจงอาง (มีพิษ) งูเขียว (ไม่มีพิษ หรือมีพิษน้อย) งูหลามและงูเหลือม (ไม่มีพิษ แต่เขมือบเหยื่อได้ทั้งตัว) เป็นต้น
งูเข้าบ้าน เกิดจากสาเหตุอะไร
1. มีแหล่งอาหาร
          หากบ้านหรือสถานที่แห่งนั้น มีแหล่งอาหารงูที่อุดมสมบูรณ์ เช่น มีหนูชุกชุม หรือเลี้ยงสัตว์ตัวเล็ก ๆ อย่าง นกและลูกไก่ อีกทั้งหากมีสวนที่หญ้ารกหรือต้นไม้อุดมสมบูรณ์ งูก็มักจะมาซ่อนตัวเพื่อใช้ชีวิตอยู่ด้วยเหมือนกัน
2. ไม่มีสุนัขหรือแมว
          บ้านไหนที่ไม่มีสัตว์เลี้ยง หรือมักไม่ค่อยมีคนอยู่บ้าน งูจะชอบมากเป็นพิเศษ เนื่องจากงูชอบอยู่เงียบ ๆ ไม่มีศัตรูมาคอยก่อความรำคาญ ยิ่งหากเป็นหน้าฝนหรือมีน้ำท่วมขัง งูก็จะมุ่งตรงเข้าบ้านเพื่อเลื้อยหาที่แห้ง ๆ ให้ซุกตัว
3. มีมุมอับให้วางไข่
          หากบ้านไหนมีมุมอับที่ไม่มีคนรบกวน งูมักจะเลือกเป็นพื้นที่อาศัยหรือวางไข่  เช่น ใต้ถุนบ้าน ใต้หลังคา ฝ้าเพดาน หรือในตู้ที่ไม่ค่อยเปิดใช้งาน เป็นต้น โดยงูจะเลือกบริเวณที่มีอุณหภูมิเหมาะสม มีความอบอุ่น และไม่มีกลิ่นหรือเสียงรบกวน

งูเข้าบ้าน วิธีป้องกันงูเข้าบ้าน

วิธีป้องกันงูเข้าบ้าน
          แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากให้งูเลื้อยเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านเหมือนเป็นครอบ ครัวเดียวกันแน่ ๆ ดังนั้นก่อนที่จะมีงูโผล่มาเยือนถึงในบ้าน ให้ต้องหวาดระแวง ลองมาดูวิธีป้องกันไว้แต่เนิ่น ๆ ดังนี้
1. น้ำมันกลิ่นฉุน
          กลิ่นแรง ๆ ของน้ำมันเครื่อง น้ำมันก๊าด น้ำมันสน หรือน้ำมันรถ จะทำให้งูไม่อยากย่างกรายเข้ามาใกล้ เพราะงูเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบกลิ่นแรง ๆ ดังนั้นในช่วงหน้าฝน หรือหากพบเห็นงูมาป้วนเปี้ยนอยู่แถว ๆ บ้าน ก็ลองเอาน้ำมันกลิ่นแรง ๆ ไปราดไว้บริเวณรอบ ๆ บ้าน ก็จะช่วยไล่งูให้หนีไปทางอื่นได้
2. กรวด
          กรวด หรือหินก้อนเล็ก ๆ หากนำมาโรยไว้รอบตัวบ้าน ก็จะทำให้งูเกิดอุปสรรคในการเลื้อย เพราะเมื่อเจอกับก้อนกรวดจนทำให้เลื้อยลำบาก งูก็จะเปลี่ยนใจไปที่อื่นในที่สุด
3. เลี้ยงสุนัข
          แม้ดูแล้วจะเหมือนให้สุนัขเสี่ยงอันตรายแทน แต่ที่จริงแล้วสุนัขมักจะไม่นิ่งเฉยหากมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาใกล้ ส่วนงูก็เป็นสัตว์ที่ตกใจง่าย ดังนั้นหากงูเริ่มคืบคลานเข้ามาใกล้ ๆ บ้าน สุนัขก็จะส่งเสียงเห่า ทำให้งูตกใจและหนีไปเอง บ้านไหนที่เลี้ยงสุนัขเอาไว้จึงได้เปรียบในกรณีนี้ แต่หากเป็นงูขนาดใหญ่สุนัขก็อาจเกิดอันตรายได้
4. แผ่นกันงู
          เป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับติดไว้ที่ผนัง หรือเสาไฟ เพื่อดักไม่ให้งูเลื้อยผ่าน เพราะแผ่นกันงูทำจากพลาสติกที่มีความลื่นสูง จึงทำให้เป็นอุปสรรคในการเลื้อย ซึ่งอาจทำให้งูตกลงมาหรือหมดแรงไปก่อน
5. ตาข่าย
          การติดตั้งตาข่ายเอาไว้รอบบริเวณที่คาดว่าจะเป็นทางเดินของงู เพื่อเข้าสู่ตัวบ้าน ก็จะช่วยดักงูไว้ได้อีกทาง ซึ่งตาข่ายที่นำมาติดตั้งนั้น ควรเลือกที่มีตาชิด ให้งูไม่สามารถลอดผ่านได้ หรือใช้ตาข่ายดักปลาแทนก็ได้  งูก็จะติดอยู่กับตาข่าย ไม่เลื้อยเข้าไปในบ้าน
6. มุ้งลวด
          นอกจากตาข่ายแล้ว มุ้งลวดก็เป็นอีกอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันงูได้ในกรณีที่อยากใช้ในการปิดทาง เดิน ไม่ให้งูเลื้อยผ่าน ซึ่งมุ้งลวดอาจมีความแตกต่างตรงที่ไม่สามารถดักให้งูติดอยู่ได้ แต่ก็สามารถป้องกันขวางทางเอาไว้ได้เช่นกัน
7. กำมะถัน
          แม้จะยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่า กำมะถัน ใช้กันงูได้จริงหรือไม่ แต่หลายบ้านก็นิยมใช้กำมะถันผสมน้ำแล้วโรยเอาไว้รอบบ้าน เพื่อป้องกันงูเช่นกัน เนื่องจากเชื่อว่ากลิ่นฉุนของกำมะถันจะทำให้งูเลี่ยงไปทางอื่น ซึ่งในกรณีนี้อาจป้องกันงูไม่ได้ทุกชนิดและทุกตัว และอาจต้องโรยบ่อยในช่วงหน้าฝน เนื่องจากกลิ่นกำมะถันจะจางหายไปได้ง่าย
8. ทำความสะอาดบ้าน
          กำจัดหนู และสิ่งสกปรกในบ้าน ก็จะช่วยไม่ให้งูมีแหล่งอาหารและที่พักพิง ซึ่งเป็นวิธีป้องกันที่เริ่มจากต้นตอได้มากที่สุด ที่สำคัญควรหมั่นตัดหญ้าและดูแลสวนอย่างสม่ำเสมอ งูจะได้ไม่ใช้เป็นที่แฝงตัว อีกทั้งควรหาอะไรมาปิดรูท่อ หรือใส่ตะแกรงท่อระบายน้ำเอาไว้ด้วย งูจะได้ไม่เลื้อยเข้าบ้านทางท่อระบายน้ำ และอย่าลืมดูรองเท้าก่อนใส่ทุกครั้ง เพราะในรองเท้าเป็นตำแหน่งที่งูมักเข้ามาซุกซ่อนอยู่
วิธีแก้ปัญหา เมื่องูเข้าบ้าน
          หากบ้านไหนป้องกันงูเข้าบ้านแล้ว แต่เจ้างูก็ยังเลื้อยเข้ามาในบ้านจนได้ อย่าเพิ่งตกอกตกใจไป ให้รีบตั้งสติให้ดี และทำตามขั้นตอนเหล่านี้
1.สังเกตประเภทของงู
          พยายามสังเกตให้ดีว่า งูที่เลื้อยเข้ามาในบ้านเป็นงูชนิดใด ลักษณะอย่างไร และมีพิษหรือไม่ โดยให้สังเกตที่หัวงู หากเป็นทรงสามเหลี่ยมแสดงว่ามีพิษ เช่น งูเห่า งูจงอาง หากเป็นทรงมนกลมแสดงว่าไม่มีพิษ เช่น งูหลาม เป็นต้น
2. อยู่นิ่ง ๆ เคลื่อนไหวช้า ๆ
          งูจะตกใจหากมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว หรือมีคนไล่ ดังนั้นให้ยืนนิ่ง ๆ หรือค่อย ๆ ขยับถอยหลังช้า ๆ โดยจับตามองความเคลื่อนไหวของงูเอาไว้ด้วย ที่สำคัญต้องเว้นระยะห่างให้ปลอดภัยจากการโดนฉก
3. อย่าไล่หรือทำร้าย
          หากไม่มั่นใจว่าเป็นงูมีพิษหรือไม่ อย่าไล่หรือทำร้ายงูด้วยตัวเอง เพราะหากมีการไล่หรือทำร้าย งูอาจตกใจจนหนีหายไปซุกซ่อนอยู่ในมุมหลืบทำให้หาไม่เจอ หรืออาจพุ่งตัวเข้าฉกทันทีจนเกิดอันตรายได้ อีกทั้งยังเชื่อกันว่ากลิ่นเลือดและสารบางอย่างในตัวงู จะทำให้เรียกสมัครพรรคพวกงูเข้ามาเสริมทัพได้ด้วย ดังนั้นจึงห้ามตีงูจะดีกว่า
4. แจ้งขอความช่วยเหลือ
          โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย เพื่อมาจับงูออกจากบ้านไป เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด เพราะเจ้าหน้าที่มีความชำนาญมากพอที่จะจับงูต่าง ๆ ออกจากบ้านไปได้โดยไม่ทำอันตรายคนในบ้าน

          ได้รู้จักกับวิธีป้องกันงูเข้าบ้าน และวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเมื่องูเข้าบ้านกันไปแล้ว บ้านไหนกำลังกลุ้มใจกับปัญหานี้อยู่ ก็ลองนำวิธีเหล่านี้ไปลองใช้ดูกันได้นะคะ
............
(หมายเหตุ : ที่มาข้อมูล วิธีป้องกันงูเข้าบ้านรู้ไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัยเรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุ กดอทคอม http://home.kapook.com/view65807.html)

Read More...


วิธีป้องกัน งู เข้าบ้าน


จากข่าวสุดสยอง ที่มีงูเห่าเลื้อยเข้าบ้าน แค่งูตัวเดียวก็พากันสยองขนลุกไปไหนต่อไหนแล้ว แต่ข่าวนี้เล่นเข้ามาทั้งหมด 23 ตัว เล่นพูดไม่ออกทีเดียว
เชื่อว่ามีบ้านอยู่หลายบ้าน ที่เจอปัญหางู เข้าบ้านมาแบบไม่ได้รับเชิญอยู่หลายหลังแน่ๆ Sanook! MEN มีวิธีป้องกันงูเข้าบ้านง่ายๆ มาฝากครับ

สาเหตุที่งูเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน
1. บ้าน หรือสถานที่นั้นเป็นแหล่ง "อาหาร" ที่อุดมสมบูรณ์
เช่น บ้านที่มีหนูชุกชุมเพราะรกรุงรัง หรือมีบ่อน้ำ สระน้ำที่มีปลาเยอะ หรือมีการเลี้ยงนกเลี้ยงไก่ไว้ ฯลฯ ยิ่งบ้านที่ขาดการจัดให้เป็นระบียบ บ้านที่จัดพื้นที่สวนแต่ปล่อยให้รก ทั้งนี้เพราะงูทุกชนิดเป็นสัตว์นักล่า กินเหยื่อเป็นสัตว์ด้วยกัน
2. ลักษณะบ้านเป็นที่ "ปลอดภัย" สำหรับงู
ไม่มีศัตรูก่อความรำคาญ หรือ ทำร้ายจนถึงชีวิต เช่น ไม่มีหมาคอยไล่เห่า ไม่มีห่านไล่งับหรือไม่มีสัตว์
คู่อริเช่น พังพอน หรือเมื่อมีน้ำท่วมขังงูก็จะหนีน้ำขึ้นไปอาศัยบนที่สูง
3. บ้านมี "ที่อยู่" เหมาะสม เพียงพอ
ได้แก่ มีที่หลบซ่อนตัว หลับนอน หลบภัย วางไข่ เช่น ใต้ถุนบ้าน บ้านที่มีฝ้าเพดาน ฯลฯ สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับงู นับแต่อุณหภูมิอบอุ่นจากดินหรือแสงแดด พื้นผิวที่ไม่ระคายเคือง ไม่มีกลิ่นและเสียงรบกวน ( ซึ่งมากับความสั่นสะเทือน ) ฯลฯ
วิธีป้องกันงูเข้าบ้านคุณ

การป้องกันงูเข้าบ้านนั้นสามารถป้องกันได้โดยแก้จากเหตุจูงใจให้งูอยากเข้าบ้าน หรือหาสิ่งของที่เขาว่ากันว่าป้องกันงูได้ มาวางไว้

1. อย่า ให้บ้านเราเป็นแหล่งรวมอาหารของงู
เช่น กำจัดหนูโดยการดัก เบื่อ และจัดบ้านให้สะอาด เป็นระบียบเรียบร้อยไม่รกรุงรัง
2. ทิ้งขยะให้เป็นที่และมิดชิดเพื่อไม่ให้หนูกิน
เมื่อประชากรหนูลดลง งูก็จะลดลงตามไปด้วย
3. น้ำมันรถยนต์
มีรายการรายการหนึ่งทางวิทยาศาสตร์ เคยทดลองเรื่องนี้มาแล้ว ปรากฏว่า งูเลื้อยหนีกลิ่นน้ำมันรถยนต์ ดังนั้น จึงใช้ผ้าชุดน้ำมันรถ มาวางไว้รอบๆ บ้าน ก็ช่วยได้
4. ใช้ผงกำมะถัน ( สีเหลืองๆ ) มาผสมน้ำแล้วราดบริเวณรอบบ้าน
แต่วิธีนี้ต้องทำบ่อยหน่อย อย่างน้อย เดือนละครั้ง เพราะกำมะถันเจือจางแล้วงูก็เข้าอีก
5.เลี้ยงสุนัข สุนัขจะช่วยเป็นหูเป็นตาให้เราได้เป็นอย่างดี เมื่อมีสิ่งแปลกๆ เข้ามาในบ้าน ในบางครั้ง แค่สุนัขเริ่มเห่า งูก็ตกใจกลัว เลื้อยหนีไปแล้ว แต่ก็มีในบางกรณี สุนัขของท่านก็อาจจะเสียท่าให้งูได้ หากงูตัวใหญ่กว่า
6. เลี้ยงห่าน
จากข้อมูลเว็บบอร์ดหลายๆแห่ง คนที่เลี้ยงจำนวนมากยืนยันว่า ตั้งแต่เลี้ยงห่านก็ไม่ได้เห็นงูในบ้านอีกเลย จะมีเห็นก็แค่ตอนที่ห่านกินงู นอกจากนี้มีหลายคนเชื่อว่างูไม่ถูกกับกลิ่นขี้ห่าน บ้างก็ว่าเสียงร้องของห่าน
7. แผ่นกันงู เอาไว้กันในแนวดิ่ง เช่นเสา กำแพง วัสดุมีความลื่นสูงจนงูไม่สามารถเลื้อยขึ้นไปได้

และเมื่องู เข้ามาอยู่ในบ้านแล้ว จะทำอย่างไร
1. สังเกตุและแยกแยะประเภทของงูก่อนเลยครับว่าเป็น งูมีพิษหรือไม่ม ี
โดย สังเกตุง่ายๆ ที่ หัวหากลักษณะเป็น สามเหลี่ยม นั้นคืองูมีพิษ แต่หาก มีลักษณะ มนกลม งูไม่มีพิษ ซึ่งบ้านเรามีอยู่ชัดๆ เจอบ่อยๆ 2 พวกคือ งูเหลือม งูหลาม กับ งูเห่า ซึ่งแยกค่อนข้างชัด โดยที่งูเหลือมงูหลามเป็นงูไม่มีพิษแต่มีอันตรายโดยการรัดเหยื่อ ส่วนงูเห่ามีแม่เบี้ยแผ่ให้เห็นชัดเจน ทำร้ายโดยการกัดและปล่อยพิษ ฉะนั้นการหลบหลีก หรือจับก็จะแตกต่างกัน และต้องได้รับการฝึกฝนเป็นการเฉพาะ
2. ไม่ควรใช้วิธีไล่งูเพราะถึงคุณจะไล่ได้ในวันนี้วันอื่นๆมันก็จะกลับมาเหมือน เดิม งูจะพุ่งฉกหรือกัดเหยื่อที่เคลื่อนไหวฉะนั้นหากเผชิญกับงูให้อยู่นิ่งๆแล้ว เคลื่อนไหว หรือถอยฉากหนีอย่างช้าๆโดยจับตาดูการเคลื่อนไหวของงูไว้ เพื่อหลบหลีกและควรอยู่ในระยะที่ปลอดภัย
3. เฝ้าสังเกตุว่างูยังอยู่ที่เดิมหรือมีทิศทางการเคลื่อนที่ไปในทิศทางใด
เพื่อกันการหลบหนี
4. กันสมาชิกในบ้านให้อยู่ห่างมันไว้ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือสัตว์เลี้ยง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมาเอาไว้ให้ห่าง เพราะอาจโดนฉกหรือทำร้ายได้ และ อาจจะเป็นการไล่งู ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง
5. เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน เพราะมนุษย์นั้นไม่ใช่เหยื่อโดยธรรมชาติของงู
หากเราไม่ทำร้ายงูก่อน งูก็จะหลีกเลี่ยงไม่ทำร้ายมนุษย์เช่นกัน
6 . โทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือ องค์การสวนสัตว์ โทร. 02 282 7111 ต่อ 3 หรือ 191

ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.barascientific.com/bscnews/variety/mail-forward/Article-09-10.php
http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2012/10/R12760679/R12760679.htm

Read More...


'ถุงกระดาษเก็บความเย็น ฝ้าย' เกาะกระแสกาแฟถุง โตทั่วไทย

       ขอเกาะกระแสกาแฟถุงกระดาษที่ ขึ้นชื่อในเรื่องการเก็บความเย็นของน้ำแข็งในถุงได้นานหลายชั่วโมง เกิดฮิตในหมู่ธุรกิจกาแฟโบราณ ส่งผลให้ผู้ผลิตถุงกระดาษสีน้ำตาลได้รับอานิสงส์ไปด้วย อย่าง “ถุงกระดาษเก็บความเย็น ฝ้าย” ความครบวงจรทั้งผลิต ออกแบบ จัดส่งทั่วไทยในราคาประหยัด ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในเวลาอันรวดเร็ว
'ถุงกระดาษเก็บความเย็น ฝ้าย' เกาะกระแสกาแฟถุง โตทั่วไทย
       ถือเป็นผู้ประกอบการรายแรกๆ “รัชนก กล่อมเมฆ” ผู้ผลิตถุง 'กระดาษเก็บความเย็น ฝ้าย' ที่เติบโตมาพร้อมกระแสกาแฟถุงกระดาษ ที่ผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากราคาขายเพียงถุงละ 20 บาท เรียกว่าคุ้มค่ากับปริมาณที่ได้รับ เธอย้อนที่มาธุรกิจนี้ให้ฟังว่า ตนเองเคยทำธุรกิจมาหลายอย่าง แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร กระทั่งมาเจอถุงกล้วยแขกที่เป็นกระดาษสีขาวธรรมดา มีการพิมพ์ชื่อร้านลงไปแบบง่ายๆ ยังไม่มีลวดลายอะไรมากนัก จึงคิดอยากลองทำถุงกระดาษลักษณะนี้ดู เพราะเชื่อว่าตนเองสามารถออกแบบให้สวยงามกว่านี้ได้
'ถุงกระดาษเก็บความเย็น ฝ้าย' เกาะกระแสกาแฟถุง โตทั่วไทย
       ตัดสินใจร่วมหุ้นกับเพื่อนรับผลิตถุงกระดาษ ลงทุนซื้อเครื่องจักร ยอดขายดีขึ้นเป็นลำดับ กระทั่งธุรกิจกาแฟถุงกระดาษเริ่มได้รับความนิยม จึงหันมาผลิตถุงกระดาษเก็บความแทน พร้อมผันตัวเองออกมาทำธุรกิจนี้เพียงคนเดียว โดยใช้ ชื่อว่า “ถุงกระดาษเก็บความเย็น ฝ้าย” ที่เธอ บอกว่า เป็นเจ้าแรกๆ ที่ประกาศตัวเป็นผู้ผลิตและออกแบบถุงกระดาษเก็บความเย็นในโซเชียลมีเดีย อย่าง เฟซบุ๊ก (Facebook)
'ถุงกระดาษเก็บความเย็น ฝ้าย' เกาะกระแสกาแฟถุง โตทั่วไทย
       เมื่อต้องออกมาดำเนินธุรกิจเพียงลำพัง เธอพร้อมลุยเต็มที่ เริ่มจากหา แหล่งกระดาษที่มีคุณสมบัติเก็บความชื้นได้ดี มีตัวเคลือบเฉพาะเพื่อเก็บความเย็น ซื้อเครื่องจักรสำหรับพิมพ์ถุงกระดาษ และหาคนพับถุง พร้อมประกาศหาลูกค้าผ่านเฟซบุ๊ค วางตำแหน่งตัวเองชัดเจนในเรื่องการผลิตถุงกระดาษเก็บความเย็น และออกแบบได้ตามใจลูกค้า
'ถุงกระดาษเก็บความเย็น ฝ้าย' เกาะกระแสกาแฟถุง โตทั่วไทย
       “ในช่วงแรกจำนวนลูกค้า ยังไม่มากนัก แต่เมื่อเกิดการบอกปากต่อปากถึงคุณภาพของชิ้นงาน ทำให้เราได้รับความไว้วางใจ และสิ่งที่ทำให้เราเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในระยะเวลาอันสั้น คือ ลูกค้าที่เป็นเจ้าของแฟรนไชส์กาแฟถุงกระดาษ มาสั่งทำให้ทำให้ได้ปริมาณการผลิตจำนวนมาก และช่วยกระจายแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักได้เร็วขึ้น”
    
       สำหรับการออกแบบทางร้านจะมีทีมออกแบบโดยเฉพาะ เน้นตามความต้องการของลูกค้าในเรื่องรายละเอียดของถุง ส่วนเรื่องไอเดียออกแบบโลโก้ทางร้านจะดูแลเป็นหลัก โดยนำความคิดของลูกค้ามาประกอบ และเมื่อขั้นตอนการออกแบบเสร็จสิ้น จะนำไปพิมพ์บนเครื่องพิมพ์คุณภาพ จากนั้นนำมาตัดตามแบบและส่งไปพับทีละใบ ซึ่งกระบวนการพับจะเกิดการสูญเสียมากที่สุด เช่น ถุงเบี้ยว เอียง ทำให้เมื่อนำไปใส่กับถุงกาแฟจะเกิดความไม่สมดุล เสี่ยงต่อการหกเลอะเทอะ ซึ่งถุงที่มีปัญหาเหล่านี้ทางร้านฯ จะไม่นำส่งแก่ลูกค้าเลย
'ถุงกระดาษเก็บความเย็น ฝ้าย' เกาะกระแสกาแฟถุง โตทั่วไทย
       “เราทำธุรกิจนี้มาได้ประมาณ 7 เดือน มีลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการกระจายการพับให้คนในละแวกใกล้เคียง ที่สนใจหารายได้พิเศษหลังเลิกงาน ปัจจุบันมีกว่า 100 คนที่ช่วยพับ ในอัตราค่าจ้างใบละ 50 สตางค์ (ฝีมือดี) และ 40 สตางค์ (มือใหม่) ส่วนคุณภาพ กระดาษสีน้ำตาลจะมีให้เลือก 2 แบบ คือ ความหนา 125 แกรม เก็บความเย็นได้ประมาณ 5 ชั่วโมง (ใบละ 1.80 บาท) ทำส่งแฟรนไชส์ทั่วประเทศ ขณะที่ความหนา 150 แกรม เก็บความเย็นได้ 9 ชั่วโมง (ใบละ 2 บาท) และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีก 1 ครั้ง หรือผู้ประกอบการที่ต้องการลดต้นทุนในเรื่องถุงกระดาษลงไปอีก เราก็มีลายอิสระ ที่ทางร้านออกแบบไว้แล้ว มีให้เลือกหลายสี ได้แก่ ชมพู ฟ้า เขียว ซึ่งเป็นใหม่จากเดิมที่มีแต่สำน้ำตาลเท่านั้น ราคาอยู่ที่ใบละ 1.60 บาทเท่านั้น”
'ถุงกระดาษเก็บความเย็น ฝ้าย' เกาะกระแสกาแฟถุง โตทั่วไทย
       ปัจจุบันลูกค้าถุงกระดาษเก็บความเย็น ฝ้าย ส่วนใหญ่เป็นกาแฟโบราณเกือบ 100% ที่เหลือเป็นถุงกล้วยแขก ที่เริ่มสั่งสั่งทำเป็นถุงหูหิ้ว โดยราคาจะแพงขึ้นเล็กน้อย แต่ทางร้านยังไม่ได้โปรโมทมากนัก เพราะลำพังแค่ถุงกาแฟก็มีลูกค้าสั่งจากทั่วประเทศ มีออเดอร์ทุกวัน ต้องใช้เวลาในการผลิตประมาณ 1 สัปดาห์ต่อลูกค้า 1 ราย
    
       ส่วนที่มีข่าวว่าธุรกิจกาแฟถุงกระดาษเป็นแค่กระแส คนฮิตในช่วงสั้นๆ ผู้ผลิตถุงกาแฟกระดาษ รายนี้บอกว่าไม่ใช่กระแสอย่างแน่นอน เพราะดูจากยอดสั่งผลิตของลูกค้า โดยเฉพาะแฟรนไชส์เกิดใหม่ขึ้นแทบทุกวัน ยอดสั่งผลิตไม่ตกเลย ขณะที่การนำไปใช้งาน ถือว่ามีคุณภาพเหนือกว่าแก้วกระดาษมาก เพราะสามารถเก็บความเย็นได้นาน และคนซื้อไปฝากกันได้จำนวนมากกว่าแก้ว จากการหิ้วที่สะดวกได้ครั้งละ 10-20 ถุงเลยทีเดียว ทำให้ผู้ที่ประกอบการธุรกิจกาแฟถุงเพิ่มยอดขายได้จากศักยภาพถุงกระดาษเก็บ ความเย็นนี้
'ถุงกระดาษเก็บความเย็น ฝ้าย' เกาะกระแสกาแฟถุง โตทั่วไทย
       ***สนใจติดต่อ 084-0943438 หรือที่ Facebook : ถุงกระดาษเก็บความเย็น ฝ้าย***

credit by : http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000133252

Read More...


โปรยทาน กระดาษสาห่อเหรียญ ช่องทางสร้างอาชีพเสริมยุคค่าครองชีพพุ่ง

เหรียญโปรยทานกระดาษสา งานมงคล
       ในภาวะที่ค่าครองชีพทะยาน เพิ่มสูงขึ้น ทำให้หลายคนเริ่มต้องมองหาอาชีพเสริมเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว งานฝีมือก็เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสาวๆ และเป็นที่ชื่นชอบของสาวหลายคน รวมถึงสาวคนนี้ “นุศรา อินหนู” เธอได้เลือกทำเหรียญโปรยทานกระดาษสา เพราะนอกจากได้ทำงานฝีมือที่ชื่นชอบแล้ว เธอยังได้ทำบุญอีกด้วย
โปรยทาน กระดาษสาห่อเหรียญ ช่องทางสร้างอาชีพเสริมยุคค่าครองชีพพุ่ง
เหรียญโปรยทานกระดาษสา งานศพ
       สำหรับเหรียญโปรยทาน เป็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน เราจะพบการใช้เหรียญโปรยทานในงานบวชพระ และงานศพ เป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นความเชื่อของคนไทยที่ว่าการโปรยเหรียญทานถือเป็นการให้อย่างหนึ่ง ซึ่งผู้ที่บวชพระจะต้องพึงกระทำ เช่นเดียวกันงานศพ โปรยทานเพื่อสร้างบุญกุศลให้กับผู้ตายอีกทางหนึ่ง
โปรยทาน กระดาษสาห่อเหรียญ ช่องทางสร้างอาชีพเสริมยุคค่าครองชีพพุ่ง
อุปกรณ์การทำเหรียญทั้งหมด
       ทั้งนี้ ด้วยคนไทยเป็นคนช่างประดิดประดอย ดังนั้น การโปรยทานเฉยๆ ก็คงจะดูธรรมดาไป ในช่วงหลังจึงได้มีการประดิดประดอยเหรียญโปรยทานออกมาในรูปแบบต่างๆ เช่น ริบบิ้นเหรียญโปรยทาน และที่เริ่มเห็นมากขึ้นเป็นงานเหรียญโปรยทานรูปดอกไม้ จากกระดาษสา
   
       นุศราเล่าถึงเหรียญโปรยทานกระดาษสาว่า จุด เริ่มต้นของงานกระดาษสาเหรียญโปรยทานเริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมาจากคนพับเหรียญจำหน่ายพัฒนารูปแบบใหม่ออกมาเพื่อหนีการแข่งขันงาน ริบบิ้น ซึ่งมีคนทำกันมาก และมีโรงงานกระดาษสาตัดกระดาษสาออกมา ช่วยให้ทำงานออกมาได้ง่ายขึ้นมาก ทำให้ใครก็สามารถทำเหรียญโปรยทานกระดาษสากันง่าย ไม่ยุ่งยาก ต่างจากงานริบบิ้นที่มีขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยากกว่า
โปรยทาน กระดาษสาห่อเหรียญ ช่องทางสร้างอาชีพเสริมยุคค่าครองชีพพุ่ง
นุศรา อินหนู เจ้าของผลงาน
       อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันริบบิ้นเหรียญโปรยทานมีการพัฒนารูปแบบออกมามากขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า และ หนีการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น เพราะหลายคนหันมาให้ความสนใจกับการสร้างรายได้จากการพับเหรียญโปรยทาน จำหน่าย ซึ่งช่องทางการขายของงานประดิษฐ์เหรียญโปรยทานในปัจจุบัน นอกจากตามร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์แล้ว เราก็ยังได้เห็นช่องทางการขายผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างเฟซบุ๊ก
โปรยทาน กระดาษสาห่อเหรียญ ช่องทางสร้างอาชีพเสริมยุคค่าครองชีพพุ่ง
       สำหรับเหรียญโปรยทานจะขายได้มากในช่วงเทศกาลก่อนเข้าพรรษา เพราะเป็นช่วงฤดูกาลบวชพระ มี การสั่งทำเหรียญโปรยทานไปใช้กันมาก ซึ่งถ้าพ้นจากช่วงเทศกาลบวชพระก็จะขายได้เรื่อยๆ สำหรับงานศพ แต่งานศพไม่ใช่ทุกงานที่จะมีการโปรยทาน ทำให้ขายเหรียญโปรยทานได้ไม่มากนัก และที่มีการใช้เหรียญโปรยทานอีกอย่างหนึ่งก็คือ พิธีบวงสรวง แต่เดิมใช้เหรียญโปรยลงไปเลย แต่เดี๋ยวนี้มีการใช้เหรียญโปรยทานที่ห่อด้วยริบบิ้น หรือกระดาษสากันมากขึ้น เพราะเห็นว่าสวยงาม และดูดี
โปรยทาน กระดาษสาห่อเหรียญ ช่องทางสร้างอาชีพเสริมยุคค่าครองชีพพุ่ง
ดอกคาร์เนชั่น
       นุศราเล่าว่า เธอได้เริ่ม ทำงานห่อเหรียญโปรยทานจากกระดาษสามาได้ประมาณ 1 ปี เริ่มจากชอบทำบุญ และชอบงานฝีมือ เห็นห่อเหรียญกระดาษสาสวยดีก็เลยซื้อมาทำ และนำไปช่วยทำบุญกับคนรู้จัก และญาติๆ ที่บวชพระ ไม่ได้คิดเรื่องการ ค้าอะไร แต่อาศัยว่าเป็นคนชอบทำบุญ และการทำเหรียญโปรยทานเราก็ได้ทำบุญจริง เพราะก็คงไม่มีใครเอาเหรียญโปรยทานของเราไปทำอย่างอื่นแน่นอน และที่มาทำเป็นการค้าเกิดจากสนุกกับการทำ และการได้ห่อเหรียญโปรยทานกระดาษสาจำหน่าย เหมือนกับการที่เราได้ทำบุญ และมีรายได้ด้วย โดยใช้ช่องทางการขายผ่านเฟซบุ๊ก เพราะสามารถเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศได้ในเวลาอันรวดเร็ว
   
       สำหรับราคาขายเหรียญกระดาษสาของคุณนุศรา จัดแพกขายเป็นห่อ ห่อละ 50 ดอก (สำหรับเหรียญ 1 บาท) แบบห่อ 3 ชั้น ราคา 130 บาท และห่อ 2 ชั้น 50 เหรียญ ราคา 110 บาท ใน ส่วนของรายได้ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าช่วงนั้นมีความต้องการมากน้อยแค่ไหน แต่ช่วงทำเงินของคุณนุศรา จะเป็นช่วงบวชพระ เพราะจำเป็นต้องใช้เหรียญโปรยทาน รายได้ก็จะอยู่ประมาณเดือนละ 10,000 บาทต้นๆ แต่ถ้าพ้นเทศกาลบวชพระรายได้ลดลงกว่าครึ่งหนึ่ง หรือเฉลี่ยประมาณ 3,000 บาทต่อเดือน
โปรยทาน กระดาษสาห่อเหรียญ ช่องทางสร้างอาชีพเสริมยุคค่าครองชีพพุ่ง
       “อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการห่อเหรียญโปรยทานกระดาษสาเป็นงานฝีมือที่ทำได้ง่าย ทำให้หลายคนหันมาซื้ออุปกรณ์ทำเองมากกว่า ปัจจุบันรายได้ครึ่งหนึ่งของเรามาจากการขายอุปกรณ์ ซึ่งเราโชคดีที่ได้รู้จักกับทางโรงงาน ทำให้สามารถรับซื้ออุปกรณ์ กระดาษสามาได้ในราคาไม่แพง ทำให้สามารถนำมาขายต่อทำกำไรได้บ้างนอกเหนือจากการขายเหรียญ เพราะลูกค้าบางคนก็ต้องการที่จะได้แสดงฝีมือเอง ซึ่งราคากระดาษสาทางเราจะขายห่อละ 35 บาท ทำได้ 100 เหรียญ ถ้าซื้อ 3 ห่อคิด 100 บาท”
   
       โทร. 0-81041-7370 ,www.facebook.com/ โปรยทานกระดาษสาห่อเหรียญ

credit by : http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000008253

Read More...


' บ้านกระดาษสวย' ความงามเส้นเล็ก ทำได้ขายรวย

       ความมั่นคงในตำแหน่งระดับผู้จัดการน่าจะสร้างความมั่นคงแก่ชีวิตพอสมควร แต่เจ้าของธุรกิจ “บ้านกระดาษสวย” ราย นี้กลับมองเห็นความเสี่ยงที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จากการต้องทำยอดขายให้ได้ตามเป้า ไม่เช่นนั้นเก้าอี้อาจหลุดได้ เขาจึงเลือกเส้นทางที่ชื่นชอบอย่างศิลปะจากการม้วนกระดาษ สร้างความมั่นใจและความสุขในบั้นปลายชีวิต
' บ้านกระดาษสวย' ความงามเส้นเล็ก ทำได้ขายรวย
อภิชาต วรวุฒิวิมล เจ้าของธุรกิจ “บ้านกระดาษสวย”
       อภิชาต วรวุฒิวิมล เจ้าของธุรกิจ “บ้านกระดาษสวย” ย้อน ที่มาธุรกิจนี้ว่า ตนเองเป็นมนุษย์เงินเดือนมาประมาณ 15 ปี ในตำแหน่งระดับผู้จัดการเงินเดือนค่อนข้างสูง มีความมั่นคงในชีวิต แต่ความจริงแล้วกลับมีความเสี่ยงที่จะต้องออกจากงานสูงมากเช่นกัน เหมือนยืนอยู่บนความไม่แน่นอนตลอดเวลา เพราะต้องการทำยอดขายให้ได้ตรงตามเป้า เกิดความเครียดสะสมและอาจส่งผลต่อสุขภาพได้ในอนาคต
' บ้านกระดาษสวย' ความงามเส้นเล็ก ทำได้ขายรวย
       ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจลาออกแม้ยังไม่มีงานใหม่รองรับ อาศัยเงินเก็บสะสมที่เหลืออยู่ใช้จ่ายประจำวัน ควบคู่ไปกับการมองหาธุรกิจส่วนตัว เริ่มจากสำรวจตัวเองว่าชอบทำอะไร นั่นคือ งานประดิดประดอย ทั้งงานเทียน งานผ้าบาติก แต่ทั้งสองอย่างมีคนทำเยอะ เขาจึงมองไปที่งานกระดาษที่ยังมีไม่มากนัก
   
       กระทั่งไปพบศิลปะการม้วนกระดาษ หรือ Paper Quilling  ก็สนใจ รวมถึงยังไม่มีใครที่ทำงานด้านนี้อย่างจริงจัง ทั้งที่คนไทยก็รู้จักมานานกว่า 10 ปีแล้ว เขาเริ่มเรียนรู้ ศึกษาหาข้อมูล ขั้นตอนการทำ และฝึกฝนฝีมือควบคู่กันไป โดยไม่ได้ไปเรียนเพิ่มเติมที่ไหน
' บ้านกระดาษสวย' ความงามเส้นเล็ก ทำได้ขายรวย
       “ผมเห็นว่าการม้วนกระดาษในลักษณะนี้ยังไม่มีคู่แข่งและสามารถสร้าง ความแปลกใหม่ที่แตกต่างจากสินค้าอื่นได้ จึงมุ่งมั่นที่จะสร้างธุรกิจจากงานนี้ และเหตุผลหลักอีกอย่างหนึ่งคือ ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 3,000 บาทเท่านั้น หากไม่ประสบความสำเร็จก็ไม่เจ็บตัวมากนัก ส่วนวัสดุก็ไม่ยุ่งยาก หาซื้อได้ตามขายเครื่องเขียนทั่วไป อย่าง กระดาษสี กรรไกร กาว โดยนำ กระดาษมาตัดเป็นเส้นเล็กๆ ขนาด 3 มม.-1 ซม. ใช้เข็มเย็บผ้านำมาผูกติดกับไม้เสียบลูกชิ้นเพื่อให้จับถนัดมือ สอดเส้นกระดาษเข้าไปแล้วม้วน พยายามให้เหลือช่องว่างตรงกลางให้เล็กที่สุดเพื่อความสวยงาม จับความกว้างระหว่างเส้นการม้วนตามชอบใจ เพื่อให้เกิดลวดลายที่สวยงาม นำมาติดกาวลงบนแผ่นกระดาษ กลายเป็นการ์ดของขวัญส่งความสุขได้ไม่ซ้ำใคร”
' บ้านกระดาษสวย' ความงามเส้นเล็ก ทำได้ขายรวย
       เป็นเวลาประมาณ 1 ปี ที่เขาฝึกฝนเป็นที่น่าพอใจ ตัดสินใจทำการ์ดขายจริงจังในปี 2553 เป็นผลงานที่เขาออกแบบเองทั้งหมด ช่วงแรกเน้นสีหวานๆ ตามที่ตนเองชอบ โดยไม่ได้ศึกษาตลาดความต้องการลูกค้า แต่ต่อมาก็พบว่าการทำตลาดในไทยค่อนข้างยาก เพราะคนไทยจะส่งการ์ดในช่วงเทศกาลปีใหม่เท่านั้น ซึ่งแตกต่างกับต่างประเทศที่มอบการ์ดของขวัญแทบทุกเทศกาลแห่งการให้ และแสดงความรักความห่วงใย
' บ้านกระดาษสวย' ความงามเส้นเล็ก ทำได้ขายรวย
       ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกที่อภิชาติมอง จากการเป็นต้นตำรับงานกระดาษทำมือนานาชนิด และเขายังโชคดีที่มีโอกาสเข้าร่วมกับกลุ่ม Thai Craft ที่จะจัดแสดงงานเดือนละครั้งทั้งในและต่างประเทศ ทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงยังรู้จักและความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเทศมากขึ้นด้วย เช่น ประเทศญี่ปุ่นจะชอบการ์ดสีเอิร์ธ โทน หรือเรียบๆ ไม่ฉูดฉาด ส่วนทางยุโรปจะตรงกันข้าม เน้นสีเข้ม จัดจ้าน ส่วนสีหวานๆ ที่นำร่องมาตั้งแต่ต้นก็ต้องลดจำนวนการผลิตลง
' บ้านกระดาษสวย' ความงามเส้นเล็ก ทำได้ขายรวย
       นอกจากนี้เขายังทำเว็บไซต์เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการติดต่อกับ ลูกค้า ได้เห็นรูปแบบสินค้าได้ง่ายขึ้น และจัดส่งให้ทางไปรษณีย์ โดยราคาขายเริ่มต้นที่ 160 บาท ลูกค้ากว่า 90% เป็นชาวต่างชาติที่ชื่นชอบงานฝีมือและงานแฮนด์เมดของไทย
' บ้านกระดาษสวย' ความงามเส้นเล็ก ทำได้ขายรวย
       ล่าสุดมีการต่อยอดงานม้วนกระดาษ ของ 'บ้านกระดาษสวย' เป็นเครื่องประดับ อย่าง ต่างหู สีสันสดใส ที่เมื่อมองดูเผินๆ คล้ายกับงานพลาสติก แต่จริงๆ แล้วทำจากกระดาษทั้งสิ้น นำมาเคลือบอะคริลิคเพิ่มความแข็งแรง ขายในราคา 140-190 บาท/คู่ โดยก้านต่างหู เป็นเงินแท้ ลูกค้าส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นชาวต่างชาติเช่นเดิม เพราะทางร้านเน้นสีฉูดฉาดมากคนไทยไม่กล้าซื้อมาสวมใส่
' บ้านกระดาษสวย' ความงามเส้นเล็ก ทำได้ขายรวย
       ปัจจุบันเจ้าของธุรกิจบ้านกระดาษสวย เปิดสอนศิลปะการม้วนกระดาษด้วย เพียงคอร์สละ 3,000 บาท ใช้เวลาเรียน 1 วัน ที่จังหวัดชลบุรี แต่หากคนกรุงเทพฯ สนใจก็สามารถรวบรวมผู้เรียนประมาณ 3-5 คน ไม่เกิน 10 คน ก็เดินทางมาสอนได้ เพราะเขาต้องการสร้างคนให้มีอาชีพ หรือใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์จากงานอดิเรกนี้ โดยเชื่อว่าคนไทยมีทักษะด้านงานฝีมือมาตั้งแต่เกิด
' บ้านกระดาษสวย' ความงามเส้นเล็ก ทำได้ขายรวย
      
' บ้านกระดาษสวย' ความงามเส้นเล็ก ทำได้ขายรวย
      
' บ้านกระดาษสวย' ความงามเส้นเล็ก ทำได้ขายรวย
      
' บ้านกระดาษสวย' ความงามเส้นเล็ก ทำได้ขายรวย
       ***สนใจติดต่อ 08-0645-2772***

credit by : http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000051562

Read More...


ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0










































 
Blogger Tips and TricksLatest Tips And TricksBlogger Tricks
Do it your self,handmade,HandiCraft,งานฝีมือ,อาชีพเสริม,ช่องทางทำเงิน บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.