“บุฟเฟ่ต์ผลไม้” ถือเป็นธุรกิจหนึ่งที่น่าสนใจใช้เป็น “ช่องทางทำกิน”
ในการ “เพิ่มมูลค่า-ช่วยระบายผลผลิต”
ให้กับผู้ประกอบการทำสวนผลไม้ได้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะในช่วงที่ผลผลิตออกมามาก จนทำให้ราคาตก
นี่ก็ถือว่าเป็นแนวทางหนึ่งที่เกษตรกรสวนผลไม้น่าจะนำมาปรับใช้
ที่วันนี้คอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” นำมาให้พิจารณา...
ทั้งนี้ ทีมงานคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” ได้เข้าไปศึกษาแนวทาง
“บุฟเฟ่ต์ผลไม้” ที่ “สวนประสมทรัพย์” ในพื้นที่ จ.ระยอง นำโดย
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อดูวิธีสร้าง
“ช่องทางการตลาด” ของเกษตรกรเจ้าของสวนผลไม้รายนี้ โดย ประจวบ จำเนียรศรี
เจ้าของสวนเล่าว่า ไม่ได้เป็นเกษตรกรมาตั้งแต่เริ่มแรก
แต่ทำอาชีพค้าขายเสื้อผ้ากับรองเท้ามาก่อน ต่อมาเกิดจุดเปลี่ยนในชีวิต
เมื่อนำเงินทุนที่มีอยู่และเงินออมที่ได้เก็บสะสมไว้ไปลงทุนเล่นแชร์เจ้า
หนึ่งที่เคยโด่งดัง และตกเป็นข่าวครึกโครมในอดีต สุดท้ายแชร์วงดังกล่าวล้ม
ทำให้ต้องกลายเป็นคนมีหนี้สิ้นล้นตัว
จนต้องขายทรัพย์สินที่มีอยู่เพื่อมาใช้หนี้
หลังจากนั้นจึงได้เดินทางมาที่นี่เพื่อตั้งหลักใหม่ พร้อมเงินติดตัวมาเพียง
12,000 บาท โดยเริ่มจากอาชีพขายผลไม้
ต่อมาเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งจึงมีความคิดที่จะทำสวนผลไม้ของตนเอง
จึงนำเงินก้อนดังกล่าวบวกกับเงินกู้จาก ธ.ก.ส. นำมาซื้อที่ดินจำนวน 3 ไร่
และเริ่มชีวิตชาวสวนในปี 2532 หลังจากนั้นก็ยึดอาชีพทำสวนผลไม้นี้เรื่อยมา
และก็ได้ขยายสวนออกไปเพิ่มเติม จนปัจจุบันสวนผลไม้ของเขามีพื้นที่ราว 20
ไร่
“ที่สวนปลูกไม้ผลหลายชนิด อาทิ มังคุด ลองกอง ทุเรียน เงาะ กระท้อน
มะยงชิด โดยเน้นการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ ปลอดสารพิษ
เพื่อให้เป็นจุดขายของที่สวน สารสกัดชีวภาพ ปุ๋ยชีวภาพก็ทำขึ้นใช้เอง
ซึ่งปลอดภัยและยังประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
นอกจากผลไม้ที่เป็นรายได้หลักของสวนแล้ว
ก็ยังมีผักสวนครัวที่ปลูกไว้เพื่อใช้เป็นรายได้หมุนเวียน
เพราะผักสวนครัวนั้นสามารถเก็บขายได้ทุกวัน”
...นี่เป็นวิธีบริหารจัดการจากเจ้าของสวนผลไม้รายนี้ ซึ่งถ้าทำแบบนี้ได้
สามารถใช้เป็น “ช่องทางทำกิน” ได้ไม่มีวันจน...
จุดน่าสนใจของสวนแห่งนี้ คือ “บุฟเฟ่ต์ผลไม้” โดยเจ้าของสวน เล่าว่า...
“คิดว่าต้องหาวิธีใหม่ เพราะสวนผลไม้นั้น
เมื่อผลผลิตออกมามากหรือออกมาพร้อมกัน ทำให้ขายยากและราคาก็ตก
จึงต้องปรับกลยุทธ์ด้วยการเปิดสวนผลไม้ให้คนเข้ามาชิมผลไม้สด ๆ จากในสวน
ซึ่งปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีจากนักท่องเที่ยว จึงทำมาโดยตลอด”
ในการทำบุฟเฟ่ต์ผลไม้นั้น ประจวบได้นำพื้นที่เพาะปลูกผลไม้ จำนวน 9 ไร่
ที่เป็นสวนผลไม้มาเปิดให้บริการนักท่องเที่ยว โดยเน้นรูปแบบ
“การท่องเที่ยวเชิงเกษตร”
โดยช่วงเวลาเปิดบุฟเฟ่ต์ผลไม้ของทางสวนจะเริ่มตั้งแต่ช่วงผลไม้ออกตามฤดู
กาล...โดยส่วนใหญ่จะเปิดสวนบริการบุฟเฟ่ต์ผลไม้แต่ละครั้งอยู่ที่ปีละ 3
เดือน...
“ปีนี้ฤดูเปลี่ยน ผลไม้ออกช้า จึงเปิดในช่วงพ.ค.-ก.ค.
หรือตามสภาพความเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะเร็วหรือช้าจากนี้ก็แล้วแต่
ในฐานะคนที่ทำสวนผลไม้ให้บริการบุฟเฟ่ต์ผลไม้ก็ต้องเตรียมตัวไว้ให้พร้อม
เสมอ” …นี่ก็เป็นอีกคำแนะนำหนึ่งจากเจ้าของสวนผมไม้รายนี้
“สถานที่-สวนผลไม้” สำหรับการทำบุฟเฟ่ต์ผลไม้นั้น “ต้องมีความพร้อม”
ในเรื่องสถานที่ก่อนเป็นสิ่งแรก โดยควรจะมีการจัดแบ่งพื้นที่ต่าง ๆ
ไว้เป็นสัดส่วนเฉพาะ อาทิ อาคารรองรับนักท่องเที่ยวสำหรับใช้นั่งทานผลไม้,
ร้านขายผลไม้สด, มุมจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูป รวมถึงซุ้มของฝาก-ของที่ระลึก
นอกจากนั้นก็ควรจะจัด “มุมถ่ายรูป” ไว้ให้นักท่องเที่ยว หรือเปิดบริการ
“ที่พักค้างคืน” ในรูปโฮมสเตย์ เพื่อเสริมรายได้อีกทางหนึ่งด้วยก็จะยิ่งดี
ซึ่งนี่ก็เป็นแนวทาง เป็น “ช่องทางทำกิน” ที่สวนแห่งนี้ทำอยู่
และนอกจากในเรื่องสถานที่ การบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ
ที่จะต้องพร้อมแล้ว ในเรื่องการจัด “กิจกรรมท่องเที่ยว” ก็เป็นอีกเรื่องที่
“ธุรกิจบุฟเฟ่ต์ผลไม้” สามารถนำมาพิจารณาปรับใช้ โดยที่สวนแห่งนี้
นอกจากมีกิจกรรมบุฟเฟ่ต์ผลไม้ก็ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้
“วิถีเกษตร” เช่น สาธิตการทำปุ๋ยหมัก ทำน้ำหมักชีวภาพ เป็นต้น
“ค่าบริการบุฟเฟ่ต์ผลไม้” ที่สวนประสมทรัพย์ มีราคาอยู่ที่คนละ 200 บาท
แต่ถ้าหากต้องการรับประทานอาหารกลางวันด้วยก็เพิ่มเงินอีกคนละ 100 บาท
รวมเป็น 300 บาทต่อคน ทั้งนี้ เมื่อนำมาคิดเฉลี่ยรายได้จาก
“ค่าหัวบุฟเฟ่ต์ผลไม้” แล้วนั้น จะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 30 บาทต่อคน...
“การเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามานั้น ควรมีการจำกัดจำนวนไว้บ้างด้วย
เพราะถ้าหากรับเยอะเกินไป อาจทำให้ประสบปัญหาในการให้บริการที่ไม่ทั่วถึง
รวมถึงอาจจะทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกอึดอัด เนื่องจากมีคนแน่นสวนเกินไป
ทั้งนี้ที่สวนจะรับนักท่องเที่ยวไม่เกิน 250 คนต่อวัน
เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องบริการ
และยังสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย”
...เจ้าของสวนประสมทรัพย์กล่าว
คนที่สนใจสามารถไปแวะชิมได้ที่ สวนประสมทรัพย์ (08-1377-3056)
ตั้งอยู่เลขที่ 108/7 หมู่ 5 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ทั้งนี้
“บุฟเฟ่ต์ผลไม้” ที่มีจุดขายอยู่ที่ “ความสด”
ก็นับว่าเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถนำมาเป็น “ช่องทางทำกิน”
ได้อีกแนวทางหนึ่ง ไม่เฉพาะแต่กับสวนผลไม้สวนอื่น ๆ ก็ทำได้...
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน
..................................................................................
คู่มือลงทุน...บุฟเฟ่ต์ผลไม้
ทุนเบื้องต้น ขึ้นอยู่กับขนาดของสวนผลไม้
ทุนวัตถุดิบ 270 บาทต่อคน
รายได้ 300 บาทต่อคน
แรงงาน 1 คนขึ้นไป
ตลาด นักท่องเที่ยว
จุดน่าสนใจ ระบายผลผลิต เพิ่มมูลค่า
credit by :
http://www.dailynews.co.th/Content/Article/246453/‘บุฟเฟ่ต์ผลไม้’+ไอเดียเปิดสวนทำเงิน
Read More...