สุดทึ่ง! สาวพิการแขน 2 ข้างไม่มีตั้งแต่กำเนิด สู้ชีวิตใช้เท้าทำทุกอย่างได้เหมือนคนปกติ รับจ้างทั่วไปหาเงินส่งเสียหลาน 3 คนเรียนหนังสือ ส่วนตัวเองใฝ่รู้เรียน กศน. แถมมีความสามารถใช้เท้าวาดภาพอย่างสวยงาม จนได้รางวัลชนะเลิศระดับภาคอีสาน เตรียมชิงชัยระดับประเทศกลางเดือนนี้...
เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ชาวบ้านในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ต่างแสดงความชื่นชม น.ส.รุ่งลาวัน คาริก หรือรุ่ง อายุ 37 ปี หญิงสาวผู้พิการแขนทั้ง 2 ข้าง ไม่มีมาตั้งแต่กำเนิด ดิ้นรนต่อสู้ชีวิตเหมือนคนปกติ ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านปูนชั้นเดียว เลขที่ 318 หมู่ 5 บ้านคลองสะท้อน ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว กับหลานสาว 3 คนที่อยู่ในวัยเรียน และรับจ้างเลี้ยงลูกชายคนข้างบ้านอีก 1 คน มีสภาพความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก โดยสาวพิการรายนี้ต้องรับจ้างทั่วไปหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัว และยังสามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ โดยใช้เท้าทำกิจกรรมต่างๆ อย่างคล่องแคล่ว ไม่ว่าการหุงข้าว ทำกับข้าว เปิดประตูลูกบิด ซักผ้า เขียนหนังสือ อาบน้ำ แปรงฟัน และยังมีความสามารถพิเศษ ใช้เท้าวาดภาพได้อย่างสวยงาม
ด้าน นางพิกุล คำจันทึก ผู้ใหญ่บ้านคลองสะท้อน หมู่ 5 เล่าว่า หลานสาวทั้ง 3 คนเป็นลูกพี่สาว ซึ่งได้แยกทางกับสามีและได้ทิ้งลูกให้ น.ส.รุ่งลาวัน ดูแลมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งขณะนี้ทุกคนกำลังเรียนหนังสือ คนแรกวัย 20 ปี กำลังศึกษาระดับชั้นปริญญาตรีอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา คนที่สองอายุ 17 ปี เรียนชั้น ม.5 และคนที่สาม อายุ 16 ปี เรียนชั้น ม.6 ซึ่งทั้งคู่เรียนโรงเรียนวังหมีพิทยาคม ส่วนลูกชายคนข้างบ้านวัย 9 ปี ได้รับจ้างเลี้ยงดูเดือนละ 1,200 บาท แต่เงินไม่พอใช้เลี้ยงดูคนในครอบครัว จึงต้องทำงานรับจ้างทั่วไปหารายได้เพิ่ม
นางสะอิ้ง ขุมทอง เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ได้เห็นชีวิตความยากลำบากของ น.ส.รุ่งลาวัน มาตลอด ซึ่งได้จ้างให้ช่วยถอนวัชพืชในสวนพุทรา ให้ค่าจ้างต้นละ 10 บาท วันหนึ่งสามารถถอนได้ถึง 10-12 ต้น ได้เงินประมาณ 100 – 120 บาท นอกจากนี้ ยังมีคนว่าจ้างให้ไปช่วยเก็บดอกดาวเรืองบรรจุถุง และเก็บข้าวโพดตามไร่ โดยไม่เกี่ยงงาน และยังมีความมุมานะเรียน กศน.ระดับประถมศึกษา ทำให้ชาวบ้านประทับใจในการต่อสู้ชีวิตของ น.ส.รุ่งลาวันเป็นอย่างมาก
ขณะ ที่ น.ส.รุ่งลาวัน กล่าวว่า แม้ตนเองจะพิการแขนทั้ง 2 ข้างมาแต่กำเนิด แต่ไม่เคยคิดย่อท้อต่อการใช้ชีวิต เพราะเชื่อว่าการได้เกิดเป็นคนถือว่าโชคดีมากแล้ว ดังนั้นจึงต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่า และเรียนรู้ที่จะอยู่ให้ได้ด้วยความเข้มแข็ง ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะฐานะทางครอบครัวไม่ดี และต้องเลี้ยงดูหลาน จึงไม่มีเวลา ปัจจุบันได้เรียน กศน.ระดับประถมศึกษา ตามคำแนะนำของครู กศน.ตำบล ซึ่งการเรียน กศน.ได้ให้โอกาสกับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ผู้พิการและด้อยโอกาส
ส่วนทักษะการวาดภาพนั้น เนื่องจากช่วงที่อยู่คนเดียว ชอบนั่งดูวิวทิวทัศน์ และชอบดูดอกไม้ที่บานสะพรั่งสวยงาม จึงนั่งใช้เท้าขีดเขียนเล่นบนพื้น ด้วยความหวังว่าสักวันชีวิตจะเหมือนดอกไม้ที่บานสะพรั่งให้คนทั่วไปได้ชื่น ชมบ้าง เมื่อได้วาดภาพจริงๆ จึงได้เน้นรูปดอกไม้เป็นพิเศษ
ด้าน นายมาโนชฐ์ ลาภจิตร ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อ.วังน้ำเขียว เปิดเผยว่า เมื่อปี 2552 ได้ทราบข่าวการสู้ชีวิตอย่างไม่ย่อท้อ และได้ข้อมูลว่า น.ส.รุ่งลาวัน ไม่ได้เรียนหนังสือตั้งแต่เด็ก จึงมาพบเพื่อช่วยเหลือให้ได้รับการเรียนหนังสือ และพบว่า น.ส.รุ่งลาวัน มีพรสวรรค์ด้านการวาดภาพด้วยเท้า โดยเฉพาะการวาดภาพดอกไม้ และภาพวิวทิวทัศน์ ซึ่งใช้เวลาเพียง 3 นาที สามารถวาดเสร็จอย่างสวยงาม จนล่าสุดได้รางวัลชนะเลิศในการประกวดสุดยอด กศน.ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาแล้ว
นอก จากนั้นยังเป็นหนึ่งในทีมอเมซซิ่งพาวเวอร์ หรือ “พลังมหัศจรรย์” ของสำนักงาน กศน.จังหวัดนครราชสีมา และจะเป็นตัวแทนจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าไปชิงชนะเลิศในการประกวดสุดยอดกศน.ระดับประเทศ ในวันที่ 16 ก.ค.นี้ที่กทม. หากใครต้องการให้กำลังใจสามารถส่งข้อความ SMS มาช่วยกันโหวต โดยการพิมพ์ NF4 ส่งมาที่ 4642233 ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 16 ก.ค.
เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ชาวบ้านในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ต่างแสดงความชื่นชม น.ส.รุ่งลาวัน คาริก หรือรุ่ง อายุ 37 ปี หญิงสาวผู้พิการแขนทั้ง 2 ข้าง ไม่มีมาตั้งแต่กำเนิด ดิ้นรนต่อสู้ชีวิตเหมือนคนปกติ ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านปูนชั้นเดียว เลขที่ 318 หมู่ 5 บ้านคลองสะท้อน ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว กับหลานสาว 3 คนที่อยู่ในวัยเรียน และรับจ้างเลี้ยงลูกชายคนข้างบ้านอีก 1 คน มีสภาพความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก โดยสาวพิการรายนี้ต้องรับจ้างทั่วไปหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัว และยังสามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ โดยใช้เท้าทำกิจกรรมต่างๆ อย่างคล่องแคล่ว ไม่ว่าการหุงข้าว ทำกับข้าว เปิดประตูลูกบิด ซักผ้า เขียนหนังสือ อาบน้ำ แปรงฟัน และยังมีความสามารถพิเศษ ใช้เท้าวาดภาพได้อย่างสวยงาม
ด้าน นางพิกุล คำจันทึก ผู้ใหญ่บ้านคลองสะท้อน หมู่ 5 เล่าว่า หลานสาวทั้ง 3 คนเป็นลูกพี่สาว ซึ่งได้แยกทางกับสามีและได้ทิ้งลูกให้ น.ส.รุ่งลาวัน ดูแลมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งขณะนี้ทุกคนกำลังเรียนหนังสือ คนแรกวัย 20 ปี กำลังศึกษาระดับชั้นปริญญาตรีอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา คนที่สองอายุ 17 ปี เรียนชั้น ม.5 และคนที่สาม อายุ 16 ปี เรียนชั้น ม.6 ซึ่งทั้งคู่เรียนโรงเรียนวังหมีพิทยาคม ส่วนลูกชายคนข้างบ้านวัย 9 ปี ได้รับจ้างเลี้ยงดูเดือนละ 1,200 บาท แต่เงินไม่พอใช้เลี้ยงดูคนในครอบครัว จึงต้องทำงานรับจ้างทั่วไปหารายได้เพิ่ม
นางสะอิ้ง ขุมทอง เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ได้เห็นชีวิตความยากลำบากของ น.ส.รุ่งลาวัน มาตลอด ซึ่งได้จ้างให้ช่วยถอนวัชพืชในสวนพุทรา ให้ค่าจ้างต้นละ 10 บาท วันหนึ่งสามารถถอนได้ถึง 10-12 ต้น ได้เงินประมาณ 100 – 120 บาท นอกจากนี้ ยังมีคนว่าจ้างให้ไปช่วยเก็บดอกดาวเรืองบรรจุถุง และเก็บข้าวโพดตามไร่ โดยไม่เกี่ยงงาน และยังมีความมุมานะเรียน กศน.ระดับประถมศึกษา ทำให้ชาวบ้านประทับใจในการต่อสู้ชีวิตของ น.ส.รุ่งลาวันเป็นอย่างมาก
ขณะ ที่ น.ส.รุ่งลาวัน กล่าวว่า แม้ตนเองจะพิการแขนทั้ง 2 ข้างมาแต่กำเนิด แต่ไม่เคยคิดย่อท้อต่อการใช้ชีวิต เพราะเชื่อว่าการได้เกิดเป็นคนถือว่าโชคดีมากแล้ว ดังนั้นจึงต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่า และเรียนรู้ที่จะอยู่ให้ได้ด้วยความเข้มแข็ง ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะฐานะทางครอบครัวไม่ดี และต้องเลี้ยงดูหลาน จึงไม่มีเวลา ปัจจุบันได้เรียน กศน.ระดับประถมศึกษา ตามคำแนะนำของครู กศน.ตำบล ซึ่งการเรียน กศน.ได้ให้โอกาสกับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ผู้พิการและด้อยโอกาส
ส่วนทักษะการวาดภาพนั้น เนื่องจากช่วงที่อยู่คนเดียว ชอบนั่งดูวิวทิวทัศน์ และชอบดูดอกไม้ที่บานสะพรั่งสวยงาม จึงนั่งใช้เท้าขีดเขียนเล่นบนพื้น ด้วยความหวังว่าสักวันชีวิตจะเหมือนดอกไม้ที่บานสะพรั่งให้คนทั่วไปได้ชื่น ชมบ้าง เมื่อได้วาดภาพจริงๆ จึงได้เน้นรูปดอกไม้เป็นพิเศษ
ด้าน นายมาโนชฐ์ ลาภจิตร ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อ.วังน้ำเขียว เปิดเผยว่า เมื่อปี 2552 ได้ทราบข่าวการสู้ชีวิตอย่างไม่ย่อท้อ และได้ข้อมูลว่า น.ส.รุ่งลาวัน ไม่ได้เรียนหนังสือตั้งแต่เด็ก จึงมาพบเพื่อช่วยเหลือให้ได้รับการเรียนหนังสือ และพบว่า น.ส.รุ่งลาวัน มีพรสวรรค์ด้านการวาดภาพด้วยเท้า โดยเฉพาะการวาดภาพดอกไม้ และภาพวิวทิวทัศน์ ซึ่งใช้เวลาเพียง 3 นาที สามารถวาดเสร็จอย่างสวยงาม จนล่าสุดได้รางวัลชนะเลิศในการประกวดสุดยอด กศน.ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาแล้ว
นอก จากนั้นยังเป็นหนึ่งในทีมอเมซซิ่งพาวเวอร์ หรือ “พลังมหัศจรรย์” ของสำนักงาน กศน.จังหวัดนครราชสีมา และจะเป็นตัวแทนจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าไปชิงชนะเลิศในการประกวดสุดยอดกศน.ระดับประเทศ ในวันที่ 16 ก.ค.นี้ที่กทม. หากใครต้องการให้กำลังใจสามารถส่งข้อความ SMS มาช่วยกันโหวต โดยการพิมพ์ NF4 ส่งมาที่ 4642233 ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 16 ก.ค.
แนะนำหนังสือลดราคาพิเศษ
|
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://bit.ly/2kYAKOt
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://bit.ly/2kYAKOt
Adv