บทความที่ได้รับความนิยม


Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

แว่นตาไม้ สร้างมูลค่าด้วยดีไซน์



ไอเดีย “แว่นตาไม้” ของสองหนุ่ม “วิศวะ วชิรมณีพันธุ์-ชลภัทร์ ทองใบ” เป็นอีกชิ้นงานที่เกิดจาก “ความคิดสร้าง สรรค์” ที่ใช้เป็น “ช่องทางทำกิน” ได้ ทั้งนี้ กับ “งานเครื่องประดับ-ของใช้” ที่ทำจาก “วัสดุไม้” นั้น ถ้างานเด่น ฝีมือโดน ก็ยังใช้ทำเงินได้เรื่อย ๆ ซึ่งวันนี้ทีมคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอ…


สองเจ้าของชิ้นงาน ที่ใช้ชื่อร้านว่า “Little Wood Sunglasses (ลิตเติ้ล วู้ด ซันกลาส)” เล่าว่า ด้วยความที่ทำงานจากวัสดุไม้อยู่แล้ว โดยเคยทำมาแล้วหลากหลายชิ้นงาน อาทิ โคมไฟ ของเล่น นาฬิกา ฯลฯ ต่อมาพบว่า เทรนด์ “แว่นตาทำจากไม้” กำลังมาแรง และกำลังได้รับความนิยมจากกลุ่มวัยรุ่นมาก จึงสนใจและอยากลองทำแว่นตาจากวัสดุไม้ขึ้นมา โดยหลังจากทดลองทำอยู่ประมาณ 6 เดือน ก็ได้ชิ้นงานที่มีรูปแบบเป็นที่น่าพอใจในที่สุด ซึ่งเมื่อทำได้แล้ว จึงลองนำชิ้นงานโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ปรากฏกระแสตอบรับดี มีทั้งเพื่อนและคนทั่วไปต่างก็เข้ามาสอบถาม จึงทำขายเรื่อยมาจนวันนี้ก็ประมาณ 3 ปีแล้ว

“งานแว่นตาเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียด และมีกระบวนการทำที่ต้องใช้เวลาพอสมควร รวมถึงยังมีรายละเอียดอื่น ๆ ที่ต้องใช้ความอดทนในการทำค่อนข้างมาก” เจ้าของชิ้นงานกล่าว ซึ่งถึงแม้จะต้องอาศัยความตั้งใจ-ความอดทน แต่ถ้าทำได้ ก็สามารถทำขายได้ราคาดี เพราะงานแว่นตาไม้นี้กำลังเป็นที่นิยมมาก

ทั้งนี้ เจ้าของงานบอกว่า ขณะนี้ที่ร้านมีแว่นตาไม้ให้เลือกหลากหลายประเภท เช่น แว่นแฟชั่น แว่นกันแดด รวมถึงแว่นสายตา ที่สามารถปรับเปลี่ยนเลนส์ให้เหมาะกับผู้สวมใส่ได้ นอกจากนั้น ยังมีรูปทรงและลวดลายให้เลือกทั้งหมด 9 แบบ โดยเป็นแบบที่ทางร้านคิดขึ้นเอง โดยเน้นการดีไซน์ที่แปลกใหม่ เพื่อให้ถูกใจและตรงใจกลุ่มลูกค้ามากที่สุด

“นอกจากการคัดเลือกวัสดุที่นำมาทำและคุณภาพของแว่นตาแล้ว อีกจุดเด่นที่เป็นจุดขายคือ ลูกเล่นบวกดีไซน์ที่เราพยายามสร้างขึ้น จึงทำให้ชิ้นงานเป็นที่ถูกใจ และได้รับการยอมรับจากลูกค้ามาตลอด ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากความใส่ใจ ตั้งใจจะทำให้งานที่ทำออกมาดีที่สุด” เจ้าของงานกล่าว ซึ่ง “แนวคิด” นี้ ไม่เฉพาะกับงานทำแว่นตาไม้ กับงานฝีมือ งานแฮนด์เมดอื่นก็ใช้ได้

ทุนเบื้องต้น ใช้เงินลงทุนประมาณ 200,000 บาท ส่วนทุนวัสดุ ทุนวัสดุ อยู่ที่ประมาณ 40% จากราคา ซึ่งราคาขายเริ่มตั้งแต่ 990-6,000 บาทต่อชิ้น ขึ้นกับความยากง่ายของชิ้นงาน

วัสดุอุปกรณ์ ที่จำเป็น ประกอบด้วย ไม้สัก, เลื่อยฉลุ, เลื่อยสายพาน, เครื่องไสไม้, เครื่องเลเซอร์คัตหรือเครื่องซีเอ็นซี สำหรับตัดแพตเทิร์น, เลนส์แว่นตา, จิ๊กดัดไม้, กุญแจ, นอต, กาว, กระดาษทราย, หัวกรอ, เตาอบ, น้ำยาเคลือบเงา เป็นต้น

ขั้นตอนการทำ เริ่มจากออกแบบแว่นตาไม้ โดยใช้โปรแกรมออกแบบในคอมพิวเตอร์ การออกแบบนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1. แพตเทิร์นกรอบแว่นตา และ 2. แพตเทิร์นขาแว่นตา เมื่อออกแบบได้แล้ว นำไม้สักมาตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมขนาดเท่ากับรูปทรงของแว่นตา นำแผ่นไม้สักที่ตัดเสร็จเข้าเครื่องซีเอ็นซี เพื่อตัดขึ้นรูปให้เป็นแพตเทิร์นของกรอบแว่นตากับขาแว่นตา

ต่อมาให้ใช้เลื่อยและเครื่องไสไม้ทำการเก็บรายละเอียดที่ผิวไม้ เสร็จแล้วนำกรอบและขาแว่นตาเข้าเตาอบ ซึ่งการอบนั้น จะใช้เวลานานหรือไม่
ขึ้นอยู่กับความชื้นของไม้ หากไม้มีความชื้นมากก็จะใช้เวลาอบนานขึ้น หากไม้มีความชื้นน้อยจะใช้เวลาอบน้อยหน่อย เมื่ออบเสร็จแล้วใช้จิ๊กไม้ดัดกรอบและขาแว่นตาเพื่อให้เกิดรูปร่างโค้งงอ นำกรอบและขาแว่นตาเข้าเตาอบอีกครั้ง เพื่อให้ไม้ยืด จากนั้นรอให้ไม้เย็นลง ถอดกรอบและขาแว่นตาออกจากโมเดลทำกรอบ ก็จะได้กรอบและขาแว่นตาที่มีความโค้งสวยงาม

ขั้นตอนต่อมา ใช้หัวกรอเก็บรายละเอียดที่กรอบและขาแว่น เสร็จแล้วใช้กระดาษทรายขัดเพื่อให้ผิวเรียบเนียน แล้วจึงทำการประกอบกรอบและขาแว่นเข้าด้วยกัน ทากาวที่กรอบและขาแว่นตา เมื่อผ่านพ้นจากขั้นตอนนี้แล้ว ให้นำสปริงมายึดติดเข้าไประหว่างกรอบและขาแว่น ใช้สว่านเจาะเพื่อทำซองร่องเลนส์ เคลือบด้วยน้ำยาเพื่อทำให้แว่นตาเกิดความเงา ทำการประกอบเลนส์เข้าไป เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำแว่นตาจากวัสดุไม้

“การทำแว่นตาไม้ต้องคำนึงถึงรายละเอียดให้มาก การทำชิ้นงานต้องใจเย็น ๆ ควรทำด้วยความนุ่มนวล เพราะหากมือหนักมากเกินไป อาจทำให้แว่นตาไม้เกิดการแตกหักชำรุดเสียหายได้ ที่สำคัญ แค่ทำให้ชิ้นงานสวยไม่พอ แต่ยังต้องคิดถึงความสบายของผู้สวมใส่ด้วย เช่น ความบาลานซ์ของแว่นตา เพื่อให้ผู้สวมใส่ ใส่แล้วสบายตาที่สุด” ..เจ้าของชิ้นงานกล่าว พร้อมแนะนำ “หัวใจสำคัญ” ของงานประเภทนี้ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่ง “ช่องทางทำกิน” ที่ทำเงินได้จากกระแสแฟชั่น

สนใจงาน “แว่นตาไม้” โทร. 06-1756-7017 หรือชมสินค้าได้ที่ www. facebook.com/little.wood.sunglasses หรืออินสตาแกรม ชื่อ littlewood sunglasses และทางไลน์ชื่อ littlewoodsunglasses ทั้งนี้นี่ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียการสร้างสรรค์งานประดิษฐ์-งานฝีมือ ที่ใช้เป็น “ช่องทางทำกิน” ได้.

สุรางค์รัตน์ เจนการ : รายงาน

credit by :  http://www.dailynews.co.th/article/330856

Read More...


เสื้อปักเลื่อม แฟชั่นพั้งค์ร็อก..ทำเงิน!



“เทคนิคปักเลื่อม” เป็นอีกหนึ่งงานฝีมือที่ใช้เป็น “ช่องทางทำกิน” ได้ แม้แต่กับสินค้ากลุ่มแฟชั่น อาทิ เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย อย่างเช่นงาน “เสื้อปักเลื่อม” ที่ “สมชาย พงษ์สำราญ์” นำเทคนิคนี้มาใช้ตกแต่งชิ้นงาน จนกลายเป็นสินค้าขายดี ซึ่งวันนี้ทีมคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอ…

สมชาย เจ้าของชิ้นงาน ที่ใช้ชื่อร้านว่า “Fayrano (เฟย์ราโน่)” เล่าว่า สนใจทำเสื้อปักเลื่อม เพราะเป็นคนที่ติดตามค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเทรนด์แฟชั่น เพื่อศึกษาว่ากระแสแฟชั่นแนวไหนกำลังมาแรงหรือฮิตในกลุ่มวัยรุ่น เนื่องจากกระแสแฟชั่นในประเทศไทยส่วนใหญ่ จะได้รับอิทธิพลมาจากต่างประเทศ ซึ่งส่วนตัวแล้วชอบแฟชั่นแนวพั้งค์ร็อก จึงสนใจเทคนิคการปักเลื่อม จึงเกิดความคิดที่จะทำธุรกิจเสื้อปักเลื่อม โดยใช้เวลาหัดทำอยู่ประมาณเดือนกว่า ๆ จึงได้ชิ้นงานเป็นที่พอใจ และได้ยึดอาชีพการทำ “เสื้อปักเลื่อม” นี้เรื่อยมา นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ทำมาได้ประมาณ 7-8 ปีแล้ว

เจ้าของชิ้นงานกล่าวว่า ในช่วงที่เริ่มต้นใหม่ ๆ ก่อนจะหันมาทำเสื้อปักเลื่อม ได้เริ่มจากการทำกางเกงยีนปักเลื่อมมาก่อน จากนั้นจึงได้พัฒนาให้ชิ้นงานมีความหลากหลายมากขึ้น จนแตกไลน์ออกมาเป็นงานกระเป๋า รองเท้า และเสื้อปักเลื่อมในที่สุด โดยเน้นการทำตามออร์เดอร์ของลูกค้า อย่างไรก็ดี ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบในการทำชิ้นงานนี้ อยู่ที่การเลือกวัสดุที่จะใช้ทำ โดยก่อนหน้านี้เคยใช้วัสดุอย่างเพชรในการทำ แต่เนื่องจากเพชรมีต้นทุนสูง จึงเปลี่ยนใช้วัสดุอย่างเช่นเลื่อมแทน ซึ่งเลื่อมที่ใช้ทำจะนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น เพราะมีคุณภาพ มีความคงทน และเข้ากับชิ้นงานที่ทำมากที่สุด

“ที่ร้านมีเสื้อปักเลื่อมให้เลือกทุกขนาด ทุกแบบ อาทิ เสื้อยืด เสื้อยีน เสื้อกล้ามแขนสั้น เสื้อแขนยาว เสื้อแขนกุด ส่วนลายที่ทำก็มีตั้งแต่ ลายการ์ตูน ลายตัวอักษร ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น รวมถึงคนที่ชื่นชอบการแต่งตัวแฟชั่นแนวพั้งค์ร็อก หรือต้องชอบแต่งตัวเปรี้ยว ๆ จี๊ด ๆ” ...เจ้าของชิ้นงาน ระบุ ซึ่งการสร้างสรรค์ชิ้นงานที่เป็นแนวเฉพาะเจาะจงแบบนี้ นับเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ใช้ได้ผลดี ในการเจาะตลาด-ในการโฟกัสสินค้าให้ตรงกับกลุ่มลูกค้า

ทุนเบื้องต้น ใช้เงินลงทุนประมาณ 1,500 บาท ทุน วัสดุ อยู่ที่ประมาณ 60% จากราคา ซึ่งราคาขายเริ่มตั้งแต่ 800-4,000 บาทต่อชิ้น ขึ้นกับความยากง่ายของชิ้นงาน

วัสดุอุปกรณ์ ที่จำเป็น ประกอบด้วย กระดาษ, ดินสอ, ยางลบ, เสื้อรูปทรงตามต้องการ, เลื่อม, เข็ม, ด้าย, กรรไกร

ขั้นตอนการทำ เริ่มจากการหาข้อมูลในอินเทอร์ เน็ตเกี่ยวกับกระแสแฟชั่นว่า รูปแบบใดกำลังเป็นที่นิยมในตลาดวัยรุ่น เมื่อได้รูปแบบที่ต้องการแล้ว จึงทำการร่างภาพเสื้อปักเลื่อมลงในกระดาษ เพื่อออกแบบลวดลาย โดยจะยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก เนื่องจากบางคนชอบเสื้อปักเลื่อมเต็มตัว บางคนชอบแบบมีเลื่อมมีลายครึ่งตัว

จากนั้นทำการขึ้นแบบเสื้อปักเลื่อมด้วยการปัก โดยอาจเริ่มจะปักเลื่อมในส่วนที่เป็นแขนเสื้อก่อน ด้วยการนำเลื่อม 1 เม็ด ปักตามลายเสื้อจากด้านบนก่อน แล้วนำเลื่อมเม็ดที่สอง สาม และเม็ดต่อ ๆ ไปปักเพิ่มตามลงไปทีละ 1 เม็ดจากเลื่อมเม็ดแรก ทั้งนี้ ควรปักเรียงเป็นแนวตรงยาว และควรปักจากด้านบนลงด้านล่าง โดยให้ทำอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ จนได้ตามแบบหรือลายที่ต้องการ เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำเสื้อปักเลื่อม

ทั้งนี้ เจ้าของชิ้นงานเสื้อปักเลื่อมอย่าง สมชาย กล่าวว่า การเว้นช่องไฟในการปักเลื่อมนั้น ถือเป็นขั้นตอนสำคัญของการทำชิ้นงานชนิดนี้ โดยผู้ปักต้องใช้สายตากะระยะห่างเพื่อเว้นช่องไฟเอง ซึ่งในส่วนนี้จำเป็นที่จะต้องอาศัยความชำนาญพอสมควร และต้องมีสายตาที่ดี แม่นยำ เพื่อที่จะทำให้ชิ้นงานออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด ขณะที่การเลือกเลื่อมนั้นต้องดูว่าควรจะใช้เลื่อมสีไหน ขนาดเท่าไหร่ ถึงจะเหมาะกับชิ้นงานที่จะทำ หรือบางครั้งอาจลองศึกษาจากหนังสือแฟชั่น หรือจากอินเทอร์เน็ตก่อนก็ได้

“การทำเสื้อปักเลื่อมต้องใจเย็น ๆ เพราะเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียดลออค่อนข้างมาก เพราะกว่าจะได้เสื้อปักเลื่อมสัก 1 ตัว ก็อาจต้องใช้เวลาในการทำในการปักไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ ขึ้นกับความชำนาญของผู้ทำ อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นชิ้นงานที่ต้องใช้ความอดทน และใช้เวลาในการผลิตมาก แต่เมื่อได้ชิ้นงานเสร็จสมบูรณ์ออกมาแล้วก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะชิ้นงานอย่างเสื้อปักเลื่อมนี้ ในตลาดมีคนทำขายน้อย มีคู่แข่งไม่มาก และสามารถขายได้ราคาดี” ...เจ้าของชิ้นงานกล่าว พร้อมทั้งแนะนำข้อดีของชิ้นงานนี้ที่มีคู่แข่งขันในตลาดน้อย ซึ่งงานเสื้อปักเลื่อมนับว่าน่าสนใจ สำหรับคนที่กำลังมองหา “ช่องทางทำกิน” ซึ่งจะลองทำเป็นอาชีพเสริม ก็น่าสนใจ


สนใจงาน “เสื้อปักเลื่อม” โทร. 09-8464-0365, 08-6338-8260 หรือชมสินค้าได้ที่ ร้าน Fayrano ตลาดหลังการบินไทย วิภาวดี 22 ชูพลาซ่า ซอย 2 ห้อง E17 เปิดทุกวันจันทร์-เสาร์ เวลา 10.00-17.00 น. หรืออิน สตาแกรม ชื่อ shopfayrano หรือทางไลน์ชื่อ fayrano และ kate_noz และนี่ก็เป็นอีกหนึ่ง “ช่องทางทำกิน” ที่ทำเงินได้จากกระแสแฟชั่น.


สุรางค์รัตน์ เจนการ : รายงาน

credit by : http://www.dailynews.co.th/article/327785

Read More...


‘ผ้าพิมพ์ลาย’ ลายเก๋+แบบเด่น..โดนใจ!


“งานพิมพ์ผ้า” ยังเป็นไอเดียทำเงินได้ เพราะนอกจากจะขายเฉพาะ “ผ้าพิมพ์ลาย” แล้ว ยังสามารถนำมาดัดแปลงเป็นสินค้าประเภทต่าง ๆ เพื่อขายได้อีกด้วย เช่น เสื้อผ้า ผ้าพันคอ กระเป๋าพิมพ์ลาย เป็นต้น ซึ่งถ้าหากลวดลายที่ออกแบบนั้น โดดเด่น หรือมีดีไซน์เก๋ ๆ ที่โดนใจกับกลุ่มเป้าหมายก็ไม่ยากที่จะยึดเป็น “ช่องทางทำกิน” ที่ทำเงิน ที่วันนี้ คอลัมน์นี้ก็มีข้อมูลมานำเสนอให้พิจารณากัน

อรุณโรจน์ บุญฉลอง-อารีนา ปิ่นมุข สองสาวเจ้าของชิ้นงานผ้าพิมพ์ลาย ที่ใช้ชื่อสินค้าว่า MAMAD เล่าว่า ก่อนหน้าจะมาผลิตชิ้นงานนี้ ได้เคยทำงานด้านการออกแบบมาก่อน ต่อมามีความคิดที่อยากจะทำธุรกิจของตนเองขึ้นมา จึงมองไปที่ความถนัดที่ทั้งคู่มีอยู่ โดยมองไปที่ “งานออกแบบลวดลาย” ซึ่งหลังจากลองผิดลองถูกอยู่ระยะหนึ่งก็มาลงตัวจนเกิดเป็นชิ้นงานผ้าพิมพ์ ลายอย่างที่เห็นนี้ และต่อยอดจนเกิดเป็นสินค้าหลายชนิดในปัจจุบัน ซึ่งชิ้นงานที่เราทำขึ้น อาจจะมีขั้นตอนมากกว่าการทำทั่วไป แต่ข้อดีคือ สินค้าที่ได้จะแปลกแตกต่างออกไปจากที่มีอยู่ในตลาด โดยหลังนำชิ้นงานออกขายปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดี โดยปัจจุบันชิ้นงานที่ผลิตขึ้นมี อาทิ เสื้อ, กระโปรง, ผ้าพันคอ, ผ้าคลุมไหล่, กระเป๋า ฯลฯ

“จุดเด่นของชิ้นงาน อยู่ที่ลวดลายและสีที่ใช้ จะแปลกและมีเอกลักษณ์เฉพาะ เพราะลายทุกแบบที่คิดขึ้นจะพยายามใส่รายละเอียดให้แตกต่างจากตลาด เพื่อให้ลูกค้าจดจำชิ้นงานได้ ที่สำคัญจะเลือกใช้ผ้าที่เกรดสูงหน่อย และเน้นในเรื่องของคุณภาพการตัดเย็บ” ...เจ้าของชิ้นงานกล่าว พร้อมย้ำว่า ในเรื่องของ “การบริการ” ก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยเน้นรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้า จากนั้นจึงนำเอามาปรับใช้ในการผลิตชิ้นงาน เพื่อให้ตรงความต้องการลูกค้ามากที่สุด

ทุนเบื้องต้น ใช้เงินลงทุนประมาณ 50,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่าพิมพ์ลายผ้า และค่าตัดเย็บ ทุนวัสดุ อยู่ที่ 50% จากราคา ซึ่งราคาขายอยู่ที่ 200-1,000 บาท

วัสดุอุปกรณ์ ประกอบด้วย ผ้า (ผ้าซิลค์นาโน ผ้าไหมอิตาลี หรือผ้าชนิดอื่น ๆ), คอมพิวเตอร์, เครื่องพรินเตอร์, จักรเย็บผ้า และอุปกรณ์ที่ใช้ในการวาดภาพ เช่น ดินสอ กระดาษ ปากกาเมจิก เป็นต้น
ขั้นตอนการทำ การนำผ้าพิมพ์ลายตัดเป็นเสื้อผ้า มีขั้นตอนดังนี้ เริ่มจากการทำแพทเทิร์นเสื้อโดยวาดชิ้นส่วนของเสื้อที่จะใช้ลงบนกระดาษ ทำการตัดเพื่อให้ได้แพทเทิร์นของเสื้อ จากนั้นนำแพทเทิร์นที่ได้ไปทาบลงบนผ้าที่ได้เตรียมหรือเลือกไว้ ทำการตัดตามแบบ ทำการเย็บเพื่อทำเป็นเสื้อต้นแบบขึ้นมา
ขั้นตอนการออกแบบลายที่จะนำไปพิมพ์ลงบนเสื้อนั้น เริ่มจากออกแบบลวดลายที่ต้องการ โดยใช้ดินสอหรือปากกาวาดลายที่ต้องการลงบนแผ่นกระดาษ เมื่อได้ลวดลายที่ต้องการแล้ว นำไปจัดทำแบบและวางตำแหน่งของลวดลาย หรือองค์ประกอบบนเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปด้านการออกแบบช่วย จากนั้นเมื่อออกแบบตกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการเซฟไฟล์ที่ได้ออกแบบไว้นั้นลงอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล นำส่งโรงพิมพ์พร้อมชิ้นผ้าที่ได้เลือกไว้ เพื่อทำการพิมพ์ลวดลาย เมื่อได้ผ้าที่พิมพ์ลายแล้ว จึงนำผ้าที่ได้เพื่อนำไปตัดเย็บเพื่อขึ้นตัวเสื้อตามที่ได้ออกแบบไว้

การทำผ้าพันคอและกระเป๋า มีขั้นตอนการผลิตคล้าย ๆ กันคือ เริ่มจากออก แบบลาย และนำไปวาดลงบนกระดาษ จากนั้นตกแต่งและจัดวางองค์ประกอบด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์บนเครื่องคอมพิว เตอร์ จากนั้นส่งไปพิมพ์เพื่อพิมพ์ลาย และนำผ้าที่ได้เพื่อมาทำการตัดเย็บเป็นผ้าพันคอและกระเป๋า
“งานผ้าพิมพ์ลายนี้ ส่วนใหญ่ที่ร้านจะเน้นที่การออกแบบเป็นหลัก โดยจะตัดขั้นตอนการขึ้นรูปชิ้นงานด้วยการส่งไปผลิตอีกทีหนึ่ง ทั้งนี้ คนที่สนใจที่จะทำงานฝีมือทางด้านนี้ ควรมีทักษะทางศิลปะ เช่น การออกแบบ ความรู้เกี่ยวกับสีและองค์ประกอบของภาพ แต่ทั้งหมดนี้ก็สามารถที่จะฝึกฝนทดลองทำก่อนได้ ทั้งนี้ จุดสำคัญที่สุดก็คือ ไม่ควรก๊อบปี้งาน แต่ควรจะสร้างสรรค์ชิ้นงานและลวดลายจากความคิดของตัวเองจะดีที่สุด เพราะจะทำให้สินค้าที่ทำขึ้นมีเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่เหมือนกับใคร”...นี่เป็น คำแนะนำสำหรับคนที่คิดจะยึดงานฝีมือประเภทนี้ ใช้เป็น “ช่องทางทำกิน”

งาน “ผ้าพิมพ์ลาย” โทร. 08-0952-9914 ทั้งนี้ เจ้าของชิ้นงานไม่มีหน้าร้าน แต่อาศัยการออกร้านตามตลาดนัดงานฝีมือ หากสนใจสามารถเข้าไปชมได้ที่ www.mamadshop.com หรือ www.facebook. com/mamashop88 และนี่ก็เป็นอีกหนึ่ง “ช่องทางทำกิน” ที่เกี่ยวกับงานผ้า ซึ่งยังทำเงินได้...ถ้าหากว่า
มีจุดเด่น-มีไอเดียโดน ๆ.
ทุนเบื้องต้น ประมาณ 50,000 บาท
ทุนวัสดุ ประมาณ 50% จากราคา
รายได้ ราคา 200-1,000 บาท
แรงงาน 1 คนขึ้นไป
ตลาด ไม่ต้องมีหน้าร้าน ขายออนไลน์
จุดน่าสนใจ สร้างจุดเด่นด้วยลายผ้า
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน

credit by :  http://www.dailynews.co.th/Content/Article/248219/‘ผ้าพิมพ์ลาย’+ลายเก๋%2Bแบบเด่น..โดนใจ!

Read More...


ตุ๊กตาพวงกุญแจ รายได้เสริม

รัตนาภรณ์ วรรณวัลย์ เป็นเจ้าของผลงาน ตุ๊กตาครอบพวงกุญแจ ที่ใช้ฝีมือการปะติดผ้ามาออกแบบทำเป็นที่ครอบพวงกุญแจ โดยเจ้าตัวเล่าว่า ปกติจะทำงานประจำอยู่ที่บริษัทเอกชน สำหรับงานฝีมือชิ้นนี้ทำออกมาจำหน่ายเพื่อเป็นรายได้เสริม โดยจะใช้เวลาวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ผลิตงานออกมาจำหน่าย


ออย-รัตนาภรณ์ วรรณวัลย์ เป็นเจ้าของผลงาน ตุ๊กตาครอบพวงกุญแจ ที่ใช้ฝีมือการปะติดผ้ามาออกแบบทำเป็นที่ครอบพวงกุญแจ โดยเจ้าตัวเล่าว่า ปกติจะทำงานประจำอยู่ที่บริษัทเอกชน สำหรับงานฝีมือชิ้นนี้ทำออกมาจำหน่ายเพื่อเป็นรายได้เสริม โดยจะใช้เวลาวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ผลิตงานออกมาจำหน่าย


งานตุ๊กตาครอบพวงกุญแจที่ทำเริ่มมาจากการที่ตนเองนั้นเป็นคนที่ชอบทำงาน ฝีมือ งานประดิษฐ์ต่าง ๆ พอได้เจอพี่ที่ทำงานเดียวกันทำงานควิลท์หรืองานปะติดผ้า ก็เลยเกิดความสนใจอยากทดลองทำ จึงได้ไปศึกษาวิธีทำในอินเทอร์เน็ต แล้วก็นำมาทดลองทำอยู่ประมาณ 2-3 เดือน จนชำนาญมากขึ้น จากนั้นก็เริ่มคิดออกแบบทำเป็นชิ้นงานของตัวเอง โดยทำเป็นที่ครอบพวงกุญแจ รูปตุ๊กตาแมว และ บ้านเห็ด

เน้นสีสันที่สดใส เน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น
แรกเริ่มทำเป็นของขวัญแจกให้เพื่อน ๆ จากนั้นก็เริ่มทดลองทำขาย ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จึงยึดเป็นอาชีพเสริมมาตลอด โดยทำขายเป็นอาชีพเสริมแบบไม่มีหน้าร้าน จะประกาศขายผ่านทางอินเทอร์เน็ต


งานฝีมือตัวนี้ถือว่าเป็นงานที่ทำไม่ยาก สามารถศึกษาและฝึกทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งในช่วงทดลองทำนั้นเราควรใช้เศษผ้า ใช้วัสดุที่มีราคาไม่แพง ลองทำให้ชำนาญก่อน รัตนา ภรณ์ แนะนำ

สำหรับวัสดุที่จำเป็นต้องใช้ในการทำนั้น มีดังนี้

ผ้าคอตตอนไทยหรือผ้าญี่ปุ่น, ผ้าซับใน (ใช้เป็นสีพื้น หรือเป็นลายก็ได้ แต่ต้องสีอ่อน ๆ), ใยสังเคราะห์แบบแผ่นบาง, ผ้าดิบ, ห่วงกุญแจ, เชือกหนัง, ไหมปัก และของตกแต่งจำพวกโบ ดอกไม้ ลูกปัด เป็นต้น
ผ้าคอตตอนไทยนั้นจะมีสีสันที่สดใส และมีราคาถูกกว่าผ้าญี่ปุ่น แต่ผ้าญี่ปุ่นจะมีเนื้อผ้านุ่มกว่าผ้าคอตตอนไทย การซื้อผ้ามาทำนั้นควรซื้อ ให้ได้หลากหลายลาย อย่างน้อยควรจะมีประมาณ 5 ลาย

ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ทำ

ก็จะเป็นอุปกรณ์ตัดเย็บทั่ว ๆ ไป พวกเข็ม, ด้าย, กรรไกร และอุปกรณ์สำหรับทำแพตเทิร์น ได้แก่ กระดาษแข็ง หรือแผ่นพลาสติก, ดินสอ เป็นต้น

ขั้นตอนการทำ

เริ่มจากการทำแพต เทิร์นก่อน ถ้าทำรูปแมวก็วาดแบบรูปหน้าแมวลงบนกระดาษแข็ง จากนั้นก็ตัดแบบออกมา ก็จะได้แพตเทิร์น นำผ้าซับใน ผ้าคอตตอนลายที่ต้องการ และใยสังเคราะห์ มาทำการวางซ้อนทับกัน โดยวางใยสังเคราะห์ ไว้ด้านล่างสุด ผ้าคอตตอนไว้ตรงกลาง ผ้าซับในไว้ด้านบนสุด
นำแพตเทิร์นไปวางทาบลงบนผ้าซับใน ใช้ดินสอวาดตามแบบ ใช้กรรไกรตัดผ้าตามแบบ ให้ตัดห่างจากรอยดินสอประมาณ 0.7 ซม. เมื่อตัดผ้าเรียบร้อยให้ใช้เข็มหมุดกลัดไว้ตรงกลางผ้าที่ตัดออกมา เพื่อไม่ให้ผ้าที่ซ้อนกันเลื่อน จากนั้นใช้เข็มและด้ายเย็บตามรอยดินสอ จะใช้วิธีเย็บแบบด้นถอยหลังหรือเย็บแบบเนาถี่ ๆ ก็ได้

ทำการเย็บไปโดยรอบ เว้นช่องไว้กลับผ้าประมาณ 4 ซม. เมื่อเย็บเสร็จก็ทำการกลับด้านออกมา แล้วทำการสอยปิดช่องที่กลับผ้าให้เรียบร้อย ทำแบบเดิมอีก 1 ชิ้น ก็จะได้เป็น 2 ชิ้น
ขั้นต่อไปนำผ้าดิบสีครีมมาตัดสำหรับทำปากแมว เวลาตัดให้เว้นขอบไว้พับประมาณ 0.5 ซม. นำไปติดบนหน้าแมวที่ทำไว้ ทำการเย็บแบบสอยซ้อนด้ายยึดให้แน่น ใช้ไหมปักเป็นหนวด จมูก ติดลูกปัดเป็นตา ตกแต่งด้วยโบตามต้องการ ก็จะได้หน้าแมวเป็นชิ้นหน้า

จากนั้นก็นำแบบที่ทำขึ้นมาอีก 1 ชิ้น มาประกบกับชิ้นหน้า แล้วทำการสอยซ้อนด้ายให้รอบ โดยเว้นด้านล่างไว้สำหรับเก็บพวงกุญแจ และเว้นด้านบนไว้สำหรับใส่เชือกที่ผูกกับห่วงกุญแจ เมื่อเย็บเรียบร้อยแล้วก็นำเชือกหนังที่ผูกติดกับห่วงกุญแจทำการร้อยเข้าไป ในช่องที่เว้นไว้ด้านบน โดยให้ห่วงกุญแจอยู่ด้านใน จากนั้นก็ทำตุ้มกลมติดที่ปลายเชือก กันไม่ให้เชือกหลุด

การทำตุ้มติดปลายเชือก ตัดผ้าเป็นวงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 ซม. พับริมเข้า 0.5 ซม. เย็บเนาถี่จนรอบ รูดปากพอประมาณ ใส่ใยสังเคราะห์แบบฟู นำไปเย็บติดที่ปลายเชือก ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอน
ตุ๊กตาครอบพวงกุญแจของรัตนาภรณ์นั้นมีอยู่ 3 แบบคือ รูปบ้านเห็ด รูปแมว และรูปหน้าแมว โดยราคาขายอยู่ที่ชิ้นละ 79 บาท มีต้นทุนวัสดุต่อชิ้นประมาณ 50% ของราคาขาย

ใครสนใจ ตุ๊กตาครอบพวงกุญแจ ของออย-รัตนาภรณ์ วรรณวัลย์ ต้องการติดต่อกับเจ้าของผลงาน ต้องการสั่งไปจำหน่ายต่อ โทรศัพท์ไปสอบถามได้ที่เบอร์ 08-7685-8371.
ที่มา : เดลินิวส์

Read More...


นาฬิกาแฟชั่นแฮนด์เมด ไอเดียศิลป์

นาฬิกาข้อมือแฟชั่นสีสันลวดลายต่าง ๆ ที่มีขายกันอยู่ทั่วไป เมื่อนำมาตกแต่งใส่ไอเดีย ใช้งานฝีมือและงานศิลปะเพิ่มลูกเล่นเข้าไป ก็เป็นการเพิ่มมูลค่าสร้างราคาให้กับสินค้าได้เป็นอย่างดี

นาฬิกาข้อมือแฟชั่นสีสันลวดลายต่าง ๆ ที่มีขายกันอยู่ทั่วไป เมื่อนำมาตกแต่งใส่ไอเดีย ใช้งานฝีมือและงานศิลปะเพิ่มลูกเล่นเข้าไป ก็เป็นการเพิ่มมูลค่าสร้างราคาให้กับสินค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งวันนี้ทีม ช่องทางทำกิน มีข้อมูลการนำสายหนังชามัวร์สีสันต่าง ๆ มาถักเป็นสายนาฬิกาข้อมือ นำศิลปะการเพนท์ลวดลายใส่ลงไปบนหน้าปัดนาฬิกา เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และฉีกแนวสินค้าให้แตกต่าง มานำเสนอให้พิจารณากัน

เอิน-พัสตราภรณ์ สุขันธ์ เป็นเจ้าของผลงานนาฬิกาแฟชั่นแฮนด์เมด ทำ นาฬิกาไอเดียศิลป์ จำหน่ายมา 3 ปี เจ้าตัวเล่าว่า งานตัวนี้เริ่มทำมาตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา โดยแบ่งออกเป็นงานที่ใช้สายชามัวร์ถักเป็นสายข้อมือ และงานเพนท์หน้าปัดนาฬิกาเป็นลวดลายต่าง ๆ ซึ่งสำหรับงานถักสายนั้นมาจากพี่สาวเป็นคนริเริ่มในตอนแรก พอมีเวลาว่างจากการเรียนก็ลองฝึกทำกับพี่สาว แล้วลองนำไปขายที่ตลาดอินดี้ทาวน์

จากการที่ไปวางขายก็ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี จึงได้ทำขายอย่างเป็นจริงเป็นจัง และเริ่มปรับปรุงพัฒนาสินค้าให้สวยงามดูดีขึ้นไปอีก โดยจะออกแบบสายนาฬิกาถัก เลือกสีให้เข้ากันกับตัวเรือน และนำตุ๊กตาน่ารัก ๆ มาห้อยแทนลูกปัดที่ใช้ห้อยในตอนแรก เพื่อเป็นการทำให้นาฬิกาดูดีมีราคามากขึ้น

ต่อมาเริ่มมีคนทำเลียนแบบออกมาเยอะมาก ทำให้มีคู่แข่งทางการค้าเพิ่มขึ้น จึงต้องพัฒนาและฉีกรูปแบบใหม่ พอดีพอจะมีความรู้ทางศิลปะอยู่บ้าง จึงเกิดไอเดียที่จะเพนท์ลวดลายลงบนหน้าปัดนาฬิกา เป็นสินค้าใหม่ขึ้นมา เพื่อสร้างความแตกต่างจากคนอื่น จึงได้ทดลองทำ โดยสั่งนาฬิกาที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมมาใช้ เพราะมีพื้นที่ว่างให้สามารถออกแบบงานเพนท์เพิ่มเติมเข้าไปได้ ซึ่งก็ทดลองทำอยู่หลายวัน นาฬิกาเสียไปหลายเรือน

ต้องไปขอเรียนรู้วิธีการถอดนาฬิกาเอาหน้าปัดออกจากตัวเรือน โดยไปขอเรียนจากร้านนาฬิกา การเพนท์ก็ต้องระวังไม่ให้ไปโดนเครื่อง เพราะจะทำให้เครื่องนาฬิกาเสีย ทำเสร็จแล้วก็ใช้งานไม่ได้
นาฬิกาเพนท์หน้าปัดนั้น มีทั้งแบบเพนท์ลวดลายแล้วใช้สติกเกอร์รูปการ์ตูนต่าง ๆ ติดเพิ่มเข้าไป หรือใส่ชื่อตามลูกค้าสั่ง หรือจะเป็นการเพนท์เป็นรูปต่าง ๆ ลงบนหน้าปัดล้วน ๆ ก็มี ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไป และอาจจะเพิ่มเติมด้วยการถักสายใส่แทนสายนาฬิกาที่ติดมาอยู่เดิมก็ได้

วัสดุอุปกรณ์ในการถักสายนาฬิกา และเพนท์หน้าปัดนาฬิกา หลัก ๆ ก็มี สายหนังชามัวร์หลากสี ขนาด 3 มิลลิเมตร, ตัวหนีบ (สำหรับหนีบปลายสาย หนังไว้ติดโซ่คล้องข้อมือ), โซ่ที่เป็นตะขอไว้คล้องข้อมือ, คีม, สีอะคริลิก, พู่กัน, สติกเกอร์รูปการ์ตูนต่าง ๆ แบบนูน

ตัวเรือนนาฬิกาเลือกซื้อได้ที่ตลาดสำเพ็ง โดยการเลือกนั้นต้องดูรูปแบบที่สวย สีสดใส ส่วนงานที่เป็นแบบเพนท์หน้าปัดนั้น เราจะสั่งทำนาฬิกาโดยเฉพาะ เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า เพื่อให้มีพื้นที่ในการเพนท์รูปลงไปได้ ส่วนอุปกรณ์อื่น ๆ ก็สามารถซื้อได้จากแหล่งเดียวกัน

ขั้นตอนการทำนาฬิกาถักสาย

เริ่มจากนำนาฬิกาที่ต้องการจะทำมาถอดสายเดิมออก เลือกสายหนังชามัวร์ โดยเลือกสีของสายหนังชามัวร์ให้อยู่ในโทนเข้ากันกับสีของตัวเรือน ไล่สีจากเข้มไปอ่อน จะใช้จำนวนกี่เส้นก็อยู่ที่ขนาดหน้ากว้างของพื้นที่ใส่สายนาฬิกา ตัดให้สายหนังชามัวร์ได้ความยาวมาตรฐาน โดยวัดจากข้อมือ

จากนั้นก็นำไปเรียงใส่ใต้ตัวเรือน ใช้หมุดจากสายเก่าล็อกสายหนังไว้ แล้วก็ทำการถักสายหนังลักษณะคล้ายการถักเปียให้สายไขว้ไปมาสลับสีดูสวยงาม (สำหรับคนที่หัดใหม่ควรทดลองจากการใช้สายหนังแค่ 4 เส้นก่อน เพราะจะถักไม่ยากนัก) ถักจนสุดปลายสาย ใช้กรรไกรตัดปลายให้เท่ากัน นำตัวหนีบมาหนีบปลาย ใช้คีมบีบตัวหนีบให้ติดแน่น ทำเหมือนกันอีกข้าง จากนั้นติดโซ่คล้องติดข้อมือ ติดตัวการ์ตูนห้อยเข้าไป ก็เป็นอันเสร็จ

ขั้นตอนการเพนท์หน้าปัดนาฬิกา

นำนาฬิกามาทำการถอดแยกเอาหน้าปัดออกมา จากนั้นก็ใช้สีขาวทำการทารองพื้นหน้าปัดก่อน พอสีรองพื้นแห้งก็ลงมือวาดลวดลายตามที่ต้องการ โดยต้องใช้สีที่อยู่ในโทนเดียวกับสายนาฬิกาด้วย เมื่อเพนท์เสร็จแล้ว พักไว้ให้สีแห้ง จากนั้นก็ใช้สติกเกอร์รูปการ์ตูนติดเข้าไปตามต้องการ แล้วก็ใช้ปากกาสีดำทำการตัดเส้นขอบอีกครั้ง ทำการประกอบหน้าปัดเข้ากับตัวเรือนนาฬิกา เท่านี้ก็เรียบร้อย

งานนาฬิกาถักสาย และนาฬิกาเพนท์หน้าปัดที่เอินทำอยู่ สามารถตั้งราคาขายได้ตั้งแต่ 250-450 บาท โดยราคานาฬิกาถักสายนั้นขึ้นอยู่กับความสั้นยาวของสายที่ถัก ส่วนราคานาฬิกาเพนท์หน้าปัดก็จะขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการเพนท์ นอกจากนั้น ร้านของเอินยังมีงานรูปแบบอื่น ๆ ให้ลูกค้าได้เลือกอีกหลากหลาย

ช่วงนี้เอินเปิดหน้าร้านอยู่แถว ๆ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน จตุจักร สำหรับผู้ที่สนใจชิ้นงานลักษณะนี้ ก็แวะไปชมกันได้ หรือถ้าต้องการจะสั่งทำ ก็ลองโทรศัพท์ไปคุยได้ที่ โทร. 08-0465-4225 ทั้งนี้ งานนาฬิกาไอเดียศิลป์ การต่อยอดนาฬิกาแฟชั่นให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น นี่ก็เป็นอีก ช่องทางทำกิน ที่มองข้ามไม่ได้
ที่มา : เดลินิวส์

Read More...


วิธีทำโคมไฟนกกระดาษ



โคมไฟถือเป็นเครื่องประดับตกแต่งบ้านและอาคารอย่างหนึ่ง บ้างราคาถูก บ้างราคาแพง วันนี้เรามาลองทำโคมไฟทรงกลมธรรมดาๆ ให้ดูเก๋มีสไตล์โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายกันดูนะคะ เพียงแค่คุณๆพับนกกระดาษ ขนาดเล็กใหญ่คละเคล้ากันไป และหลากหลายสี นำมาติดให้ทั่วโคมไฟ เพียงเท่านี้ เมื่อคุณเปิดโคมไฟครั้งต่อไป โคมไฟทรงกลมธรรมดาของคุณก็จะดูไม่ธรรมดาอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ ;))
สิ่งที่ต้องเตรียม

1.โคมไฟ (ทรงกลม) พร้อมอุปกรณ์
2.กระดาษสี A4 หลาย ๆ สี ตามชอบ
3.ไม้บรรทัด
4.ดินสอ
5.มีดคัตเตอร์
6.กาวอเนกประสงค์
 
วิธีทำ

1. เตรียมกระดาษสี ขนาด A4

2. เตรียมกระดาษสีสี่เหลี่ยมจัตุรัส พับ ทแยงมุมตามรอยประ แล้วคลี่ออก ทั้งสองด้าน

3. พับแบ่งครึ่งในแนวตั้งฉากขอบกระดาษตามรอยประ แล้วคลี่ออกทั้งสองด้าน

4. พับปลายทั้งสองข้างเข้าหาตัว มาจรดปลายกระดาษมุมล่าง

5. แล้วพับมุมกระดาษบนมาทับมุมกระดาษล่างพอดีจะได้รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด 1 ใน 4 ของขนาดกระดาษ ดังภาพที่ 4

6. วางกระดาษตามรอยรูป พับตามรอยประแล้วคลี่ออก พลิกกลับด้านหลัง แล้วพับตามรอยเช่นกัน

7. วางกระดาษตามรูป ดึงปลายกระดาษขึ้นด้านบน ตามรอยที่พับไว้ในข้อ 6

8. พับกระดาษด้านข้างทั้งสองด้านเข้ามาแนวกลางจะได้ดังภาพ

9. ถ้าพับตามขั้นตอนถูกต้องจะได้ดังภาพนี้ค่ะ

10. กลับอีกด้านหนึ่งของกระดาษ แล้วพับเช่นเดียวกัน

11. เมื่อพับได้ดังภาพแล้ว พับตามรอยประให้ขอบกระดาษมาทับแนวกลาง

12. พับตามรอยประให้ขอบกระดาษมาทับแนวกลาง แล้วไม่ต้องคลี่กระดาษกลับ

13. ทำเช่นนี้ทั้งสองด้านดังภาพค่ะ

14.ทับกระดาษแนวกลางเข้าหากัน

15. ทำอีกด้านทับกระดาษแนวกลางเข้าหากันเช่นกัน

16. พับปลายล่างขึ้นด้านบน

17. พับปลายล่างอีกด้าน ขึ้นด้านบนเช่นกัน

18. พับด้านข้างเข้าหากัน

19. อีกด้านพับด้านข้างเข้าหากันเช่นกัน

20. ส่วนหัวและหางของตัวนก พับปลายหัวด้านหนึ่งเพื่อเป็นปากนก จับที่ฐานคอและหางของตัวนก แล้วดึงลงเข้าหากันตัวนกจะพองเป็นรูปร่าง

21. จัดตำแหน่งปีกทั้งสองข้างให้พับลงเล็กน้อยพอสวยงาม...

22. เตรียมโคมไฟ และนกกระดาษที่เราพับหลาย ๆ สี ให้พร้อม

23. นำนกกระดาษตัวใหญ่ติดก่อน โดยทากาวที่ฐานตัวนก

24. ค่อย ๆ ติดลงบนโคมไฟ

25. นำนกกระดาษสี หลาย ๆ สีติดให้ทั่วโคมไฟ

26. จัดตำแหน่งตัวนกเล็ก,ใหญ่ ตามชอบใจ เสร็จแล้วก็จะได้โคมไฟนกกระดาษพร้อมใช้แล้วค่ะ...

27. ลองเปิดไฟดูตอนกลางคืนก็สวยงามอีกแบบค่ะ....:)
ข้อแนะนำ
  • หากคุณมีความถนัดในการพับกระดาษรูปทรงอื่น เช่นสัตว์ต่างๆหรือดอกไม้ ก็สามารถใช้แทนกันได้ค่ะ
  •  หากเน้นเรื่องการประหยัดพลังงานโลก ก็สามารถใช้กระดาษ reuse หรือแม้แต่หนังสือพิมพ์ต่างประเทศที่มีสีสันต่างๆก็ดูเท่ไปอีกแบบค่ะ

    credit : http://www.archeep.com/ 

Read More...


การทํากระเป๋าจากเศษผ้า สร้างรายได้

การทํากระเป๋าจากเศษผ้า เป็นกระเป๋าน่ารัก ธุรกิจจำหน่ายกระเป๋าผ้าลายน่ารัก ธุรกิจออนไลน์ ของ นักศึกษา ปี 4 หลักสูตรอีคอมเมิร์ซ



หลักสูตรอีคอมเมิร์ซแบบเข้มข้น ซึ่งเปิดสอนในสาขาวิชาการจัดการ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มีนักศึกษาลงทะเบียนตั้งสามร้อยกว่าคน จึงมีตัวอย่างคุณภาพมากมายที่ทำให้เห็นว่า ขอให้มีสินค้าและผู้ประกอบการที่รู้จริงและตั้งใจ โอกาสสร้างรายได้ก็ไม่ใช่เรื่องเกินฝัน

ศิริพร โพธิ์ดี คือนักศึกษา ปี 4 หลักสูตรอีคอมเมิร์ซคนหนึ่ง ซึ่งมีผลประกอบการน่าสนใจ จากธุรกิจจำหน่ายกระเป๋าผ้าลายน่ารัก ซึ่งผลิตและจำหน่ายเอง ด้วยการนำเศษผ้าที่เหลือจากการตัดเย็บเสื้อผ้า กิจการหลักของครอบครัว มาทำกระเป๋าจากเศษ ผ้าไว้ใช้เอง หรือเป็นของขวัญให้เพื่อน พร้อมกับใช้ประกอบการเรียนวิชาการจัดการธุรกิจขนาดย่อม ที่ต้องคิดหาสินค้าแล้วลองขายจริง และพัฒนาสินค้ามาเรื่อย ๆ ให้มีความละเอียด ลวดลายสะดุดตา และเริ่มวางขายที่บ้านก่อน ขายกับคนรู้จักที่สนใจ จนกลายเป็นสินค้าที่ขายได้เรื่อย ๆ

จุดเปลี่ยนสำคัญของเธอเกิดในช่วงปีที่ 3 ต้องเรียนการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ทำให้ได้ความคิดว่าการค้าแบบอีคอมเมิร์ซ น่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้ โดยได้รับคำแนะนำจาก ดร.อนุพงศ์ อวิรุทธา หัวหน้าสาขาวิชาการจัดการ ผู้เป็นอาจารย์ประจำวิชา ในการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ ปรากฏ ว่าทำได้ระยะหนึ่ง เธอมีลูกค้าติดต่อกระเป๋าจากเศษผ้า ผ่านมาทางเว็บไซต์ของร้าน และทางโทรศัพท์จำนวนมาก เมื่อเทียบกับการขายรูปแบบปกติ จากที่เคยมีลูกค้าเดือนละ 3-4 ใบ แต่ขายผ่านเว็บไซต์มีคำสั่งซื้อเดือนละ 10-15 ใบ เนื่องจากลูกค้าเห็นแบบหรือลายกระเป๋าผ่านหน้าเว็บที่ทำไว้ ศิริพร อธิบายวิธีจำหน่ายสินค้าที่เน้น ช่องทางออนไลน์ โดยเปิดเว็บขายบน www.Weloveshopping.com ภายใต้ชื่อร้าน Beauty Bag เธอบอกว่า ลงทุนวัตถุดิบช่วงแรกไม่มาก ค่าใช้จ่ายการเปิดร้าน ได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัย ซึ่งต้นทุนด้าน การผลิตก็ไม่มาก เพราะวัตถุดิบส่วนใหญ่มีอยู่แล้ว ที่บ้าน มีอุปกรณ์และวัสดุบางอย่างเท่านั้นที่ต้องลงทุนเพิ่ม ประมาณ 1,500 บาท

“รายได้จากการขายราว 1,500-2,000 บาท ต่อสัปดาห์ค่ะ”

การสนทนากับคนที่เรียนมาทางด้าน อีคอมเมิร์ซ เห็นได้ว่า ทุกอย่างเป็นอย่างมีระบบ ได้แก่ การจัดการรับคำสั่งซื้อสินค้าและระบบการส่งสินค้า เริ่มจากการลงภาพสินค้าที่ได้ผลิตเสร็จแล้วบนเว็บอย่างละเอียด ในมุมต่าง ๆ ของสินค้า ราคา จำนวนที่มีจำหน่ายที่ชัดเจน เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจก่อนการตัดสินใจซื้อสินค้า

และบางช่วงผลิตไม่ทัน เนื่องจากออกแบบและทำแบบชิ้นต่อชิ้น แต่เธอติดภารกิจการเรียนหรือการสอบซึ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ถึงตอนนั้นก็จะแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าว่าจะต้องรออีกกี่วัน
ส่วนการดูแลบริหารเว็บไซต์ ศิริพร บอกว่า ต้องตรวจสอบทุกวัน เพื่อดูส่วนต่าง ๆ รวมถึงปัญหาลิงก์เสียที่อาจเกิดขึ้น ลบโฆษณาแฝง ที่มาลงในเว็บบอร์ดของร้านเสมอ เพื่อป้องกันลูกค้าเข้าใจผิดและหลงเชื่อโฆษณาเหล่านั้น การตอบคำถามของลูกค้าที่ได้ถามในกระทู้ของร้านค้า และจัดการบริหารหลังร้าน ได้แก่การอัพเดทสินค้าใหม่ ๆ การปรับปรุงข้อมูลรายละเอียดสินค้า และทางร้านจะเช็กอีเมลเสมอ เผื่อมีลูกค้าได้ส่งคำถามหรือคำสั่งซื้อเข้ามา โดยเธอวางหลักว่า จะตอบทุกคำถามของลูกค้าผ่านทุกช่องทางที่สื่อสารได้เร็วที่สุด

“คนทั่วไปมองว่า การซื้อขายผ่านออนไลน์ ไม่มีลูกค้า จริง” มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกหลอกลวง ไม่ปลอดภัย แต่หากเข้าใจระบบอีคอมเมิร์ซอย่างดี จะรู้ว่าสามารถทำได้จริง มีเทคนิคที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ และใช้สำหรับการวางแผนทางการตลาดใน การเจาะลูกค้าเป้าหมาย ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ทำธุรกิจได้ ไม่จำเป็นต้องเปิดร้านเอง และมีลูกค้ามากกว่าเปิดร้าน ทั้งมีระบบต่าง ๆ ในการรักษาความปลอดภัยกับธุรกิจเรา

เธอย้ำว่า ธุรกิจรูปแบบนี้ ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงมีความเข้าใจ ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ใส่ใจในการดูแลร้านค้า ธุรกิจเติบโตได้ เนื่องจากความซื่อสัตย์ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เพราะลูกค้าที่เข้ามาจะเกิดความเชื่อใจและมั่นใจในธุรกิจของเรา.

โดย วีระพันธ์ โตมีบุญ VeeraphanT@Gmail.com
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์ http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=323&contentID=9465

Read More...


โมบายนก จากมะพร้าวแห้ง ศิลปะทำเงินมาแรง

โมบายนก จากมะพร้าวแห้ง ศิลปะทำเงินมาแรง

จากภูมิปัญญาไทยของ ยุพิน รุ่งชัช
วัสดุเหลือใช้และวัตถุดิบจากธรรมชาติ ล้วนสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์
สร้างงานศิลปะขึ้นได้ตามแต่มุมมอง ความคิดหรือจินตนาการของแต่ละบุคคล
อีกทั้งยังช่วยสร้างอาชีพในครัวเรือนได้อีกด้วย ดังจะเห็นได้จากงานฝีมือต่างๆ ที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน

คุณยุพิน เปิดใจถึงจุดเริ่มต้นของโมบายนกแขวนนี้ว่า ทำงานดังกล่าวมาเกือบ 10 ปีแล้ว
สมัยก่อนเคยเป็นครูสอนหนังสือวิชาคณิตศาสตร์ ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ .พิษณุโลก
หลังจากว่างเว้นจากการสอนหนังสือเด็ก ก็มีเวลาว่างจึงคิดอยากหางานศิลปะ หรืองานฝีมือทำ
เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการสอนเชิงบูรณาการให้กับเด็กด้วย และในส่วนตัวนั้นเป็นคนชอบงานศิลปะอยู่แล้วเพียงแต่ยังไม่รู้ว่าจะประดิษฐ์อะไร พอดีในพื้นที่เดียวกันนี้ก็มีเพื่อนฝูงและคนรู้จัก ทำสวนมะพร้าวกันอยู่แล้วสังเกตว่ามักมีมะพร้าวบางส่วนถูกคัดแยกทิ้งไป เนื่องจากไม่ได้คุณภาพ แห้งเกินไป ขายไม่ได้ราคาจึงเกิดความคิดว่าจะใช้ประโยชน์จากมะพร้าว ที่คนอื่นเขาไม่ต้องการแล้วนี่แหละ นำมาทำให้เกิดคุณค่าให้ได้

“สิ่งแรกที่คิดไว้หลังจากที่ได้มะพร้าวมาเป็นวัตถุดิบแล้ว คือมีความคิดที่อยากทำนกจากมะพร้าว
ที่ใช้ตั้งโชว์ประดับตกแต่งที่พักอาศัย จึงได้ออกแบบและลงมือทำด้วยตัวเอง แรกๆ ก็ลองผิดลองถูกไปสักระยะจนกระทั่งสามารถทำนกจากมะพร้าวได้สำเร็จนั่นคือ นกกระยาง
เนื่องจากนกกระยางเป็นนกต้นแบบที่รูปทรงทำง่ายที่สุด ก็ทำแจกเด็กๆ บ้าง บางทีก็ทำเป็นสื่อใช้ในการสอนบ้างรวมทั้งนำไปตกแต่งบ้านและโรงเรียนด้วย ภายหลังมีคนชื่นชอบผลงานของเรามากขึ้น
จึงอยากจะทำให้มันเป็นจริงเป็นจัง เพื่อเป็นอาชีพเสริมหลังจากเกษียณอายุงานแล้ว

ในขณะเดียวกันก็คิดว่าลำพังนกกระยางตั้งโต๊ะ คงจะสร้างรายได้ให้ไม่มากนัก
จึงดัดแปลงนกที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ จากเดิมให้กลายเป็นโมบายนกทำจากมะพร้าว
ที่ใช้ห้อยแขวนอาคารบ้านเรือนให้มันดูสวยงาม แปลกตามากกว่าเดิม” ครูตุ่มเล่าอดีตให้ฟัง

โมบายนกทำจากมะพร้าวได้ถูกดัดแปลงพัฒนาเรื่อยมาโดยครูตุ่มเล่าต่อว่า ภายหลังที่ทำโมบายนกใช้ห้อยแขวนขึ้นมาได้แล้ว มีผู้สนใจในผลงานมากกว่าเดิมมีคนมาติดต่อขอซื้อโมบายนกมะพร้าวจำนวนมาก
ประกอบกับตอนนั้นปี 48 เป็นช่วงที่เกษียณออกจากราชการครูอย่างเต็มตัว จึงใช้เวลาทุ่มเทให้กับงานได้อย่างเต็มที่ระหว่างนั้นก็คิดออกแบบโมบายใหม่ๆ ขึ้นมาและลองทำจริง จากเดิมที่มีแต่นกกระยางตั้งโต๊ะและใช้แขวนก็พัฒนาเพิ่มมาเป็นโมบายนกคุ่ม นกเงือก เพิ่มความหลากหลายฉีกจากรูปแบบเดิมๆ ไปอีก

“ช่วงแรกที่ทำเป็นโมบายนก ก็มีปัญหาตรงที่ส่วนของคอนก ไม่สามารถขยับหรือหมุนได้
เนื่องจากเราใช้ไม้เป็นส่วนประกอบในการทำคอของนก ตรงจุดนี้เรามองว่า ในเมื่อทำเป็นโมบายนก
ใช้แขวนประดับบ้านแล้วก็ต้องทำให้คอของนกนั้นสามารถหมุนหรือขยับได้ เสมือนว่ามันมีชีวิตจริงๆ
จึงเริ่มหาวิธีใช้วัสดุมาต่อเข้ากับคอซึ่งก็คือโฟม เพราะโฟมมีน้ำหนักเบาสามารถนำมาต่อประกอบรวม
ทำเป็นคอนกได้ จากนั้นก็เริ่มนำโฟมมาตัดและเหลาให้เป็นทรงกลม เพื่อใช้เรียงต่อเป็นส่วนคอนก
ทั้งนี้ต้องขอบคุณ คุณตาและคนเฒ่าคนแก่ที่บ้าน ซึ่งคอยช่วยเหลือเพราะแต่ละคนมีความชำนาญในงานช่างงานฝีมือเป็นอย่างดี

เมื่อนำโฟมมาต่อทำเป็นคอนกปรากฏว่าขยับได้อย่างที่คิดไว้แต่มีปัญหาอีกตรงที่ส่วนคอและหัวของนก มีน้ำหนักเบาเกินไปไม่สามารถชูคอตั้ง ได้จึงต้องทำส่วนที่เป็นแกนไม้และหาที่ถ่วงน้ำหนักของคอนกไว้ ตอนแรกเราใช้แผ่นเซรามิกเพื่อใช้ผูกยึดติดกับแกนไม้ไว้แต่ปรากฏว่าน้ำหนักมากเกินไปไม่สามารถใช้ถ่วงคอนกได้ เผอิญได้แนวคิดจากการสังเกตและพบเห็นแม่ค้าขายอาหารที่มักใช้แผ่นซีดีแขวนไว้ตามหน้าร้าน เนื่องจากแม่ค้าทุกคนบอกว่าแผ่นซีดีช่วยไล่แมลงวัน เพราะมันมีแสงแวววับทำให้แมลงวันไม่บินมาตอมอาหารเมื่อทราบถึงประโยชน์ของแผ่นซีดี เราจึงนำเคล็ดลับจากแม่ค้าเหล่านั้น มาประยุกต์ใช้ในงานโมบายของตนเองโดยการใช้แผ่นซีดีผูกติดไว้กับแกนไม้ เพื่อถ่วงคอนกให้สามารถหมุนขยับคอได้และนอกจากนี้โมบายนกของเรา ยังช่วยไล่แมลงวันออกจากบริเวณที่ใช้แขวนไปพร้อมๆ กันด้วย”

วิวัฒนาการของโมบายนกยังคงเดินหน้าต่อไปล่าสุด ครูตุ่มและลูกสาวได้ช่วยกันใช้สีอะครีลิกในการเพ้นท์ แต่งแต้มลวดลายลงสีสันบนเรือนร่างนกแต่ละตัวแต่ละชนิด ให้เกิดความสดใส สะดุดตา ช่วยทำให้โมบายนกแต่ละตัวเกิดชีวิตชีวาขึ้นมาซึ่งแต่ละตัวก็จะมีลวดลายที่ เป็นเอกลักษณ์แตกต่างไม่ซ้ำกัน ตลอดจนความแตกต่างเรื่องราคาก็ขึ้นอยู่กับชิ้นงานโดยโมบายนกที่ถูกตกแต่งด้วยสีที่สดใส สวยงาม ราคาจำหน่ายจะมีตั้งแต่ 300-400 บาทไปจนถึงหลักพันขึ้นไปตามลำดับ

คุณยุพินกล่าวว่า รายได้จากโมบายนกแขวนมะพร้าวถือว่าให้ผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ
อีกทั้งทุกวันนี้เริ่มมีลูกค้าและคนรู้จักเราไปในวงกว้างมากขึ้น ทั้งโทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม
หรือเดินทางเข้ามาสั่งสินค้าด้วยตัวเองเลยก็มี นอกจากรายได้เลี้ยงตัวสบายๆ แล้วเรายังได้รับอีกอย่างหนึ่งซึ่งก็คือความรู้สึกภาคภูมิใจที่ผลิตภัณฑ์ของเรา ได้รับการยอมรับในสังคมเนื่องจากโมบายนกแขวนทำจากมะพร้าว เป็นงานฝีมือที่สะท้อนเรื่องราวธรรมชาติ และวิถีชีวิตพื้นบ้านด้วยท่วงท่าการเคลื่อนไหวที่น่าประทับใจ ราวกับมีชีวิตของนกเหล่านี้ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มคนผู้ชื่นชอบงานฝีมือแบบฉบับไทยๆ รวมไปถึงนักสะสม นักท่องเที่ยว หรือคนที่ชอบตกแต่งบ้านนั่นเอง

นอกจากนี้ผลงานของ “ครูตุ่ม” ยังได้รับการสนับสนุนและคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 10 ผลิตภัณฑ์เด่นแห่งนวัตกรรมภูมิปัญญาไทยจากการคัดเลือกโดยกรมส่งเสริม อุตสาหกรรมอีกด้วยการันตีความคิดสร้างสรรค์และฝีมือที่ได้คุณภาพได้เป็นอย่างดีด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้โมบายนกแขวนทำจากมะพร้าว ประสบความสำเร็จตราบจนปัจจุบัน

หากใครที่สนใจผลงานของ “ครูตุ่ม” ก็แวะไปทักทายอุดหนุนและเยี่ยมชมผลงานได้ถึงที่
ตามที่อยู่ 96/11 ซ.พระร่วง 2 ถ.พระร่วง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000
หรือยกหูโทรศัพท์ และติดต่อครูตุ่มได้ตั้งแต่นาทีนี้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-5524-9201 , 08-9461-1128 , 08-9461-6071หรือสะดวกติดต่อผ่านทางอีเมล sister_tour@hotmail.com

ทั้งนี้ครูตุ่มฝากบอกมาว่า ในอนาคตอันใกล้จะเนรมิตให้โมบายนกแขวนจากมะพร้าว
สามารถเปล่งเสียงพูดสื่อสารกับคนได้…ติดตามกันต่อไปให้ดีล่ะกัน ถ้าไม่อยากพลาด


ข้อมูลโดย : http://www.neonbookmedia.com
ที่มา : http://www.udclick.com

Read More...


“โคมไฟขวดพลาสติก” งานศิลปะสร้างเงิน

โคมไฟจากขวดน้ำพลาสติก
ในขณะที่คนทั่วโลกกำลังตื่น ตัว กับกระแสของภาวะโลกร้อน คนไทยเองก็ไม่ได้มองข้ามในเรื่องเหล่านี้ ที่ผ่านมา ได้เห็นงานฝีมือที่เกิดจากการนำของเหลือทิ้งมารีไซเคิล ซึ่งต้องยอมรับว่า คนไทยมีแนวคิด และมีพรสวรรค์ในเรื่องของงานฝีมือไม่แพ้ใคร และที่เห็นได้บ่อย และชัดเจน ก็คงจะเป็นผลงานรีไซเคิลขวดน้ำพลาสติก
โคมไฟขวดน้ำพลาสติกแบบแขวน
       ครั้งนี้ เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่มีโอกาสได้พบเห็นผลงานรีไซเคิล ขวดน้ำพลาสติก ที่ต้องบอกว่าน่าสนใจ เพราะมีพัฒนาการทั้งด้านรูปแบบและสีสันที่สนใจ ซึ่งต้องยอมรับว่า ผลงานรีไซเคิลขวดพลาสติกไม่ใช่เรื่องใหม่ ซึ่งมีการทำขึ้นมาขายนานหลายปี แต่ในระยะหลังความนิยมเริ่มลดน้อยลง

       สำหรับผลงานของ “นายสำรวจ สนรอด” ที่มีดีกรีเป็นถึงระดับอาจารย์ที่ในวงการรู้จักกันในชื่อของ “ครูต๋อย” ผู้ซึ่งสร้างสรรค์ผลงาน ประดิษฐ์ขวดพลาสติกมานานกว่า 4 ปี และแน่นอนว่า ด้วยประสบการณ์ และผลงานที่โดดเด่น เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคนที่ได้พบเห็นชื่นชอบ ทำให้เขาได้รับเชิญให้ไปเป็นวิทยากรสอนอาชีพอยู่บ่อยครั้ง
“นายสำรวจ สนรอด” เจ้าของผลงาน
       โดยผลงานที่น่าสนใจของครูต่อย อยู่ความสวยงาม ความประณีต รูปแบบ และที่สำคัญ คือ ครูต๋อยใช้การลงสีแบบแอร์บรัช เป็นสีพ่นรถยนต์ ทำให้ได้ผลงานที่มีสีสันสดใส แตกต่างจากงานขวดพลาสติกรีไซเคิลของผู้ผลิตรายอื่นๆ ครู ต๋อย บอกกับเราว่า ปัจจุบัน คนที่ทำชิ้นงานรีไซเคิลขวดพลาสติก มีอยู่หลายราย แต่ที่ใช้เทคนิคการทำสีแบบแอร์บรัช จะมีเพียง 2 ราย ซึ่งอีกคนหนึ่งทำงานขายอยู่ในต่างจังหวัด ดังนั้น ครูต๋อย จึงเป็นคนเดียวที่ทำสีแบบแอร์บรัช และวางขายในกรุงเทพฯ ปัจจุบัน ครูต๋อย ยึดช่องทางการขายเพียงช่องทางเดียว คือ การเช่าพื้นที่ขายและสอนอยู่ในห้างเดอะมอลล์บางกะปิ เปิดหน้าร้านขายสินค้าและรับสอนอยู่ที่นั่น
โคมไฟแขวนแบบภาพเหมือนหลวงปู่ทวด

       ครูต๋อย เล่าว่า การเข้ามาเปิดขายในห้างครั้งนี้ เกิดจากทางห้างไปเห็นผลงานที่เราสอนอยู่กับทางกรุงเทพมหานคร จึงได้ชักชวนให้เรามาเปิดในห้าง โดยทางห้างจะคิดค่าเช่าพื้นที่ด้วยการแบ่งรายได้ 25% ให้กับทางห้าง ซึ่งเมื่อครั้งมาขายที่เดอะมอลล์ในช่วงแรก ได้รับการตอบรับดีมาก ทั้งยอดขาย และการสอน เดือนหนึ่งมีรายได้หลายหมื่นบาท แต่ในระยะหลังจากผลกระทบน้ำท่วม รายได้ทั้งงานสอน และการขายสินค้า หายไปมากกว่า ครึ่งหนึ่ง ซึ่งต้องยอมรับว่า ผลกระทบจากน้ำท่วมทำให้ทุกคนใช้จ่ายน้อยลง จะเลือกใช้แต่ที่จำเป็น ประกอบกับสินค้าของเราเป็นสินค้าฟุ่มเฟื่อย จึงได้รับผลกระทบในช่วงนี้
โคมไฟแบบแขวนปรับมาจากตั้งโต๊ะ
       “จุดเริ่มต้นของการมาทำงานรีไซเคิล ขวดพลาสติก เริ่มมาจากการที่เห็นการสอนจากในรายการโทรทัศน์ เกิดความชอบขึ้นมาทันที่ ซึ่งในช่วงนั้น มีอาชีพเป็นช่างทำทองอยู่ รายได้อยู่ที่ 24,000 บาท ตัดสินใจลาออกจากงาน ตอนนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำออกมาแล้วจะไปขายให้ใคร โดยไปเรียนจากอาจารย์ที่เปิดสอน แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก จึงลองมาหัดทำเอง เพราะเรา ก็มีพื้นฐานจากงานช่างทองอยู่แล้ว ก็นำมาปรับใช้กับงานตรงนี้ได้บ้าง เช่น การใช้เครื่องมือหัวแร้งในการตัดแต่งทำลวดลาย บนขวดพลาสติก ซึ่งตอนที่เป็นช่างทอง เราก็ได้ใช้อยู่แล้ว จึงไม่ยาก”

       ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า การทำงานฝีมือ ต้องมีใจรัก เป็นทุนเดิม จึงจะทำออกมาได้ดี ซึ่งครูต๋อย ได้ใช้เวลาในการฝึกฝนจนกว่าจะได้ถึงทุกวันนี้ ก็นานถึง 4 ปี ซึ่งครูต๋อยบอกกับเราว่า แม้จะฝึกลูกศิษย์ที่มาเรียนออกไปหลายพันคน แต่ก็มีส่วนน้อยที่จะมุ่งมั่นและทำงานตรงนี้ได้นาน เหมือนกับตนเอง ส่วนใหญ่ก็จะท้อเสียก่อน เพราะเมื่อเป็นงานรีไซเคิลสำหรับตลาดคนไทยเอง ยังไม่ค่อยยอมรับเท่าไหร่ ไม่เหมือนกับในต่างประเทศ เพราะวัดได้จากการที่ได้เคยนำสินค้าไปขายตามสถานที่ท่องเที่ยว ลูกค้าชาวต่างชาติจะชื่นชอบกันมาก ส่วนลูกค้าคนไทยส่วนใหญ่จะเป็นคนสูงอายุ

       สำหรับในส่วนของวัตถุดิบ อย่างขวดน้ำพลาสติก ครูต๋อยจะไปหาซื้อมาจากร้านขายของเก่า ขาย ในกิโลกรัมละ 20 บาท ขวดที่ใช้จะเป็นขวดน้ำอัดลม เพราะจะมีความเหนียว เวลานำมาทำงานซึ่งต้องใช้หัวแร้งที่เป็นความร้อนในการตัดทำลวดลายก็จะไม่ เสียหายหรือขาดได้ง่าย ส่วนขวดขนาดใหญ่ขึ้นมา เช่น ขนาด 3.15 ลิตร ขึ้นไป ซึ้อในราคาขวดละ 5 บาท ในส่วนของสี เนื่องจากใช้เทคนิคการทำสีแบบแอร์บรัช จึงต้องลงทุนซื้อเครื่องพ่นสีในราคา 15,000 บาท และต้องเรียนเทคนิค การใช้แอร์บรัชด้วย ซึ่งสีที่ใช้กับแอร์บรัชต้องใช้สีพ่นรถยนต์ ซึ่งราคาสูงกว่าสีทั่วไป แต่สิ่งที่ได้ จะได้ผลงานที่ดูโดดเด่น และสีสันสวยงามสะดุดตา กว่าการใช้สีเพนท์ลาย
ที่ใส่ต้นไม้แบบแขวน
       "ดังนั้น ผลงานขวดพลาสติกรีไซเคิลของเราจึงราคาสูงกว่า ทั่วไป โดยราคาเฉลี่ยอยู่หลักร้อยบาท ไปจนถึงหลักพันบาท ขึ้นอยู่กับความยากง่ายและขนาดของงาน โดยผลงานส่วนใหญ่ของครูต๋อย จะเป็นโคมไฟ ลายดอกไม้ เช่น ดอกชบา ดอกลีลาวดี เป็นต้น นอกจากนี้ จะมีลวดลายที่ยากขึ้นมาอย่าง ทำลายพระพิฆเนศ รูปเหมือนหลวงปู่ทวด เป็นต้น ส่วนค่าเรียนคิดค่าเรียนคอร์สละ 1,200 บาท ฝึกจนกว่าจะเป็น โดยสอนให้ทั้งหมด 4 แบบ"

       ครูต๋อย ฝากทิ้งทายไว้ สำหรับ คนที่กำลังมองหาอาชีพเสริม งานฝีมือในแบบนี้ ก็ยังมีช่องว่างให้เข้ามาทำตลาดได้ เพราะคนที่มีใจรัก และทำออกมาได้ดี ยังมีน้อย สินค้ายังขายได้เรื่อย และเป็นงานที่ต้นทุนต่ำ กำไรที่ได้มาจากต้นทุนค่าแรงในการทำงานของเราเองทั้งสิ้น
ต้นใบเงิน ใบทอง ทำจากขวดน้ำพลาสติก
โทร.08-7104-6695

credit : โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

Read More...


ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0










































 
Blogger Tips and TricksLatest Tips And TricksBlogger Tricks
Do it your self,handmade,HandiCraft,งานฝีมือ,อาชีพเสริม,ช่องทางทำเงิน บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.