Two Hand Shop คลังเสื้อผ้ามือ 2 ใหญ่สุดในกรุงเทพฯ แบรนด์เนมนำเข้าจากญี่ปุ่น ไม่ผ่านตลาดโรงเกลือ
ไม่ว่าเศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะขาขึ้นหรือลง ธุรกิจที่เกี่ยวกับเสื้อผ้าความสวยความงามก็ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยหากมองในแง่ของความเสี่ยงทางธุรกิจแล้วนั้น ธุรกิจเสื้อผ้าถือว่ามีอัตราความเสี่ยงที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ ทั้งนี้เพราะผู้หญิงไทยกับการช้อปปิ้งเป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไร พร้อมกันนี้เสื้อผ้าไม่มีวันหมดอายุ เงินที่ลงทุนไปไม่มีทางเสียเปล่าอย่างเด็ดขาด เพียงแต่ว่าจะได้กำไรมากน้อยแค่ไหน อยู่ที่ไอเดียการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้แก่เสื้อผ้านั้นๆ และที่สำคัญคือต้องรู้จักหาแหล่งขายส่งเสื้อผ้าที่มีคุณภาพในราคาที่สมเหตุ สมผล
เสื้อผ้าคุณภาพเยี่ยม สั่งตรงจากญี่ปุ่น
คุณพิมพ์นิศา ฉัตรเอกเจริญ หรือ คุณอุ๋ย เจ้าของกิจการ Two Hand Shop เผยถึงที่มาของการทำธุรกิจขายส่งเสื้อผ้ามือ 2 สไตล์ญี่ปุ่นชื่อดังนี้ว่า โดยปกติเป็นคนที่ชอบช้อปปิ้ง ชอบแต่งตัวอยู่แล้ว จากจุดนี้เองก็กลับมามองว่าจริงแล้วผู้หญิงทุกคนชอบช้อปปิ้ง ชอบแต่งตัว เพราะไม่มีใครไม่อยากสวย ดังนั้นหากเข้ามาทำธุรกิจขายเสื้อผ้า น่าจะมีโอกาสเติบโตไปได้ดี
ฉะนั้นจึงเริ่มศึกษาธุรกิจเสื้อผ้าโดยเน้นไปที่รูปแบบการขายส่ง โดยเริ่มต้นทำธุรกิจของตนเองด้วยการขายส่งเสื้อผ้าสไตล์ญี่ปุ่นเกรดเอ บนสื่ออินเทอร์เน็ตก่อน โดยในตอนนั้นมีลูกค้าให้ความสนใจมาก จากเดิมที่ขายได้วันละ 1-2 กระสอบ ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ เพราะด้วยคุณภาพของเสื้อผ้าที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นโดยตรง และขายส่งในราคาที่ไม่แพง ทำให้มีลูกค้าขาประจำมากมาย
คุณพิมพ์นิศา ฉัตรเอกเจริญ (คุณอุ๋ย) เมื่อธุรกิจได้รับการตอบรับที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จึงเกิดแนวคิดในการทำธุรกิจขายส่งเสื้อผ้าสไตล์ญี่ปุ่นอย่างจริงจัง ด้วยการเปิด Two Hand Shop ธุรกิจค้าส่งเสื้อผ้าสไตล์ญี่ปุ่นมือ 2 คัดเกรด ขึ้นมาเมื่อปีที่แล้ว จนถึงวันนี้อาจกล่าวได้ว่า Two Hand Shop ถือเป็นคลังที่รวมเสื้อผ้าญี่ปุ่นมือ 2 ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ “คุณพิมพ์นิศา” กล่าวถึงประเด็นสำคัญที่ทำให้ Two Hand Shop เติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็วนั้นมีเหตุผลสนับสนุนหลายประการ คือนอกจากเรื่องของคุณภาพสินค้าที่ดีสมกับราคาแล้ว ความหลากหลายของสินค้าก็เป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้า จากทาง Two Hand Shop
โดยปัจจุบัน Two Hand Shop มีสินค้าจำหน่ายมากมาย ทั้งเสื้อผ้าผู้ชาย, เสื้อผ้าผู้ผญิง, เสื้อผ้าเด็ก, เสื้อชุดแซก, เสื้อยีน, ตุ๊กตา, กระเป๋า ฯลฯ ซึ่งเพียงแค่ลูกค้าแจ้งความประสงค์ว่าต้องการซื้อเหมายกกระสอบเสื้อผ้า ประเภทไหน ทางร้านก็พร้อมจัดเตรียมไว้ให้อย่างเรียบร้อย โดยลูกค้าสามารถมารับที่คลังสินค้าที่ตั้งอยู่บริเวณ ถ. เจริญกรุง ซอย 69 สำหรับลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัดทาง ทาง Two Hand Shop ก็มีบริการจัดส่งไปทาง ขสมก. หรือ บขส. ซึ่งจะใช้เวลาขนส่งประมาณ 1 วัน ทั่วประเทศ
ทั้งนี้เพราะยึดหลักการทำธุรกิจด้วยความโปร่งใส และซื่อสัตย์เป็นหลัก “คุณพิมพ์นิศา” เปิดใจว่าก่อนทำการซื้อขายในแต่ละครั้ง จะทำการพูดคุยและให้ลูกค้าเข้าใจถึงรูปแบบการทำธุรกิจของ Two Hand Shop ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาโดยภายหลัง
โดยรูปแบบการทำธุรกิจของ Two Hand Shop คือการขายส่งเสื้อผ้าแบบยกเหมาทั้งกระสอบ หรือชั่งขายเป็นกิโลขั้นต่ำอยู่ที่ 25 กิโลกรัมเท่านั้น โดยประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับคือสินค้าราคาถูก โดยภายในหนึ่งกระสอบก็จะเป็นเสื้อผ้าในกลุ่มเดียวกัน อาทิ ภายในหนึ่งกระสอบนั้นจะเป็นเสื้อผ้าเด็กทั้งหมด หรือทั้งกระสอบจะเป็นชุดแซกทั้งหมด ไม่มีการคละแบบแต่อย่างใด ดังนั้นก่อนซื้อลูกค้าต้องแจ้งความจำนงค์ก่อนว่าต้องการซื้อเสื้อผ้าแนวไหน พร้อมกันนี้ต้องเข้าใจว่าภายในหนึ่งกระสอบจะมีเสื้อผ้าทั้งที่เป็นหัวผ้า (คือเสื้อผ้าคุณภาพดี ดีไซส์สวย) และปลายผ้า(คุณภาพอาจไม่ 100%) ซึ่งในส่วนของปลายผ้า อาจจะต้องนำมาตกแต่งดีไซน์เพิ่ม เพื่อที่จะได้นำมาขายได้ราคาที่ดี เหล่านี้เป็นต้น
ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ ได้กำไรดีหลายเท่า
สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้าจากทาง Two Hand Shop นั้น “คุณพิมพ์นิศา” กล่าวว่าไม่ต้องมีเงินค่าแฟรนไชส์แต่อย่างใดทั้งสิ้น โดยปัจจุบันได้มีการแบ่งรูปแบบการลงทุนหลายประเภทเพื่อให้สอดรับกับความต้อง การของลูกค้าที่แตกต่างกันไป ซึ่งมีทั้งที่ต้องซื้อแล้วนำไปเปิดร้านขายปลีกธรรดา ไปจนถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อไปเพื่อไปทำธุรกิจในรูปแบบของค้าส่งอีกต่อ หนึ่ง ดังนั้นจึงได้มีการแบ่งการลงทุนดังนี้
1. ซื้อยกกระสอบ (1 กระสอบ หนัก 100 กิโลกรัม)
ไม่ว่าเศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะขาขึ้นหรือลง ธุรกิจที่เกี่ยวกับเสื้อผ้าความสวยความงามก็ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยหากมองในแง่ของความเสี่ยงทางธุรกิจแล้วนั้น ธุรกิจเสื้อผ้าถือว่ามีอัตราความเสี่ยงที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ ทั้งนี้เพราะผู้หญิงไทยกับการช้อปปิ้งเป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไร พร้อมกันนี้เสื้อผ้าไม่มีวันหมดอายุ เงินที่ลงทุนไปไม่มีทางเสียเปล่าอย่างเด็ดขาด เพียงแต่ว่าจะได้กำไรมากน้อยแค่ไหน อยู่ที่ไอเดียการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้แก่เสื้อผ้านั้นๆ และที่สำคัญคือต้องรู้จักหาแหล่งขายส่งเสื้อผ้าที่มีคุณภาพในราคาที่สมเหตุ สมผล
และเมื่อนึกถึงแหล่งขายส่งเสื้อผ้ามือ 2 แล้วชื่อดัง คงต้องการกล่าวถึง Two Hand Shop (ทู แฮนด์ ช้อป) เพราะเป็นคลังสินค้าศูนย์รวมเสื้อผ้าสไตล์ญี่ปุ่นมือ 2 เกรด A ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ โดยเสื้อผ้าที่ทางร้านขายส่งแบบยกกระสอบนี้ เป็นสินค้าที่สั่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะ โดยไม่มีการผ่านโรงเกลือแต่อย่างใดทั้งสิ้น และพร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศ ดังนั้นเสื้อผ้าของทาง Two Hand Shop จึงนับได้ว่าเป็นสินค้าเกรดดี ที่ผ่านการคัดสรรมาแล้วในระดับหนึ่ง ฉะนั้นผู้ซื้อจึงมั่นใจได้ว่าเสื้อผ้าจากทาง Two Hand Shop นั้นสามารถนำไปจำหน่ายค้าปลีกได้กำไรสูงหลายเท่าตัว
เสื้อผ้าคุณภาพเยี่ยม สั่งตรงจากญี่ปุ่น
คุณพิมพ์นิศา ฉัตรเอกเจริญ หรือ คุณอุ๋ย เจ้าของกิจการ Two Hand Shop เผยถึงที่มาของการทำธุรกิจขายส่งเสื้อผ้ามือ 2 สไตล์ญี่ปุ่นชื่อดังนี้ว่า โดยปกติเป็นคนที่ชอบช้อปปิ้ง ชอบแต่งตัวอยู่แล้ว จากจุดนี้เองก็กลับมามองว่าจริงแล้วผู้หญิงทุกคนชอบช้อปปิ้ง ชอบแต่งตัว เพราะไม่มีใครไม่อยากสวย ดังนั้นหากเข้ามาทำธุรกิจขายเสื้อผ้า น่าจะมีโอกาสเติบโตไปได้ดี
ฉะนั้นจึงเริ่มศึกษาธุรกิจเสื้อผ้าโดยเน้นไปที่รูปแบบการขายส่ง โดยเริ่มต้นทำธุรกิจของตนเองด้วยการขายส่งเสื้อผ้าสไตล์ญี่ปุ่นเกรดเอ บนสื่ออินเทอร์เน็ตก่อน โดยในตอนนั้นมีลูกค้าให้ความสนใจมาก จากเดิมที่ขายได้วันละ 1-2 กระสอบ ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ เพราะด้วยคุณภาพของเสื้อผ้าที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นโดยตรง และขายส่งในราคาที่ไม่แพง ทำให้มีลูกค้าขาประจำมากมาย
คุณพิมพ์นิศา ฉัตรเอกเจริญ (คุณอุ๋ย)
โดยปัจจุบัน Two Hand Shop มีสินค้าจำหน่ายมากมาย ทั้งเสื้อผ้าผู้ชาย, เสื้อผ้าผู้ผญิง, เสื้อผ้าเด็ก, เสื้อชุดแซก, เสื้อยีน, ตุ๊กตา, กระเป๋า ฯลฯ ซึ่งเพียงแค่ลูกค้าแจ้งความประสงค์ว่าต้องการซื้อเหมายกกระสอบเสื้อผ้า ประเภทไหน ทางร้านก็พร้อมจัดเตรียมไว้ให้อย่างเรียบร้อย โดยลูกค้าสามารถมารับที่คลังสินค้าที่ตั้งอยู่บริเวณ ถ. เจริญกรุง ซอย 69 สำหรับลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัดทาง ทาง Two Hand Shop ก็มีบริการจัดส่งไปทาง ขสมก. หรือ บขส. ซึ่งจะใช้เวลาขนส่งประมาณ 1 วัน ทั่วประเทศ
ทั้งนี้เพราะยึดหลักการทำธุรกิจด้วยความโปร่งใส และซื่อสัตย์เป็นหลัก “คุณพิมพ์นิศา” เปิดใจว่าก่อนทำการซื้อขายในแต่ละครั้ง จะทำการพูดคุยและให้ลูกค้าเข้าใจถึงรูปแบบการทำธุรกิจของ Two Hand Shop ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาโดยภายหลัง
โดยรูปแบบการทำธุรกิจของ Two Hand Shop คือการขายส่งเสื้อผ้าแบบยกเหมาทั้งกระสอบ หรือชั่งขายเป็นกิโลขั้นต่ำอยู่ที่ 25 กิโลกรัมเท่านั้น โดยประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับคือสินค้าราคาถูก โดยภายในหนึ่งกระสอบก็จะเป็นเสื้อผ้าในกลุ่มเดียวกัน อาทิ ภายในหนึ่งกระสอบนั้นจะเป็นเสื้อผ้าเด็กทั้งหมด หรือทั้งกระสอบจะเป็นชุดแซกทั้งหมด ไม่มีการคละแบบแต่อย่างใด ดังนั้นก่อนซื้อลูกค้าต้องแจ้งความจำนงค์ก่อนว่าต้องการซื้อเสื้อผ้าแนวไหน พร้อมกันนี้ต้องเข้าใจว่าภายในหนึ่งกระสอบจะมีเสื้อผ้าทั้งที่เป็นหัวผ้า (คือเสื้อผ้าคุณภาพดี ดีไซส์สวย) และปลายผ้า(คุณภาพอาจไม่ 100%) ซึ่งในส่วนของปลายผ้า อาจจะต้องนำมาตกแต่งดีไซน์เพิ่ม เพื่อที่จะได้นำมาขายได้ราคาที่ดี เหล่านี้เป็นต้น
ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ ได้กำไรดีหลายเท่า
สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้าจากทาง Two Hand Shop นั้น “คุณพิมพ์นิศา” กล่าวว่าไม่ต้องมีเงินค่าแฟรนไชส์แต่อย่างใดทั้งสิ้น โดยปัจจุบันได้มีการแบ่งรูปแบบการลงทุนหลายประเภทเพื่อให้สอดรับกับความต้อง การของลูกค้าที่แตกต่างกันไป ซึ่งมีทั้งที่ต้องซื้อแล้วนำไปเปิดร้านขายปลีกธรรดา ไปจนถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อไปเพื่อไปทำธุรกิจในรูปแบบของค้าส่งอีกต่อ หนึ่ง ดังนั้นจึงได้มีการแบ่งการลงทุนดังนี้
1. ซื้อยกกระสอบ (1 กระสอบ หนัก 100 กิโลกรัม)
- กรณีซื้อเสื้อยกกระสอบ ราคาเริ่มต้นที่ 5,000 ไปจนถึงกว่า 10,000 บาท
- กรณีซื้อชุดแซกยกกระสอบ ราคาเริ่มต้นที่ 12,000 ไปจนถึงกว่า 20,000 บาท
2. ซื้อแบบชั่งกิโล ทางร้านกำหนดน้ำหนักเบื้องต้นที่ 25 กิโลกรัม
- กรณีซื้อเสื้อ ราคาเริ่มต้นกิโลกรัมละ 100 บาท
- กรณีซื้อชุดแซก ราคาเริ่มต้นกิโลกรัมละ 150 บาท
(หมายเหตุ : วิธีการขายแบบชั่งกิโล ทางร้านจะผ่ากระสอบออกมาแล้ว นำเสื้อผ้ามาชั่งกิโลขายเลย ลูกค้าไม่สามารถเลือกได้ ทั้งนี้เพราะสินค้าที่ขายอยู่นี้มีราคาที่ถูกอยู่แล้ว โดยเฉลี่ยเสื้อผ้า 1 ชิ้น เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20 บาท ดังนั้นจึงไม่อนุญาตให้เลือกเพื่อความยุติธรรมแก่ลูกค้าท่านอื่นๆที่มาซื้อ แบบชั่งกิโลในภายหลัง)
3. ซื้อส่ง จำนวนมาก ประมาณ 10 กระสอบ ใช้เงินลงทุนราว 1 แสนบาท
ในส่วนผลตอบแทนในการลงทุนนั้น “คุณพิมพ์นิศา” กล่าวว่า ในหนึ่งกระสอบมีเสื้อผ้าอยู่ประมาณ 600 ชิ้น ส่วนถ้าเป็นชุดแซกจะอยู่ที่ประมาณ 450 ชิ้น ดังนั้นเฉลี่ยต้นทุนเสื้อผ้าจะอยู่ที่เพียง 15-20 บาท/ชิ้น ซึ่งสามารถนำไปขายปลีกได้ในราคาตั้งแต่ 200 บาท ขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบเสื้อ และทำเลด้วย แต่อย่างน้อยก็คาดว่า เสื้อ 1 ชิ้น น่าจะขายได้กำไรกว่า 10 เท่าตัวทีเดียว สำหรับเสื้อผ้าบางส่วนที่ไม่สมบูรณ์ 100% ก็ขอแนะนำให้มาทำการประยุกต์ดีไซส์เข้าไปหน่อยก็เชื่อว่าจะสามารถไปขายต่อ ได้ไม่ขาดทุนอย่างแน่นอนดังนั้นจึงกล้ากล่าวว่า ธุรกิจนี้ช่วยสร้างความมั่นคงทางอาชีพได้อย่างแน่นอน เพราะให้ผลตอบแทนที่สูง และมีความเสี่ยงน้อย
***********************************************************************************************
สนใจธุรกิจ Two Hand Shop ติดต่อได้ที่ คุณพิมพ์นิศา ฉัตรเอกเจริญ (คุณอุ๋ย) ที่อยู่ : ถ. เจริญกรุง ซอย 69 โทรศัพท์ : 086-332-1152 ,086-772-2999, 080-264-1444 อีเมล์ : twohandshop_aui@hotmail.com เว็บไซต์ : www.twohandshopping.com, www.twohandshop.com
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://bit.ly/2kYAKOt
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://bit.ly/2kYAKOt
Adv