ได้แรงบันดาลใจในการทำธุรกิจนี้จากประสบการณ์ตรงของตัวเอง ในเวลาที่มีความจำเป็นจะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด
งานบริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เป็นอีกอาชีพเป็นอีกธุรกิจที่มักเกิดจากแรงบันดาลใจพื้นฐานที่เริ่มต้นมาจาก ความรักความชอบในสัตว์เลี้ยงชนิดนั้น ๆ เมื่อมีประสบการณ์เพิ่มขึ้น หลายคนพัฒนาต่อยอดออกมาเป็นธุรกิจด้านนี้ โดยมีทั้งที่เกี่ยวข้องโดยตรง รวมถึงที่เกี่ยวเนื่องทางอ้อม สามารถสร้างเงินสร้างอาชีพจากสัตว์เลี้ยงได้น่าสนใจไม่แพ้อาชีพอื่น อย่างเช่น “บริการรับฝากแมว” ของ “สมทิพย์ เจริญรุ่งสุวรรณะ” ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” จะนำเสนอในวันนี้...
สมทิพย์ เจ้าของธุรกิจให้บริการรับฝากแมว ในพื้นที่ถนนสุขสวัสดิ์ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เล่าว่า ได้แรงบันดาลใจในการทำธุรกิจนี้จากประสบการณ์ตรงของตัวเอง ในเวลาที่มีความจำเป็นจะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ ซึ่งไม่สามารถนำแมวที่เลี้ยงไว้ติดตามไปด้วยได้ ทำให้จำเป็นต้องนำแมวที่เลี้ยงไปฝากไว้กับคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ที่มี บริการรับฝากแมวให้ช่วยดูแล ซึ่งมีอยู่หลายครั้งรู้สึกสงสารแมวที่เลี้ยงไว้ เนื่องจากบางแห่งไม่ได้มีการจัดแยกสัตว์ที่รับฝาก แต่ใช้วิธีเลี้ยงในกรง จึงเกิดความคิดว่าหากมีบริการหรือมีบ้านที่รับดูแลฝากแมวเป็นการเฉพาะ น่าจะดี จึงทำให้ตัดสินใจเปิดบ้านรับฝากแมว ใช้ชื่อว่า โมจิ แคทโฮม (Moji Cathome) ตามชื่อแมวตัวแรกของเธอ โดยทำตลาดผ่าน www.facebook.com/moji.cathome ซึ่งเปิดให้บริการรับฝากแมวมาได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว
“ก่อนหน้าที่จะเปิดให้บริการเต็มตัว ก็มีคนมาใช้บริการอยู่เป็นระยะ ๆ แต่เป็นไปในลักษณะช่วยเหลือ ช่วยกันดูแล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพื่อนฝูงคนรู้จัก เป็นเพื่อนในกลุ่มที่เลี้ยงแมวที่รู้จักกัน พอดีมีจังหวะช่วงหนึ่งที่ออกมาเป็นแม่บ้าน จึงมาคิดว่าที่บ้านเราก็มีสถานที่เหลือพอที่จะทำห้องพักแมวเพิ่มได้ จึงตัดสินใจเปิดเป็นบ้านรับฝากแมว” สมทิพย์กล่าว
บ้านรับฝากแมวที่ทำนั้น เธอเล่าว่า ด้วยความที่การเลี้ยงแมวค่อนข้างมีรายละเอียดแตกต่างจากการเลี้ยงสุนัข เนื่องจากแมวเป็นสัตว์ที่มีนิสัยเอาใจยาก และมีโลกส่วนตัวสูง โดยกิจวัตรประจำวันของแมว คือชอบเล่น ปีนป่าย นอนที่สูง หากสถานที่คับแคบ ที่พักไม่กว้างเพียงพอ หรืออยู่ร่วมกับสัตว์อื่น แมวอาจเกิดความเครียดได้ ซึ่งบ้านรับฝากแมวของเธอเน้นเลี้ยงแบบเป็นห้องส่วนตัว และไม่ขังกรง โดยห้องพักแมวจะต้องมีบรรยากาศที่โปร่งสบาย มีอากาศถ่ายเทสะดวก และต้องมีชั้นนอนสำหรับให้แมวขึ้นไปพัก รวมถึงต้องมีที่สำหรับให้แมวขับถ่าย (กระบะทราย) และมีที่ข่วนเล็บให้กับแมวด้วย ส่วนอาหารแมวนั้นลูกค้าเป็นผู้เตรียมมาเอง เนื่องจากแมวแต่ละบ้านทานอาหารต่างกัน
สมทิพย์ บอกว่า นอกจากลูกค้าที่อาศัยอยู่ในย่านเดียวกัน ก็ยังมีลูกค้าจากย่านอื่น ๆ แวะเวียนมาใช้บริการอยู่เป็นระยะ ๆ มีทั้งลูกค้าในกรุงเทพฯ จนถึงลูกค้าในต่างจังหวัด มีทั้งที่นำแมวมาฝากเลี้ยงเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เป็นรายวัน ไปจนถึงรับฝากแมวระยะยาว เป็นเดือนก็มี โดยลูกค้าจะใช้บริการมากเป็นพิเศษในช่วงวันหยุดยาว หรือช่วงเทศกาล เพราะหลายคนไม่สะดวกที่จะหอบหิ้วสัตว์เลี้ยงเดินทางติดตามไปด้วย
“บางคนจะโทรศัพท์มาสอบถาม และมาดูสถานที่ให้แน่ใจ ก่อนนำแมวมาฝาก เพราะคนเลี้ยงแมวทราบดีว่าแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่อ่อนไหวเป็นพิเศษ หากไม่ชินกับสถานที่ หรือสถานที่รับฝากไม่มีลักษณะใกล้เคียงกับบ้านของเจ้าของแมวที่เลี้ยง แมวมักจะเกิดอาการเครียด หรืออาจป่วยได้ง่าย” เจ้าของบ้านรับฝากแมวระบุ
ขั้นตอนการให้บริการ เริ่มจากลูกค้าโทรศัพท์เพื่อสอบถามนัดวันนำแมวมาฝากล่วงหน้า เมื่อห้องว่างลูกค้าจึงทำการจองห้อง จากนั้นเมื่อถึงวันนำแมวมาฝาก ลูกค้าต้องนำใบฉีดวัคซีนมาแสดง เพื่อป้องกันโรคติดต่อบางชนิดที่อาจติดต่อกับแมวตัวอื่น ๆ ได้ หลัก ๆ ก็มีขั้นตอนการรับบริการเพียงเท่านี้ ทั้งนี้หากเป็นในส่วนของแมวไทยนั้น เธอระบุว่า จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนค่ามัดจำอยู่ที่ 2,000 บาทต่อตัว เนื่องจากแมวไทยมีโอกาสเสี่ยงที่จะถูกเจ้าของทิ้งไว้มากที่สุดในบรรดาแมว ชนิดอื่น ๆ ซึ่งเมื่อเจ้าของมารับก็จะคืนเงินมัดจำส่วนนี้ให้
ทุนเบื้องต้น สำหรับการลงทุนทำธุรกิจบ้านรับฝากแมวนี้ สมทิพย์ บอกว่า อยู่ที่ประมาณ 40,000 บาทขึ้นไป เป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าตกแต่ง ค่ากั้นห้อง และอุปกรณ์สำหรับการเลี้ยงแมวเท่านั้น ไม่รวมค่าสถานที่เพราะเธอใช้บ้านของตนเองเป็นที่รับฝากแมว ส่วนทุนหมุนเวียน อยู่ที่ประมาณ 2,000 บาทต่อเดือน ส่วนใหญ่เป็นค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าทำความสะอาด ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้อาจจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงเล็กน้อย ขึ้นกับจำนวนของแมวที่เข้าพัก
สำหรับรายได้จากค่าบริการรับฝากแมว ทั้งแบบรายตัว และเหมาห้อง เริ่มต้นที่ราคา 180 บาท ไปจนถึง 350บาท ต่อวัน
“ที่นี่มีทั้งหมดประมาณ 7 ห้อง โดยมีห้องเล็ก สำหรับให้แมวพักไม่เกิน 2 ตัว กับแบบห้องใหญ่ สำหรับให้ลูกค้าใช้บริการในแบบเหมาห้อง ซึ่งแมวบ้านเดียวกันสามารถอยู่รวมกันได้หลายตัว” เจ้าของธุรกิจบ้านรับฝากแมวกล่าว
ใครสนใจติดต่อสมทิพย์ ติดต่อได้ที่ โทร.08-8934-9295 โดยบ้าน “รับฝากแมว” โมจิ แคทโฮม ตั้งอยู่ที่ ซ.สุขสวัสดิ์ 37/2 ถ.สุขสวัสดิ์ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โดยนี่ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงที่น่าสนใจ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า นอกเหนือไปจากกลุ่มคนเลี้ยงสุนัข ปัจจุบันกลุ่มคนนิยมเลี้ยงแมวก็ถือเป็นตลาดอีกกลุ่มที่มีการขยายตัวมากขึ้น และสร้าง “ช่องทางทำกิน” ได้ในยุคปัจจุบัน.
ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ :เรื่อง-ภาพ
..............................................
คู่มือลงทุน...ธุรกิจรับฝากแมว
ทุนเบื้องต้น 40,000 บาทขึ้นไป ไม่รวมสถานที่
ทุนหมุนเวียน ประมาณ 2,000 บาทต่อเดือน
รายได้ ค่าบริการ 180 บาทขึ้นไป/ตัว/วัน
แรงงาน ตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป
ตลาด กลุ่มคนเลี้ยงแมว
จุดน่าสนใจ ปัจจุบันมีคนเลี้ยงแมวจำนวนมาก
credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/212565/_รับฝากแมว_ดูแลน้องเหมียวทำเงิน
งานบริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เป็นอีกอาชีพเป็นอีกธุรกิจที่มักเกิดจากแรงบันดาลใจพื้นฐานที่เริ่มต้นมาจาก ความรักความชอบในสัตว์เลี้ยงชนิดนั้น ๆ เมื่อมีประสบการณ์เพิ่มขึ้น หลายคนพัฒนาต่อยอดออกมาเป็นธุรกิจด้านนี้ โดยมีทั้งที่เกี่ยวข้องโดยตรง รวมถึงที่เกี่ยวเนื่องทางอ้อม สามารถสร้างเงินสร้างอาชีพจากสัตว์เลี้ยงได้น่าสนใจไม่แพ้อาชีพอื่น อย่างเช่น “บริการรับฝากแมว” ของ “สมทิพย์ เจริญรุ่งสุวรรณะ” ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” จะนำเสนอในวันนี้...
สมทิพย์ เจ้าของธุรกิจให้บริการรับฝากแมว ในพื้นที่ถนนสุขสวัสดิ์ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เล่าว่า ได้แรงบันดาลใจในการทำธุรกิจนี้จากประสบการณ์ตรงของตัวเอง ในเวลาที่มีความจำเป็นจะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ ซึ่งไม่สามารถนำแมวที่เลี้ยงไว้ติดตามไปด้วยได้ ทำให้จำเป็นต้องนำแมวที่เลี้ยงไปฝากไว้กับคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ที่มี บริการรับฝากแมวให้ช่วยดูแล ซึ่งมีอยู่หลายครั้งรู้สึกสงสารแมวที่เลี้ยงไว้ เนื่องจากบางแห่งไม่ได้มีการจัดแยกสัตว์ที่รับฝาก แต่ใช้วิธีเลี้ยงในกรง จึงเกิดความคิดว่าหากมีบริการหรือมีบ้านที่รับดูแลฝากแมวเป็นการเฉพาะ น่าจะดี จึงทำให้ตัดสินใจเปิดบ้านรับฝากแมว ใช้ชื่อว่า โมจิ แคทโฮม (Moji Cathome) ตามชื่อแมวตัวแรกของเธอ โดยทำตลาดผ่าน www.facebook.com/moji.cathome ซึ่งเปิดให้บริการรับฝากแมวมาได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว
“ก่อนหน้าที่จะเปิดให้บริการเต็มตัว ก็มีคนมาใช้บริการอยู่เป็นระยะ ๆ แต่เป็นไปในลักษณะช่วยเหลือ ช่วยกันดูแล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพื่อนฝูงคนรู้จัก เป็นเพื่อนในกลุ่มที่เลี้ยงแมวที่รู้จักกัน พอดีมีจังหวะช่วงหนึ่งที่ออกมาเป็นแม่บ้าน จึงมาคิดว่าที่บ้านเราก็มีสถานที่เหลือพอที่จะทำห้องพักแมวเพิ่มได้ จึงตัดสินใจเปิดเป็นบ้านรับฝากแมว” สมทิพย์กล่าว
บ้านรับฝากแมวที่ทำนั้น เธอเล่าว่า ด้วยความที่การเลี้ยงแมวค่อนข้างมีรายละเอียดแตกต่างจากการเลี้ยงสุนัข เนื่องจากแมวเป็นสัตว์ที่มีนิสัยเอาใจยาก และมีโลกส่วนตัวสูง โดยกิจวัตรประจำวันของแมว คือชอบเล่น ปีนป่าย นอนที่สูง หากสถานที่คับแคบ ที่พักไม่กว้างเพียงพอ หรืออยู่ร่วมกับสัตว์อื่น แมวอาจเกิดความเครียดได้ ซึ่งบ้านรับฝากแมวของเธอเน้นเลี้ยงแบบเป็นห้องส่วนตัว และไม่ขังกรง โดยห้องพักแมวจะต้องมีบรรยากาศที่โปร่งสบาย มีอากาศถ่ายเทสะดวก และต้องมีชั้นนอนสำหรับให้แมวขึ้นไปพัก รวมถึงต้องมีที่สำหรับให้แมวขับถ่าย (กระบะทราย) และมีที่ข่วนเล็บให้กับแมวด้วย ส่วนอาหารแมวนั้นลูกค้าเป็นผู้เตรียมมาเอง เนื่องจากแมวแต่ละบ้านทานอาหารต่างกัน
สมทิพย์ บอกว่า นอกจากลูกค้าที่อาศัยอยู่ในย่านเดียวกัน ก็ยังมีลูกค้าจากย่านอื่น ๆ แวะเวียนมาใช้บริการอยู่เป็นระยะ ๆ มีทั้งลูกค้าในกรุงเทพฯ จนถึงลูกค้าในต่างจังหวัด มีทั้งที่นำแมวมาฝากเลี้ยงเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เป็นรายวัน ไปจนถึงรับฝากแมวระยะยาว เป็นเดือนก็มี โดยลูกค้าจะใช้บริการมากเป็นพิเศษในช่วงวันหยุดยาว หรือช่วงเทศกาล เพราะหลายคนไม่สะดวกที่จะหอบหิ้วสัตว์เลี้ยงเดินทางติดตามไปด้วย
“บางคนจะโทรศัพท์มาสอบถาม และมาดูสถานที่ให้แน่ใจ ก่อนนำแมวมาฝาก เพราะคนเลี้ยงแมวทราบดีว่าแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่อ่อนไหวเป็นพิเศษ หากไม่ชินกับสถานที่ หรือสถานที่รับฝากไม่มีลักษณะใกล้เคียงกับบ้านของเจ้าของแมวที่เลี้ยง แมวมักจะเกิดอาการเครียด หรืออาจป่วยได้ง่าย” เจ้าของบ้านรับฝากแมวระบุ
ขั้นตอนการให้บริการ เริ่มจากลูกค้าโทรศัพท์เพื่อสอบถามนัดวันนำแมวมาฝากล่วงหน้า เมื่อห้องว่างลูกค้าจึงทำการจองห้อง จากนั้นเมื่อถึงวันนำแมวมาฝาก ลูกค้าต้องนำใบฉีดวัคซีนมาแสดง เพื่อป้องกันโรคติดต่อบางชนิดที่อาจติดต่อกับแมวตัวอื่น ๆ ได้ หลัก ๆ ก็มีขั้นตอนการรับบริการเพียงเท่านี้ ทั้งนี้หากเป็นในส่วนของแมวไทยนั้น เธอระบุว่า จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนค่ามัดจำอยู่ที่ 2,000 บาทต่อตัว เนื่องจากแมวไทยมีโอกาสเสี่ยงที่จะถูกเจ้าของทิ้งไว้มากที่สุดในบรรดาแมว ชนิดอื่น ๆ ซึ่งเมื่อเจ้าของมารับก็จะคืนเงินมัดจำส่วนนี้ให้
ทุนเบื้องต้น สำหรับการลงทุนทำธุรกิจบ้านรับฝากแมวนี้ สมทิพย์ บอกว่า อยู่ที่ประมาณ 40,000 บาทขึ้นไป เป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าตกแต่ง ค่ากั้นห้อง และอุปกรณ์สำหรับการเลี้ยงแมวเท่านั้น ไม่รวมค่าสถานที่เพราะเธอใช้บ้านของตนเองเป็นที่รับฝากแมว ส่วนทุนหมุนเวียน อยู่ที่ประมาณ 2,000 บาทต่อเดือน ส่วนใหญ่เป็นค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าทำความสะอาด ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้อาจจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงเล็กน้อย ขึ้นกับจำนวนของแมวที่เข้าพัก
สำหรับรายได้จากค่าบริการรับฝากแมว ทั้งแบบรายตัว และเหมาห้อง เริ่มต้นที่ราคา 180 บาท ไปจนถึง 350บาท ต่อวัน
“ที่นี่มีทั้งหมดประมาณ 7 ห้อง โดยมีห้องเล็ก สำหรับให้แมวพักไม่เกิน 2 ตัว กับแบบห้องใหญ่ สำหรับให้ลูกค้าใช้บริการในแบบเหมาห้อง ซึ่งแมวบ้านเดียวกันสามารถอยู่รวมกันได้หลายตัว” เจ้าของธุรกิจบ้านรับฝากแมวกล่าว
ใครสนใจติดต่อสมทิพย์ ติดต่อได้ที่ โทร.08-8934-9295 โดยบ้าน “รับฝากแมว” โมจิ แคทโฮม ตั้งอยู่ที่ ซ.สุขสวัสดิ์ 37/2 ถ.สุขสวัสดิ์ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โดยนี่ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงที่น่าสนใจ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า นอกเหนือไปจากกลุ่มคนเลี้ยงสุนัข ปัจจุบันกลุ่มคนนิยมเลี้ยงแมวก็ถือเป็นตลาดอีกกลุ่มที่มีการขยายตัวมากขึ้น และสร้าง “ช่องทางทำกิน” ได้ในยุคปัจจุบัน.
ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ :เรื่อง-ภาพ
..............................................
คู่มือลงทุน...ธุรกิจรับฝากแมว
ทุนเบื้องต้น 40,000 บาทขึ้นไป ไม่รวมสถานที่
ทุนหมุนเวียน ประมาณ 2,000 บาทต่อเดือน
รายได้ ค่าบริการ 180 บาทขึ้นไป/ตัว/วัน
แรงงาน ตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป
ตลาด กลุ่มคนเลี้ยงแมว
จุดน่าสนใจ ปัจจุบันมีคนเลี้ยงแมวจำนวนมาก
credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/212565/_รับฝากแมว_ดูแลน้องเหมียวทำเงิน
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://bit.ly/2kYAKOt
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://bit.ly/2kYAKOt
Adv