ผู้เป็นแม่ที่ต้องหารายได้เลี้ยงครอบครัวสู้ทำทุกอย่างเพื่อให้มีราย ได้ ด้วยการรับรองเท้ามาจำหน่ายต่อ แต่เมื่อธุรกิจประสบภาวะขาดทุนจำเป็นต้องเลิกกิจการ คิดหาอาชีพอื่นมาทดแทน ซึ่งผู้เป็นลูกชาย “วิทวัส ภูบาลเพ็ชร” หรือ เบส เห็นความขยันขันแข็งของผู้เป็นมารดา “เรณู จีนชัย” มาตลอด | ||||
จนกระทั่งเรณู เลือกหยิบจับเศษผ้าที่เหลือจากทำตุ๊กตามมาเพิ่มมูลค่าด้วยการนำมาทำเป็นพรม เช็ดเท้า ออกแบบลวดลายที่ถูกจำกัดด้วยลายผ้าที่ไม่รู้ว่าในแต่ละวันจะได้ผ้าลายอะไรมา บ้าง ส่งผลให้ในช่วงแรกที่ทำพรมเช็ดเท้ายังไม่ถูกใจลูกค้ามากนัก รวมถึงไม่มีความแตกต่างจากพรมเช็ดเท้าทั่วไป มีเพียงความนิ่ม และคุณสมบัติการซับน้ำได้ดีของผ้าสำหรับทำตุ๊กตาเท่านั้น | ||||
“ด้วยความที่คุณแม่มี ความรู้เรื่องการเย็บผ้าอยู่บ้าง เมื่อเห็นเศษที่เหลือจากการทำตุ๊กตาก็รับซื้อมาและทำเศษผ้าเหล่านั้นมาปะ โน่นแต่งนี่ กลายเป็นพรมเช็ดเท้าหลากสีสันไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละผืน แต่ด้วยข้อจำกัดของลายผ้าที่เราไม่สามารถกำหนดหรือเลือกลวดลายได้ทำบางครั้ง พรมเช็ดเท้าที่ทำออกไม่สวยตามที่เราต้องการ หลังจากนั้น 1 ปี ผมกับแม่ก็ตัดสินใจเลือกซื้อผ้าเอง แต่ยังเน้นไปที่ผ้าสำหรับทำตุ๊กตาเช่นเดิมด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวคือความนิ่ม และซึมซับน้ำได้ดี” ผู้เป็นลูกชายย้อนที่มาธุรกิจพรมเช็ดเท้าแฟนซี | ||||
เมื่อมีโอกาสได้เลือกซื้อผ้าเอง นั่นคือก้าวแรกของการนำไปสู่ธุรกิจ “พรมเช็ดเท้าแฟนซี” ของ สองแม่ลูก ที่มีการตัดเย็บเป็นตัวการ์ตูนน่ารัก โดยช่วงแรกเป็นพรมเช็ดเท้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ต่อมาพัฒนาเป็นรูปทรงหน้าตัวสัตว์ต่างๆ เช่น หมู ไดโนเสาร์ ลิง และหมี เป็นต้น โดยได้รับการอุดหนุนสินค้าเป็นอย่างดีจนผลิตขายแทบไม่ทัน | ||||
“การที่เราเลือกซื้อผ้าเองทำให้สามารถเลือกสีสัน และลวดลายที่จะนำมาทำเป็นพรมเช็ดเท้าได้โดยสามารถกำหนดลวดลายตามที่ต้องการ ได้ ซึ่งลูกชาย (เบส) จะช่วยดูในเรื่องแบบต่างๆ บางครั้งได้ไอเดียจากรูปต่างๆ ทางอินเทอร์เน็ต ก็นำมาปรับเปลี่ยนต่อยอดให้ออกมาเป็นลายน่ารักที่คิดว่าตรงกับกลุ่มลูกค้า เป้าหมายที่ส่วนใหญ่เป็นคนวัยทำงาน” | ||||
ปัจจุบันพรมเช็ดเท้าแฟนซีที่ เบส บอกว่า ไม่ได้จำกัดการนำไปใช้ประโยชน์เป็นพรมเช็ดเท้าได้เท่านั้น แต่กลายเป็นผ้าสารพัดประโยชน์ ที่ลูกค้าที่ซื้อสินค้าไปและกลับมาบอกกล่าวว่าตนเองนำไปใช้ประโยชน์ในด้าน อื่นๆ ด้วย เช่น นำไปทำเป็นเบาะรองนั่ง, ที่รองคีร์บอร์ด หรือเป็นผ้าปูสำหรับให้น้องหมา หรือแมวนอน เนื่องจากคุณสมบัติของผ้าสำหรับทำตุ๊กตาที่มีความนิ่มมาก ซักแล้วสีไม่ตก แห้งไว ไม่เป็นฝุ่นง่าย และไม่มีขนจากผ้าที่จะทำให้เกิดภูมิแพ้ได้ ประกอบกับการออกแบบลวดลายการ์ตูนน่ารัก ที่ลูกค้าหลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า 'เสียดายหากต้องนำไปทำเป็นพรมเช็ดเท้า ขอนำไปใช้งานอย่างอื่นก่อน เมื่อเก่าก็ยังสามารถนำไปทำเป็นพรมเช็ดเท้าได้' | ||||
สำหรับขั้นตอนการทำนั้นส่วนใหญ่เป็นงานแฮนด์เมดที่ผู้เป็นแม่ทำแพ ทเทิร์น และตัดเองกับมือแทบทุกชิ้น โดยเฉพาะพรมขนาด XL ที่ต้องใช้ความชำนาญในการตัดขึ้นรูป ซึ่งเสี่ยงต่อการเสียหายมากที่สุด ส่วนขนาดรองลงมาเบส ลูกชายจะช่วยตัดให้บ้าง แต่ก็ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ เพราะกำลังศึกษาในระดับอุดมศึกษา ทางที่จะช่วยมารดาแบ่งเบาธุรกิจนี้ได้ คือ การช่วยขายสินค้าผ่านทางเว็บไซต์ที่ทำขึ้นเองเท่านั้น | ||||
ขณะนี้พรมเช็ดเท้าแฟนซี มีให้เลือก 4 ขนาด ได้แก่ ขนาด XL (ขายดีที่สุด) ราคา 259 บาท, ขนาด L ราคา 159 บาท, ขนาด M ราคา 69 บาท และขนาด S เพียง 10 บาทเท่านั้น เหมาะ สำหรับนำไปทำที่รองแก้ว หรือรองแจกันขนาดเล็กได้ ซึ่งที่ผ่านมามีทั้งลูกค้าที่ซื้อปลีกและส่งในสัดส่วนไม่ต่างกันมากนัก โดยผู้ที่ซื้อไปจำหน่ายต่อมีทั้งแม่ค้าทั่วไป และนักศึกษาที่ต้องการหารายได้เสริม ทางร้านก็จะคิดในราคาขายส่งให้แต่ต้องสั่งจำนวนขั้นต่ำ 100 ผืนขึ้นไป | ||||
ส่วนแผนธุรกิจในอนาคตสองแม่ลูก บอกว่า จะหาตัวแทนจำหน่ายตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อให้สินค้าเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว และเมื่อตลาดในประเทศแข็งแกร่งจะส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ที่คาดว่าน่าจะตรงตามความต้องการของตลาด เพราะเป็นสินค้าที่ต้องใช้ทุกบ้าน ประกอบกับลวดลายการ์ตูนน่ารักสดใส จึงน่าจะเข้าถึงลูกค้าในประเทศเพื่อนบ้านได้ไม่ยาก | ||||
***สนใจติดต่อ08-0082-1280 หรือที่ www.พรมเช็ดเท้า.com*** |
credit : โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
Read More...