บทความที่ได้รับความนิยม
-
งานฝีมือ-งานประดิษฐ์-งานแฮนด์เมด ต้องสร้างจุดเด่นชูจุดขายให้กับสินค้าที่ผลิตออกสู่ตลาด ยิ่งผลิตชิ้นงานได้ตรงจุดโดนใจลูกค้ามากเท่าไหร่โอกาส...
-
งานประดิษฐ์ของเดือนนี้ หากใครมีกระดาษสวยงามต่างๆ หรือแม้แต่กระดาษห่อของขวัญที่ไม่ได้ใช้แล้ว อย่าทิ้งนะคะ คุณๆสามารถนำกระดาษม...
-
ตลาดงานฝีมือถือเป็นตลาดใหญ่ที่มีคู่แข่งในตลาดมาก ซึ่งถ้าหากต้องการทำชิ้นงานให้ยืนระยะอยู่รอดได้ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง เช่นนี้ ก...
-
ยอดศักดิ์ อภิชาตวรศิลป์ เจ้าของธุรกิจ เมนูหมูสะเต๊ะและหมูปิ้ง ซึ่งคุ้นปากคนไทยเป็นอย่างดี ถูกหยิบมาแต่งตัวใหม่ในรูปแบบแฟ...
-
ประดิษฐ์-งานฝีมือ อย่างเจ้าของงานฝีมือรายนี้ แม้จะยึดอาชีพนี้มาเกือบ 30 ปี แต่ก็ยังขายงานได้เรื่อย ๆ แม้ในยามเศรษฐกิจตกสะเก็ด เหตุเพราะรู้จ...
-
งานประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ อย่างเช่น งานประดิษฐ์จากกะลามะพร้าว จะมีมานานแล้ว แต่ก็มีคนต่อยอดพัฒนาจนเกิดเป็นสินค้าหลากหลายได้อย่างต่อเนื่อง ...
-
ความ ที่เป็นคนหัวใจใส่ “ยีน” หลงใหลความเซอร์สุดจิตสุดใจ ทำให้ “กร-อำนวย แช่ม” หนุ่มนครศรีธรรมราช วัย 41 ปี ยอมเปลี่ยนลุคจากนายธนาคารนั่ง...
-
“งานพิมพ์ผ้า” ยังเป็นไอเดียทำเงินได้ เพราะนอกจากจะขายเฉพาะ “ผ้าพิมพ์ลาย” แล้ว ยังสามารถนำมาดัดแปลงเป็นสินค้าประเภทต่าง ๆ เพื่อขายได้อี...
-
นักวาดภาพ นักเขียนรูป หรือคนทำงานศิลปะ ถือเป็น “อาชีพอิสระ” ที่หลายคนยึดเป็น ’ช่องทางทำกิน“ ใช้เลี้ยงชีพ-เลี้ยงตัวเองได้อย่างน...
-
"บายศรีกระดาษ" เป็นการประดิษฐ์บายศรีจากวัสดุที่หาง่ายอย่างกระดาษ ซึ่งเป็นการคิดต่าง เพื่อให้สินค้าสามารถกระจายขายได้กว้างขึ้น แล...
เสื้อผ้ามือสอง สภาพดื ราคาไม่แพง
คลิ้กถาพเพิ่มเติม : เสื้อมือสอง 36 ตัว : http://bit.ly/320mjMQ
ทางร้านจำหน่ายเสื้อมือสอง รบกวนคุณลูกค้า อ่านรายละเอียดสินค้าก่อนนะคะ สงสัยอะไร สอบถาม หรือขอภาพ เพิ่มเติมได้ค่ะ เนื่องเป็นสินค้ามือสอง ขอคนรับได้นะคะ เพราะหากทำการซื้อขายแล้ว ทางร้านไม่รับคืนทุกกรณี. ยกเว้นเกิดจากความผิดพลาดของทางร้านเท่านั้น และหน่วยวัด ยึดสายวัดจากทางร้านนะคะ สนใจสินค้า แคปภาพทักแชทสอบถามได้เลยค่ะ ยังไม่ตัดสินใจซื้อก็สอบถามได้ค่ะ แม่ค้าใจดี .
รายละเอียดและ ราคา ตามภาพเลยค่ะ
เสื้อมือสอง 36 ตัว : http://bit.ly/320mjMQ
ราคาสินค้า ยังไม่รวมค่าจัดส่ง ค่าส่ง เริ่มต้นที่ 50 บาท ตัวต่อไป +10 บาท .
สนใจแคปรูปทักแชทได้เลยค่ะ Add Line : https://line.me/ti/p/5f-FSrkLYb
สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ที่นี่เลยค่ะ https://www.facebook.com/yadashop21/
MASK รุ่นสายคล้องคอ

รับโพสเว็บบอร์ด ขายเน้นขายของ เพิ่มยอดขาย
รับโพสเว็บบอร์ด ขายเน้นขายของ เพิ่มยอดขาย
ราคาถูก พร้อม report
การโพสตามเว็บต่างๆ เป็นปัจจัยหนึงในการเพิ่มยอดขาย ส่วนใหญ่เป็นเว็บที่มีคนเข้าใช้จริงมีคนเข้ามาดูทุกวัน มีคนโพสทุกวัน มีเว็บบอร์ดหลายกลุ่ม ต่างๆ เช่น กล้อง อุปกรณ์ถ่ายภาพ การศึกษา กีฬาเกมส์ ของเล่นของเก่า ของสะสม คอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องดนตรี ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง ท่องเที่ยว ที่พัก ธุรกิจ งาน นาฬิกา เครื่องประดับ บันเทิง เพลง ดนตรี เฟอร์นิเจอร์ แฟชั่น เสื้อผ้า มือถือ อุปกรณ์สื่อสาร แม่และเด็ก รถ ยานพาหนะ ศิลปะ หัตถกรรม ของที่ระลึก เสริมสวย สุขภาพ หนังสือ อสังหาริมทรัพย์ อาหาร อุตสาหกรรม เครื่องจักร อุปกรณ์สำนักงาน เกษตร อื่นๆ อีกเยอะมากมาย
รับโพสเว็บบอร์ด
ประโยชน์ของการทำตลาดออนไลน์โดยวิธีการโพสเว็บบอร์ด โพสต์สินค้า มีอะไรบ้าง
- ทำให้ลูกค้าหรือกลุ่ม User เรารู้จักแบรนด์เรามากขึ้น
- เพิ่มโอกาสในการขายของ เพิ่มยอดขาย
- รองรับการใช้งานคอมพิวเตอร์ มือถือและ Tablet
- โอกาสติดกูเกิลมีสูง
รับประกาศโปรโมทเว็บ เน้นโพส เน้นขายของ เพิ่มยอดขาย
โดยกลุ่มนี้จะเน้นอัดทีหนึงหลายๆเว็บ เพื่อโปรโมทเว็บและเพิ่มยอดขาย โดยมีค่าใช้จ่ายในการโพสสินค้าดังนี้ :
600 บาท = 200+ เว็บบอร์ดคนไทยล้วน + ดันกระทู้ให้ ฟรี!
สิ่งที่คุณต้องส่งข้อมูลให้กับทางเรา
– หัวข้อประกาศ
– ประเภทของสินค้าหรือบริการ
– รูปภาพสินค้าหรือบริการ 1-3 รูป
– บทความเกี่ยวกับสินค้า 400-1,000 คำ
– เบอร์โทร, อีเมล์, id line, inbox (จะไม่ลงก็ได้)!
** เมื่องานเสร็จมีลิงค์รายงานดูได้สะดวก ทั้งโพส และดันกระทู้ให้คุณทั้งหมด **
- ส่งงานเป็นไฟล์ Excel สามารถตรวจสอบผลงานได้ทุกเว็บ
- ระยะเวลาการทำงาน 3-5 วัน
**คำเตือน**
ไม่รับโปรโมทเว็บ 18+ และสินค้าใดๆที่ผิดกฎหมายทุกชนิด
...สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ gtiwa2008@]gmail.com
...สอบถามเพิ่มได้ที่ 086-734-8650
...Line : admin8650
**ตัวอย่างงานรับประกาศโปรโมทเว็บ
<>ร้านชานมไข่มุกไต้หวัน Marracha ราคา 19 บาท : https://bit.ly/2Y6a0O0
<>คุ้กกี้เนยสดหน้าอัลมอนด์ Almond butter cookies : https://bit.ly/3cPgox0
<>ขายเลขทะเบียนรถสวย ป้ายกรุงเทพ : https://bit.ly/2xash1B
<>สถานที่จำหน่าย อะไหล่ Ford, อะไหล่ Motorcraft : https://bit.ly/2VEcJg3
<>อะไหล่ฟอร์ดแท้ FIESTA (เฟียสต้า) : https://bit.ly/3cRHNyD
หน้ากากอนามัยผ้ามัสลิน
หน้ากากผ้า 3 ชั้น 2 ชิ้น และ กระเป๋าสะพายใช้งานได้สองด้าน
>>> หน้ากากผ้า 3 ชั้น <<<
ชั้นที่ 1 เป็นผ้าฝ้ายทอพื้นเมือง ชั้น 2,3. เป็นผ้ามัสลิน
มีช่องใส่แผ่นกรอง สายยางยืดมีตัวล๊อค
แถมแผ่นกรอง PM 2 .5 1 แผ่นต่อชิ้น
>>> กระเป๋าสะพายใช้งานได้สองด้าน ขนาด <<<
-ความสูงจากฐานถึงปากกระเป๋า = 10 นิ้ว
-ความสูงฐานถึงสะพายไหล่ = 22 นิ้ว
-ความกว้างประเป๋า = 14 นิ้ว
มีสองสี. น้ำตาล. กับแดง. กระเป๋าสลับใช้ได้ทั้งสองด้าน
.
ราคาเซทละ. 179 บาท
ค่าจัดส่ง ems 50 บาท
(สินค้าเป็นงานสั่งทำนะคะ ลายแมวอาจเป็นไปตามลายตัดตัวแมวในผ้านะคะ. อาจจะแตกต่างจากรูป )
.
Add Line : https://line.me/ti/p/5f-FSrkLYb
Inbox : http://m.me/noeyhorm
.
หน้ากากผ้า 3 ชั้น + ผ้าคาดผมแบบลวด
ชั้น 1. เป็นผ้าไหมอิตาลี ชั้น 2,3 เป็นผ้ามัสลิน
มีช่องใส่แผ่นกรอง สายยางยืดมีตัวล๊อค
แถมแผ่นกรอง PM 2 .5 1 แผ่น/ชุด
.
มี 3 สี. เหลือง ,แดง ,ดำ
ราคาชุดละ. 69 บาท
ค่าจัดส่ง ems 40 บาท
Add Line : https://line.me/ti/p/5f-FSrkLYb
Inbox : http://m.me/noeyhorm
.
หน้ากากผ้า 4 ชั้น ชั้นนอก ผ้าลูกไมั ชั้น 2,3,4 เป็นผ้ามัสลิน
มีช่องใส่แผ่นกรอง สายยางยืดมีตัวล๊อค
แถมแผ่นกรอง PM 2.5 1 แผ่นต่อชิ้น
ราคาชิ้นละ 45 บาท 3 ชิ้น 120 บาท
มี 4 สี ฟ้า,ม่วง,ดำ,แดง
ค่าจัดส่ง. ems 40
Add Line : https://line.me/ti/p/5f-FSrkLYb
Inbox : http://m.me/noeyhorm
รายละเอียดสินค้า
หน้ากากอนามัย ผ้าฝ้ายมัสลิน ผ้าหนานุ่ม ซึ่งทางการแพทย์ยืนยันว่าเป็นผ้าที่เหมาะสมที่เอามาทำหน้ากากอนามัยมากที่สุด เนื่องจากประสิทธิภาพในการกันละอองน้ำได้ดีที่สุด ซึ่งเนื้อผ้าเป็นเส้นใยธรรมชาติ100%
ผ้ามัสลิน คุณสมบัติพื้นฐานของผ้ามัสลินนั้น มีความโดดเด่นในแง่ดีหลายอย่าง เช่น เป็นผ้าเนื้อละเอียด ระบายอากาศดี แห้งเร็ว น้ำหนักเบา ไม่ระคายเคืองต่อผิวหนัง เป็นเส้นใยธรรมชาติ 100% ให้ความรู้สึกสบาย ลักษณะของผ้าจะมีความลื่นพอประมาณ มีความแข็งแรงทนทานต่อการซัก
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ทดสอบประสิทธิภาพของผ้าชนิดต่างๆ เพื่อค้นหาว่าผ้าชนิดใดเหมาะที่สุดที่จะนำมาใช้ทดแทน "หน้ากากอนามัยทางการแพทย์" ได้ดี โดยทดสอบ 3 วิธี คือ ส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์เพื่อศึกษาเส้นใยผ้าในการกันอนุภาค ทดสอบการเป็นขุยด้วยวิธีการซัก และทดสอบประสิทธิภาพการซึมผ่านของละอองน้ำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการกันละอองน้ำได้ดีที่สุด เส้นใยผ้าสามารถกันอนุภาคเล็กๆ (เช่น ละอองฝอย) ได้ดีกว่าผ้าชนิดอื่น และสามารถนำมาใช้งานได้หลายครั้ง
✅ ทำจากผ้าฝ้ายมัสลินอย่างดี
✅ เนื้อละเอียด ผ้าระบายอากาศดี แห้งเร็ว
✅ ซักได้หลายครั้งมาก
✅ สะอาด
✅ ถูกอนามัย
✅ ขนาดมาตรฐาน
✅ ราคาส่ง
✅ พร้อมส่ง💥
#หน้ากากอนามัย #ผ้าปิดจมูก #หน้ากากอนามัยราคาถูก #หน้ากากอนามัยราคาส่ง #หน้ากากอนามัยผ้าอย่างดี #หน้ากากอนามัยผ้ามัสลิน #หน้ากากอนามัยมาตรฐาน #หน้ากากอนามัยดีๆ #ผ้าปิดจมูกราคาถูก #ป้องกันเชื้อ #หน้ากากอนามัยพร้อมส่ง
ขายขนมโฮมเมดออนไลน์ และรับออร์เดอร์ค่ะ
ขายขนมโฮมเมดออนไลน์ และรับออร์เดอร์ค่ะ
[ไม่ว่าจะซื้อทานเอง ซื้อฝาก ซื้อเป็นของขวัญก็ได้ค่ะ]
รีวิวขนมร้านเนยหอม : http://bit.ly/31l6PBf
แผ่นที่ที่ตั้งร้านเนยหอมออนไลท์ : http://bit.ly/2KMsWKX
-> เนยสดแท้ 100 % คุณภาพดี รสชาติดี กลิ่นหอม
-> ไม่ใส่สารกันบูด หรือ สารเติมแต่งใด ๆ
-> ร้านขนมเนยหอมออนไลท์ จัดส่งทุกวันอังคาร นะคะ
=สั่งได้ทาง Inbox หรือ id line ...
-> Inbox : http://m.me/noeyhorm
-> id line : noeyhorm_06
-> QR Line : http://line.me/ti/p/~noeyhorm_06
-> FB : http://bit.ly/2MBSRYb
งานประดิษฐ์ กะลามะพร้าว
เดชา สนธินุช เป็นเจ้าของงานจากกะลามะพร้าวหลากหลายไอเดีย เจ้าของผลงานเล่าว่า เดิมทำอาชีพเป็นช่างจิวเวลรี่นานกว่า 15 ปี ต่อมาเริ่มรู้สึกเบื่อ อิ่มตัว อยากจะทำจับธุรกิจเล็ก ๆ สักอย่าง โดยมองไป ที่งานประดิษฐ์ ของตกแต่ง เนื่องจากมีความชำนาญด้านงานช่าง-งานฝีมืออยู่แล้ว และก็สนใจชิ้นงานจากวัสดุ กะลามะพร้าว เพราะมองว่าเป็นวัสดุที่มีราคาถูก หาง่าย มีอยู่ทั่วไป จึงเริ่มทดลองทำมาตั้งแต่ ปี 2548
ระยะแรกผลงานของเขาจะเน้นไปที่ชิ้นงานขนาดใหญ่ เน้นความเป็นศิลปะไทย อาทิ งานรูปสัตว์ป่าหิมพานต์, พระพุทธรูป ต่อมาคิดว่าน่าจะทำงานที่มีขนาดเล็กลงมา และมีรูปแบบน่ารัก มีสไตล์การ์ตูนนิด ๆ ให้ดูน่ารัก เพื่อตามใจตลาดดูบ้าง อาทิ ตุ๊กตากบ, หนอน, ปลาทอง และงานโมบาย รวมถึงงานโคมไฟ ทั้งแบบตั้งโต๊ะ และแบบแขวนห้อยเพดาน ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งที่ลดขนาดชิ้นงานก็คือ เพื่อลดระยะเวลาในการผลิตงานให้น้อยลง เนื่องจากงานชิ้นใหญ่บางชิ้นต้องใช้เวลาในการทำไม่น้อยกว่า 5 เดือน
งานชิ้นใหญ่มีรายละเอียดซับซ้อน ต่อมาคิดว่าน่าจะเพิ่มสินค้าสไตล์อื่นดูบ้าง เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น และลดขนาดชิ้นงานให้เล็กลงมา เพื่อที่จะสามารถขายงานได้มากชิ้นขึ้น จึงกลายเป็นรูปแบบในปัจจุบัน คือเปลี่ยนจากงานเน้นรายละเอียด มาเป็นงานตลาดดูบ้าง ก็ทำให้มีลูกค้ามากขึ้น โดยสินค้าจะขายดีมากในช่วงปลายปี หรือใกล้ปีใหม่ แต่โดยรวมก็สามารถขายได้ทั้งปี เพราะแหล่งที่ขายประจำอยู่ที่ตลาดบางน้ำผึ้ง พระประแดง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว เจ้าของผลงานกล่าว
รูปแบบของสินค้า เขาบอกว่าสามารถต่อยอดทำไปได้ เรื่อย ๆ ไม่มีตัน โดยปัจจุบันสินค้าที่ทำนั้นมีอยู่มากมายหลายสิบแบบ โดยที่ขายดีที่สุดจะเป็นงานประเภทตุ๊กตาตั้งโต๊ะ และ งานโมบายสำหรับแขวน โดยราคาสินค้าเริ่มตั้งแต่ชิ้นละ 120 บาท จนถึง 30,000 บาท ขึ้นกับขนาด ความยากง่าย และรายละเอียดของชิ้นงาน
ทุนเบื้องต้นสำหรับการทำงานประเภทนี้ ใช้เงินลงทุนครั้งแรกประมาณ 10,000 บาท โดยต้นทุนจะลดลงอีกหากผู้ทำมีอุปกรณ์บางชิ้นอยู่แล้ว ส่วนทุนวัสดุต่อชิ้นจะอยู่ที่ประมาณ 40% ของราคาที่ตั้งขาย

อุปกรณ์เครื่องมือที่จำเป็น
มีสว่านไฟฟ้า, เลื่อยฉลุ, เลื่อยแท่น, เครื่องขัดเจีย, ปืนยิงกาวร้อน และอุปกรณ์สำหรับงานไม้ ส่วนวัสดุที่ต้องใช้หลัก ๆ ก็มี กะลามะพร้าว, ไม้สนนอก, กาวร้อน, กระดาษทรายขั้นตอนการทำ
เริ่มที่เตรียมกะลามะพร้าว เริ่มจากนำมะพร้าวมาปอกเปลือก และเจาะเอาน้ำด้านในออกให้หมด จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 1 วันให้เนื้อด้านในล่อน จึงใช้มีดแคะออกมา การเลือกกะลาที่เหมาะจะนำมาใช้งานนั้น ให้เลือกใช้กะลาที่มีความหนาพอสมควร เลือกที่มีความโค้งไม่มาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบงานเมื่อได้กะลาที่มีขนาดและรูปทรงตามต้องการแล้ว ลำดับต่อมาให้นำกะลามะพร้าวที่ได้มาทำการขัดผิวให้เรียบด้วยเครื่องขัดหรือ เครื่องเจีย จากนั้นสำรวจและจัดการให้เรียบร้อยอีกทีด้วยกระดาษทราย เพื่อขจัดเศษเสี้ยน จากนั้นนำกะลามาผ่าซีกหรือตัดให้ได้ตามชิ้นส่วนของแบบที่เลือกไว้ โดยอาจจะตัดเป็นชิ้นส่วนไว้ทีเดียวพร้อมกัน แล้วจึงค่อยนำมาประกอบภายหลัง
เมื่อได้ส่วนประกอบแล้ว ก็ให้นำไม้สนนอกมาเหลาเพื่อทำเป็น “สลักยึด” ใช้แทนตะปู โดยอาจทำไว้ทีเดียวหลาย ๆ ขนาดเหมือนกับขั้นตอนการทำชิ้นส่วน จากนั้นเมื่อได้ส่วนประกอบและสลักยึดครบแล้วก็นำมาประกอบ ขึ้นรูปตามแบบที่ต้องการ เริ่มจากส่วนฐานและลำตัวก่อน โดยใช้กาวร้อนและไม้สนนอกที่เหลาเป็นสลักเป็นตัวยึด และเชื่อมในส่วนต่าง ๆ หากต้องการตกแต่งก็อาจใช้เศษกะลาที่เหลือตกแต่ง จากนั้นตั้งทิ้งไว้ให้กาวแห้งสนิท เมื่อแห้งสนิทดีแล้วก็ทำการลงแล็กเกอร์เคลือบผิว ปล่อยทิ้งให้แห้ง เป็นอันเสร็จขั้นตอน
ใครสนใจ งานประดิษฐ์จากกะลามะพร้าว ของเดชา ติดต่อได้ที่ เลขที่ 57 หมู่ 10 ต.บางยอ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โทร.08-6076-1638 ส่วนใครที่สนใจอยากจะฝึกหัดทำ หรืออยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามกับเจ้าของงานได้โดยตรง.
ที่มา : เดลินิวส์
ร่มกระดาษจิ๋ว ลดไซส์ รายได้สวย!
ประดิษฐ์-งานฝีมือ อย่างเจ้าของงานฝีมือรายนี้ แม้จะยึดอาชีพนี้มาเกือบ 30 ปี แต่ก็ยังขายงานได้เรื่อย ๆ แม้ในยามเศรษฐกิจตกสะเก็ด เหตุเพราะรู้จักพัฒนาผลงานไม่ให้ย่ำอยู่กับที่ จนมี ช่องทางทำกิน ด้วยอาชีพทำ ร่มกระดาษ ขาย อย่างต่อเนื่อง

พลิกแพลง-ดัดแปลง เป็นคาถาศักดิ์สิทธ์สำหรับคนทำงานประดิษฐ์-งาน ฝีมือ อย่างเจ้าของงานฝีมือรายนี้ แม้จะยึดอาชีพนี้มาเกือบ 30 ปี แต่ก็ยังขายงานได้เรื่อย ๆ แม้ในยามเศรษฐกิจตกสะเก็ด เหตุเพราะรู้จักพัฒนาผลงานไม่ให้ย่ำอยู่กับที่ จนมี ช่องทางทำกิน ด้วยอาชีพทำ ร่มกระดาษ ขาย อย่างต่อเนื่อง

เจ้าของงานฝีมือรายนี้เคยทำงานเป็นพนักงานบริษัทมาก่อน โดยใช้เวลาว่างหาความรู้เกี่ยวกับงานประดิษฐ์กระดาษเนื่องจากสนใจและชอบเป็น พิเศษ หลังฝึกหัดอยู่นานจนเชี่ยวชาญเทคนิคการทำร่มกระดาษ ก็ทดลองทำออกจำหน่าย ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดี ต่อมาจึงลาออกจากงานประจำมาทำอาชีพนี้โดยตรง
เริ่มจากทำร่มกระดาษใหญ่ก่อน ต่อมาคิดว่าลูกค้าน่าจะอยากได้สินค้าขนาดเล็กลง เพื่อสะดวกในการซื้อ การพกพา และใช้เป็นของที่ระลึก จากนั้นก็พัฒนามาเรื่อย ๆ จนปัจจุบันนอกจากจะได้ลูกค้ากลุ่มของขวัญของที่ระลึกแล้ว ยังมีกลุ่มชอบสินค้ามงคล ซึ่งลูกค้าหลายรายซื้อไปเพราะถือเคล็ดว่า มีร่ม จะร่มเย็น

สินค้าของรำพึงในปัจจุบัน มีมากมายหลายแบบ ขึ้นอยู่กับกระดาษ แต่ขนาดหลัก ๆ จะมี 3 ขนาดคือ ขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20 นิ้ว, ขนาดกลาง เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 นิ้ว และขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้ว ส่วนราคาขาย หากเป็นร่มกระดาษเดี่ยว เริ่มตั้งแต่ 60-600 บาท, ร่มกระดาษชุด 250-650 บาท โดยราคาจะสูงหรือต่ำขึ้นกับส่วนประกอบ องค์ประกอบที่ใช้ในการตกแต่ง
ทุนเบื้องต้นสำหรับการทำร่มกระดาษแบบนี้ เจ้าของงานบอกว่า ใช้ไม่มาก อยู่ที่ประมาณ 2,000-5,000 บาท ขณะที่ทุนวัตถุดิบหรือทุนวัสดุในการทำ อยู่ที่ประมาณ 60% ของราคาขาย
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้
กระดาษอาร์ทผิวมัน, ไม้กลึง (สำหรับใช้ทำด้ามร่ม), ไม้จิ้มผลไม้ (สำหรับใช้ทำก้านร่ม), กรรไกร, คัทเตอร์, ไม้บรรทัด, กาวใส, เอ็นใส และเข็มสำหรับร้อยเอ็น โดยสามารถหาซื้อได้ทั่วไปขั้นตอนการทำ ร่มกระดาษจิ๋ว
เริ่มจากนำกระดาษที่เลือกลายไว้มาทำการวัดขนาดตามต้องการ โดยการเลือกกระดาษจะพิจารณาจากลายก่อน หากทำ ร่มกระดาษจิ๋ว แบบลายดาว ก็ต้องนำกระดาษที่เลือกไว้มาตีตารางตามสเกลหรือขนาดที่ด้านหลัง วัดให้แต่ละจุดห่างกันราว 1 มิลลิเมตร เพื่อให้เกิดช่องไฟระหว่างตัวร่มจากนั้นทำการตัดกระดาษตามตารางที่ได้วาดไว้ โดยการทำร่มกระดาษ 1 คันจะใช้กระดาษ (ขนาดมาตรฐานกระดาษห่อของขวัญ) ประมาณ 5-10 แผ่น เมื่อได้กระดาษเป็นแผ่น ๆ แล้ว ให้นำมาทำการพับทบเฉียงเข้าด้วยกัน โดยแต่ละแผ่นพับประมาณ 4 ทบ เมื่อพับได้ครบตามจำนวนที่ต้องการแล้ว นำมาทำการเจาะรู
ขั้นต่อไป ทำการเย็บเส้นเอ็นที่ด้านบนสุดของกระดาษ เพื่อร้อยกระดาษเข้ารวมกันเป็นตัวร่ม โดยขั้นตอนนี้จำเป็นต้องระมัดระวัง และต้องใช้ความชำนาญในการดึงเส้นเอ็น เพราะหากดึงแรง หรือดึงเบาไป จะทำให้ทรงของร่มไม่งุ้มโค้งได้รูปอย่างที่ต้องการ
ขั้นตอนการประกอบด้ามร่ม โดยทำการติดด้ามร่มด้วยการเสียบด้ามร่มที่ทำจากไม้กลึง โดยแทงจากด้านบนของร่มลงมา จากนั้นทำการอัดกาวใสด้านในของตัวร่ม ทิ้งไว้ให้แห้งสนิทโดยใช้เวลาประมาณ 1 วัน จากนั้นนำไม้จิ้มผลไม้ที่เตรียมไว้ ซึ่งผ่านขั้นตอนการเหลา และย้อมสีมาเรียบร้อยแล้ว มาติดบริเวณส่วนปลายด้านล่างของร่มด้วยกาวใสเพื่อทำเป็นก้านร่ม ทิ้งไว้ให้แห้ง เมื่อแห้งดีแล้วจึงนำมาประกอบเข้ากับวัสดุตกแต่งอื่น ๆ ตามไอเดีย เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำ “ร่มกระดาษจิ๋ว”
ประสบการณ์จากการทำอาชีพนี้มาเกือบ 30 ปี พูดได้เลยว่าถ้ามีไอเดีย มีความคิดสร้างสรรค์ ขยันพัฒนางานอยู่เรื่อย ๆ ได้ตังค์ใช้ต่อเนื่องแน่นอน เจ้าของงานประดิษฐ์ร่มกระดาษบอก
ใครสนใจผลงาน ร่มกระดาษ ของรำพึง ที่มีทั้งแบบจิ๋วและไม่จิ๋ว ติดต่อได้ที่ กลุ่มหัตถกรรมร่มกระดาษคันนายาว เลขที่ 53 ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพฯ โทร.08-3884-0765, 08-7996-2163 หรือใครสนใจอยากจะฝึกหัดทำ ก็ลองสอบถามกันได้โดยตรง
คู่มือลงทุน ร่มกระดาษจิ๋ว
ทุนเบื้องต้น 2,000-5,000 บาท
ทุนวัสดุ ประมาณ 60% ของราคา
รายได้ ราคาคันละ 60-650 บาท
แรงงาน 1 คนขึ้นไป
ตลาด แหล่งท่องเที่ยว, ร้านของที่ระลึก
จุดน่าสนใจ ลงทุนไม่สูง, ลูกค้ามีหลายกลุ่ม
ที่มา : เดลินิวส์
‘ตุ้มหูกะลา’ เพิ่มมูลค่าด้วย...งานเพนท์!!!
จิรายุ บัวชัย และ นิภาพร แซ่เฮ้ง เป็นเจ้าของชิ้นงาน ที่เปิดร้านจำหน่ายตุ้มหูกะลาอยู่ในตลาดนัดสวนจตุจักร โดยก่อนหน้าที่จะมายึดอาชีพผลิตงานฝีมือดังกล่าวนี้ ทั้งคู่เคยทำงานเป็นพนักงานบริษัท ก่อนจะลาออก และหันมาเปิดร้านจำหน่ายสินค้างานฝีมือ โดยระยะแรกเป็นการรับสินค้าคนอื่นมาจำหน่ายต่อ ก่อนที่จะมาผลิตชิ้นงานที่เป็นผลงานของตัวเองขึ้นในภายหลัง โดยหันมายึดอาชีพทำงานตุ้มหูจากกะลามะพร้าวที่ว่านี้มาได้ประมาณ 4-5 ปีแล้ว...
จิรายุ เล่าว่า เกิดไอเดียในการนำวัสดุธรรมชาติ อย่างเช่นกะลาที่ว่านี้มาพัฒนาเป็นสินค้างานฝีมือ หลังจากที่มีโอกาสได้พบเห็นงานฝีมือหลายชนิดที่ผลิตจากวัสดุที่ว่านี้ โดยหลังจากหาข้อมูล รวมทั้งทดลองฝึกหัดทำจนมีความชำนาญมากขึ้น จึงเริ่มผลิตงานตุ้มหูกะลาเพื่อจำหน่าย โดยนอกจากชิ้นงานที่ทำขึ้นมานั้น จะมีวางขายอยู่ที่ร้านในตลาดนัดสวนจตุจักร โครงการ 15 ซอย 10/2 ห้อง 026 แล้ว ก็ยังทำการเปิดหน้าร้านออนไลน์ผ่านช่องทางอย่างเฟซบุ๊ก ในชื่อ www.facebook.com/pages/ตุ้มหูกะลาเพนท์-palakle ไว้ให้ลูกค้าใช้ติดต่อได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย
สำหรับงานตุ้มหูกะลาที่ทำขึ้นนั้น นอกจากจะมีจุดเด่นที่การนำเอาเรื่องของวัสดุธรรมชาติที่หาได้ง่าย และราคาไม่แพงมาใช้แล้ว ก็ยังมีจุดขายอยู่ที่การนำเอาเทคนิคลงสี และการวาดลาย ที่เรียกว่า การเพนท์ เข้ามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับชิ้นงานอีกด้วย เพื่อสร้างความโดดเด่น และช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า จนกลายเป็นสินค้าที่น่าสนใจอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
’สินค้าที่ทำนั้น นอกจากจะมีจุดขายอยู่ที่การ นำวัสดุธรรมชาติที่หาได้ง่ายมาใช้แล้ว ยังนำเอาเรื่องของการเพนท์ การลงสี และการวาดลายเข้ามาประกอบใช้ด้วย เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้กับชิ้นงาน และเพื่อให้ลูกค้าจำชิ้นงานได้ดียิ่งขึ้น“ จิรายุ กล่าว
ทุนเบื้องต้น ใช้เงินลงทุนประมาณ 50,000 บาท ทุนวัสดุ อยู่ที่ 60% จากราคา ซึ่งราคาขายอยู่ที่คู่ละ 35-50 บาท
วัสดุอุปกรณ์ ประกอบด้วย กะลา, สีอะคริลิก, พู่กัน, แล็กเกอร์, แป้นตุ้มหู, กาวร้อน, เครื่องฉลุลาย, เครื่องเจีย (สำหรับใช้ขัดผิวกะลา), และเครื่องเจาะ (สำหรับใช้เจาะกะลา) ทั้งนี้ วัสดุหลักอย่างกะลามะพร้าวนั้น จะใช้วิธีซื้อเหมาจากโรงงาน ส่วนแป้นตุ้มหูจะเน้นใช้แป้นพลาสติก เพื่อให้ลูกค้าที่แพ้วัสดุประเภทโลหะ ก็ยังสามารถสวมใส่ตุ้มหูได้
ขั้นตอนการทำ เริ่มจากการทำความสะอาดกะลา โดยใช้เครื่องเจียขัดด้านในกะลา เพื่อขจัดสิ่งสกปรกจำพวกขุยมะพร้าว และเนื้อมะพร้าว ที่ติดอยู่ในกะลาออกให้หมดเสียก่อน ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดฝุ่นผง ทั้งนี้ ไม่ควรนำกะลาไปล้างนํ้า เพราะถ้าผึ่งกะลาไม่แห้ง ความชื้นที่สะสมอาจทำให้เกิดเชื้อราขึ้นที่กะลามะพร้าวได้
เมื่อทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ให้นำกะลามาวางลงบนเครื่องเจาะ จากนั้นทำการ เจาะกะลาเพื่อขึ้นรูปทรงกลม เมื่อได้แล้วให้นำมาตัดด้วยเครื่องเจียเพื่อสร้างรูปทรงต่าง ๆ ให้กับตุ้มหู คือ รูปดาวห้าแฉก วงรี สามเหลี่ยม และรูปหยดนํ้า เสร็จแล้วนำตุ้มหูมาขัดด้วยเครื่องขัด ก่อนที่จะใช้กระดาษทรายทำการขัดอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้ได้ผิวที่เรียบมากขึ้น ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดฝุ่นผงอีกครั้ง
ขั้นตอนต่อไปเป็นการลงสีหรือการเพนท์ ให้ใช้พู่กันจุ่มสีอะครีลิก ทำการวาดลวดลายลงไปบนผิวของตุ้มหูกะลา ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นเคลือบเงาด้วยแล็กเกอร์ และนำแป้นตุ้มหูมาติดกับตุ้มหู เชื่อมให้ติดกันด้วยกาวร้อน ปล่อยทิ้งให้กาวแห้งสนิท ทำการสำรวจ ความเรียบร้อยของชิ้นงาน ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำงานตุ้มหูกะลาเพนท์
’ขั้นตอนมีไม่มาก แต่ต้องใจเย็น และต้องใช้ความประณีต เพราะวัสดุอย่างกะลา แม้จะดูแข็งแรง แต่หากตัดหรือเจาะไม่ดี หรือทำแรงไป ก็อาจจะเกิดความเสียหาย ทำให้ชิ้นงานแตกหัก ไม่สมบูรณ์ได้เช่นกัน“ จิรายุ กล่าว
สนใจงาน ’ตุ้มหูกะลา“ โทร. 08-9476-7247 หรือติดต่อได้ตามช่องทางของร้านดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ซึ่งงานตุ้มหูกะลาที่สร้างมูลค่าเพิ่มด้วยงานเพ้นท์นี้ก็เป็นอีกหนึ่งชิ้น งานเกี่ยวกับเครื่องประดับที่สามารถใช้เป็น ’ช่องทางทำกิน“ ได้อย่างน่าสนใจ...
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : เรื่อง / ภานุพงศ์ พนาวัน : ภาพ
credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/234577/‘ตุ้มหูกะลา’+เพิ่มมูลค่าด้วย...งานเพนท์!!!
‘กิ๊บโบแฮนด์เมด’ สีสันสดใสซื้อง่ายขายลื่น *
จริญญา สุขใจ และ วีรวุตต์ วิศาล เป็นผู้ที่ผลิตชิ้นงาน “กิ๊บโบติดผมแฮนด์เมด” ออกจำหน่าย สร้างรายได้ให้กับทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี โดยจริญญาเล่าว่า จริง ๆ แล้วทั้ง 2 คนก็ไม่ได้ยึดอาชีพค้าขายมาตั้งแต่ต้น แต่เริ่มจากการเป็นพนักงานประจำบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ทำงานอยู่ประมาณ 5-6 ปี พอมีลูกจริญญาก็ออกจากงานมาเลี้ยงลูกอยู่กับบ้าน โดยแฟนยังทำงานประจำอยู่ ซึ่งช่วงที่อยู่บ้านเลี้ยงลูกนั้นก็พยายามมองหาอาชีพเสริมเพื่อเป็นการหาราย ได้เพิ่ม ก็รับของพวกของกิฟต์ช็อปต่าง ๆ ไปขายตามตลาดนัดมหาวิทยาลัย ตระเวนขายไปเรื่อย ๆ ขายอยู่ได้ประมาณ 4-5 ปี ก็เริ่มมองว่างานที่รับมาขายนั้นจะเหมือนไปซ้ำกับเจ้าอื่น ๆ เยอะมาก เพราะเป็นงานที่รับมาขายเหมือนกัน จึงมองหาสินค้าใหม่ ๆ ที่ไม่ซ้ำกับใครเพื่อเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับตัวเอง จนที่สุดก็มาลงเอยที่การทำ “กิ๊บโบติดผมแฮนด์เมด”
งานกิ๊บโบติดผมนี้ เริ่มมาจากการที่มักจะทำให้ลูกใช้ติดอยู่แล้ว เดิมก็ไม่ได้คิดว่าจะมาทำเป็นสินค้าจำหน่าย แต่ลูกใช้ติดผมไปโรงเรียนแล้วมีผู้ปกครองหลายคนเห็นแล้วชอบ มาสั่งซื้อ ก็เลยทำขาย พอเห็นว่าขายได้จึงเริ่มทำออกมาจำหน่ายอย่างจริง ๆ จัง ๆ ซึ่งแรกเริ่มนั้นทำออกมาเพียงแค่ 10 ลาย และก็ไปขายตามตลาดนัดมหาวิทยาลัยเหมือนเดิม
หลังจากที่ทำออกจำหน่ายตามตลาดนัดได้ระยะหนึ่ง ตลาดก็เริ่มตัน กลุ่มลูกค้าไม่หลากหลาย จึงมีความคิดที่จะเริ่มมองหาตลาดใหม่ที่มีกลุ่มลูกค้าที่กว้างมากขึ้น จนได้มาขายอยู่ที่ตลาดนัดจตุจักร ซึ่งก็เป็นอย่างที่คิด ได้กลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ มากขึ้น ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ชอบงานจะเป็นชาวต่างชาติประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ อีก 20 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นคนไทย
จริญญากล่าวต่อว่า กิ๊บที่ทำออกมาจำหน่ายทุกชิ้นจะทำแบบตั้งใจ งานต้องเรียบร้อย แข็งแรง วัสดุที่นำมาใช้จะต้องใช้ที่มีคุณภาพซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาซื้อจะชอบทดลอง ดึงโบที่ติดดู ถ้าทำไม่แข็งแรงก็จะหลุด ลูกค้าก็ไม่มั่นใจในประสิทธิภาพของสินค้า นอกจากนี้การเลือกลวดลายผ้าและสีผ้าที่นำมาทำก็ต้องให้มีความหลากหลาย พยายามสังเกตว่าลูกค้าชอบสีสันไหน ถ้าลวดลายสีสันนั้น ๆ ขายออกได้เยอะก็ทำออกมาเยอะ ซึ่งส่วนใหญ่โบที่มีสีสันสดใสจะขายดีกว่าสีที่ดูจืด ซึ่งการขายกิ๊บโบแฮนด์เมดก็จะต้องพยายามนำสินค้ามาเติมหน้าร้านให้เต็มอยู่ ตลอด เพื่อให้ดูสะดุดตาลูกค้า
นอกเหนือจากนั้น ทางร้านยังสร้างจุดขายให้กับร้านเพิ่มเติมอีกโดยการนำเศษผ้าที่เหลือจากการ ทำโบมาเย็บติดทำเป็นหูหิ้วบนแพ็กเกจสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าหลาย ๆ ชิ้น และนอกจากจะมีกิ๊บติดผมเป็นสินค้าแล้วตอนนี้ก็ยังทำเป็นยางรัดผมเพิ่มขึ้นมา เป็นตัวเลือกให้กับลูกค้าอีกชิ้นงานหนึ่ง
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำกิ๊บโบติดผมแฮนด์เมด หลัก ๆ มีดังนี้คือ...กิ๊บติดผม, ผ้าคอตตอน 100%, ริบบิ้น (สายก้างปลา), ปืนยิงกาวร้อน, แท่งกาวร้อน, ด้าย, กรรไกร
สำหรับกิ๊บติดผมสำเร็จรูปนั้นไปหาซื้อได้ที่ตลาดสำเพ็ง ส่วนผ้านั้นหาซื้อได้ที่ตลาดพาหุรัด โดยต้องเลือกซื้อผ้าหลากหลายสีหลากหลายลวดลาย ซื้อลายละประมาณ 1 เมตร โดยผ้า 1 เมตรสามารถทำโบได้ประมาณ 50 ชิ้น ซึ่งการซื้อผ้านั้นจะต้องไปเลือกซื้อทุกสัปดาห์เพราะผ้านี้มักจะมีแบบมีลวด ลายใหม่ ๆ ออกมาเรื่อยอยู่ ๆ...
ขั้นตอนการทำเริ่มจาก...นำผ้ามาทำการรีดให้ผ้านั้นเรียบก่อน จากนั้นก็ทำการตัดผ้าตามขนาดที่ต้องการ โดยการตัดผ้าจะตัดครั้งเดียวทั้งหมด ผ้ามีกี่ชิ้นกี่ลายก็ต้องตัดเตรียมไว้
ทีเดียวก่อน ซึ่งจะตัดผ้าให้ได้ขนาดประมาณ กว้าง 12 ซม. ยาว 14 ซม. โดยเวลาพับเป็นโบออกมาแล้วจะได้โบขนาดความยาวประมาณ 7 ซม.
หลังจากที่ทำการตัดผ้าเตรียมไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการพับผ้าเป็นโบ จับจีบให้สวยงาม ใช้ด้ายมัดตรงกลางโบให้แน่น แล้วก็ใช้ริบบิ้นพันทับด้ายให้เรียบร้อย ใช้ปืนยิงกาวร้อนยิงยึดติดให้แน่นหนา โดยต้องใช้กาวให้พอดี ต้องไม่มากเกินไปเพราะจะทำให้งานออกมาดูไม่สวย พอทำโบเสร็จแล้วก็นำมายึดติดกับกิ๊บติดผม ยึดติดด้วยกาวให้แน่น เท่านี้ก็พร้อมวางจำหน่าย
ตอนนี้กิ๊บโบแฮนด์เมด และยางรัดผมโบแฮนด์เมด ของจริญญาและวีรวุตต์ มีหลากหลายสีสัน และหลากหลายลาย ราคาขายอยู่ที่ชิ้นละ 10 บาท แต่ถ้าใครสั่ง 100 ชิ้นขึ้นไปจะได้ในราคาส่งคือชิ้นละประมาณ 6 บาท
ใครสนใจ ’กิ๊บโบแฮนด์เมด“ และยางรัดผมโบที่เป็นงานแฮนด์เมด ซึ่งเป็นกรณีศึกษา ’ช่องทางทำกิน“ ในวันนี้ ร้านของจริญญาและวีรวุตต์ตั้งอยู่ที่ตลาดนัดจตุจักร ขายอยู่โซนทางเท้า จุดสังเกตคือร้านจะอยู่ตรงข้ามกับกรมการขนส่งฯ ขายทุกวันเสาร์-อาทิตย์ หรือใครต้องการสั่งออร์เดอร์ก็โทรศัพท์ไปพูดคุยสอบถามได้ที่ โทร. 08-7912-5760.
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน / วรพรรณ เลอสิทธิศักดิ์ : ภาพ
"ด็อกเตอร์ซองส์" เสริมสวยเมนูสะเต๊ะ-หมูปิ้ง ชูมาตรฐานโลก ปูพรมแฟรนไชส์

เมนูหมูสะเต๊ะและหมูปิ้ง ซึ่งคุ้นปากคนไทยเป็นอย่างดี ถูกหยิบมาแต่งตัวใหม่ในรูปแบบแฟรนไชส์ “ด็อกเตอร์ซองส์” (Dr.Song’s) โชว์จุดเด่นสะอาด และปลอดภัยผลิตในมาตรฐานระดับสากล ขณะที่วางระบบคุ้มคุณภาพตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ตั้งเป้ากระจาย 5,000 สาขาใน 2 ปี พร้อมอัดงบ 30 ลบ. แจ้งเกิดแบรนด์
ทั้งนี้ มองโอกาสขยายธุรกิจ เนื่องจากปัจจุบันมนุษย์เงินเดือนจำนวนมาก อยากมีอาชีพสองไว้เป็นรายได้เสริม หรืออยากมีธุรกิจของตัวเอง รวมถึง คนอีกจำนวนมากอยากลงทุนทำธุรกิจแทนที่เอาเงินไปฝากธนาคารซึ่งดอกเบี้ยต่ำมาก เมื่อจับความต้องการดังกล่าว ประกอบกับเห็นว่าบริษัทมีความพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ โรงงานผลิต เทคโนโลยี และบุคลากร จึงคิดขยายธุรกิจแฟรนไชส์หมูสะเต๊ะ และหมูปิ้ง ในชื่อ DR.Song’s
ยอดศักดิ์ ให้เหตุผลที่เลือกเมนูดังกล่าวมาทำแฟรนไชส์
อย่างไรก็ตาม แฟรนไชส์รูปแบบรถเข็นลงทุนไม่สูงนัก แทบทุกรายในประเทศไทย ล้วนเจอปัญหาคล้ายกันคือ ไม่สามารถดูแลคุณภาพให้เท่าเทียมกันได้ทั้งหมด
ประเด็นดังกล่าว ยอดศักดิ์ระบุว่ารับรู้อย่างดี และเตรียมแผนรองรับไว้แล้ว โดยแฟรนไชส์ Dr.Song’s จะใช้ระบบดูแลตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง กล่าวคือ 1.เข้มงวดคัดกรองผู้จะมาเป็นเครือข่ายธุรกิจ ต้อง มีความพร้อมในหลายๆ ด้าน เช่น วุฒิภาวะ การศึกษา และทุน อีกทั้ง ส่งเสริมให้เป็นผู้บริหารร้านว่าจ้างพนักงานขายแทนที่จะลงไปขายด้วยตัวเอง ซึ่งวิธีนี้จะช่วยกรอกผู้ลงทุนได้ระดับหนึ่ง
2.วัตถุดิบเกือบทั้งหมดต้องรับจากส่วนกลางเท่านั้น (ยกเว้นแตงกวา พริก และหอมแดง กับเนยใช้ทาระหว่างย่าง) ไม่ว่าจะเป็นหมูเสียบไม้ น้ำจิ้ม อาจาด ข้าวเหนียว ถุงหิ้ว และถ่านไม้ ซึ่งกฎดังกล่าวถือเป็นหัวใจของธุรกิจ เพราะวัตถุดิบทั้งหมดได้มาตรฐานส่งออก ผลิตในโรงงาน GMP , HACCP ฯลฯ โดยมีเครื่องหมายการค้าของบริษัทกำกับ ทำให้คุมคุณภาพสินค้าได้ง่าย ผู้ขายเพียงแค่แกะซอง แล้วอุ่นร้อนสามารถขายได้ทันที เช่น เนื้อหมูคัด เฉพาะเนื้อสันนอกกับสะโพกในส่วนที่ไม่มีมัน โดยเป็นหมูที่เลี้ยงในฟาร์มปิด นำมาหมักสำเร็จรูปด้วยซอสแล้วเสียบไม้ที่ฆ่าเชื้อ ซึ่งปลายไม้มีโลโก้ Dr.Song’s ติดไว้ป้องกันสินค้าเลียนแบบ แล้วบรรจุในซองของบริษัทอีกชั้นหนึ่ง สามารถเก็บในอุณหภูมิปกติได้ 6 เดือนถึง 1 ปี ผู้ขายจึงไม่ต้องกังวลการเน่าเสียหากขายไม่หมด
**แจงกติกาลงทุนธุรกิจ
เจ้าของธุรกิจ อธิบายถึงหลักเกณฑ์ในการลงทุน หากต้องการเฉพาะเมนูหมูสะเต๊ะ ลงทุน 25,000 บาท ได้รับเคาน์เตอร์ พร้อมอุปกรณ์เสริมพร้อมขาย เช่น ตู้แช่ เตาปิ้งที่ให้เลือกระหว่างเตาไฟฟ้า หรือเตาถ่าน (ตามความเหมาะสมของสถานที่ขาย) หากต้องการเสริมเมนูหมูปิ้งข้าวเหนียว เพิ่มเงินลงทุนอีก 10,000 บาทเป็น 35,000 บาท
ทั้งนี้ บริษัทจะส่งวัตถุดิบให้ สำหรับเมนูหมูสะเต๊ะ ชุดละ 45 บาท ประกอบด้วยหมู 10 ไม้ น้ำจิ้ม และอาจาด ส่วนหมูปิ้ง ชุดละ 50 บาท ประกอบด้วยหมู 10 ไม้และข้าวเหนียว กำหนดให้ขายปลีกที่ชุดละ 65 บาท และ70 บาทตามลำดับ ซึ่งราคานี้ ผู้ลงทุนจะมีกำไรประมาณ 1.78 บาทต่อไม้ ควรขายได้วันละไม่ต่ำกว่า 50 ชุด (500 ไม้) จะมีรายรับ 890 บาทต่อวัน หรือเดือนละ 26,700 บาท หลังหักค่าพนักงานและค่าเช่าสถานที่แล้ว จะเหลือกำไรสุทธิประมาณ 15,000-18,000 บาท สามารถคืนเงินลงทุนได้ภายใน 1-2 เดือน
**ตั้งเป้ากระจาย 5,000 สาขา
ยอดศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับราคาปลีกที่เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ไม้ละ 6.5-7 บาทนั้น จากการสำรวจตลาด ลูกค้าเป้าหมายยอมรับราคานี้ได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจในความสำเร็จ เบื้องต้นบริษัทจะเริ่มวางสาขาของตัวเองก่อนไว้เป็นร้านต้นแบบ จำนวน 20 จุด ในทำเลเป้าหมาย ได้แก่ ในศูนย์อาหารตามห้างสรรพสินค้า โรงเรียนเอกชน มหาวิทยาลัย ปั๊มน้ำมัน และย่านท่องเที่ยว กำหนดเปิดร้านพร้อมกันในวันที่ 1 สิงหาคม 2552
ทั้งนี้ วางเป้าว่า จะขยายสาขาทั้งหมด 5,000 จุดทั่วประเทศ ภายในเวลา 2 ปี ซึ่งจากที่บริษัทได้ทดสอบตลาดโดยออกงานแสดงสินค้า มีผู้สนใจยื่นความจำนงแล้วกว่า 500 จุด ซึ่งจะทยอยเปิดตามๆ กันไป และเพื่อให้ผู้ลงทุนทุกรายประสบความสำเร็จ บริษัทจะทำประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง ทั้งทางหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และวิทยุ ให้ผู้บริโภคได้รู้จักสินค้าและคุ้นเคยกับแบรนด์ สำรองงบส่วนนี้ไว้ที่ 30 ล้านบาทในระยะเวลา 2 ปี
ลงทุน
-เฉพาะเมนูหมูสะเต๊ะ ลงทุน 25,000 บาท หากเพิ่มเมนูหมูปิ้ง เป็น 35,000 บาท
-รับวัตถุดิบกึ่งสำเร็จแทบทั้งหมดจากส่วนกลาง ราคาส่งหมูสะเต๊ะชุดละ 45 บาท หมูปิ้งชุดละ 50 บาท
-ราคาขายปลีก หมูสะเต๊ะชุดละ 65 บาท หมูปิ้งชุดละ 70 บาท กำไรสุทธิเฉลี่ย 1.78 บาทต่อไม้
ข้อดี
-บริษัทแม่มีพื้นฐานพร้อม ทั้งด้านการผลิต และการตลาด
-มีระบบช่วยเหลือผู้ลงทุน เช่น จัดอบรมพนักงานขาย ทีมที่ปรึกษาพิจารณาทำเล สำรองงบ ประชาสัมพันธ์ 30 ล้านบาทในระยะเวลา 2 ปี เป็นต้น
ข้อพึ่งระวัง
-ยังไม่มีร้านต้นแบบ ทำให้ประเมินปัจจัยเสี่ยง หรืออัตราล้มเหลวได้ยาก
-ในอนาคตอาจเกิดโรคระบาดใหม่ที่มาจากสัตว์ กระทบความเชื่อมั่นผู้บริโภค

MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก