ความแตกต่าง” มักเป็นที่มาของ
“โอกาส” อยู่เสมอ และยิ่งในโลกปัจจุบันที่
“ความคิดสร้างสรรค์” ถูกนำมาใช้ในการสร้าง
“มูลค่าเพิ่ม เสริมอัตลักษณ์” ให้แก่งานในแขนงต่างๆ มากขึ้น การคิดค้นหรือสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ จึงจำเป็นต้องอาศัย
“DNA ของงานดีไซน์” ที่มีอยู่ในตัวของเหล่าผู้ประกอบการมาสร้างเป็นจุดขาย เพื่อต่อยอด
“จินตนาการและไอเดียตั้งต้น”
สู่ขั้นตอนการผลิตเป็นผลงานสุดสร้างสรรค์
ยิ่งได้ผสมผสานเข้ากับจุดแข็งอันโดดเด่นของผู้ประกอบการไทย
ซึ่งเติบโตและได้ซึมซับสมบัติด้านวัฒนธรรมของชาติมาอย่างเต็มเปี่ยม
จึงไม่แปลกใจที่วันนี้ความคิดสร้างสรรค์แบบไทยๆ
ของผู้ประกอบการหน้าใหม่สายเลือดสยาม
จะสามารถก้าวเป็นผลงานดีไซน์ที่ครองใจมหาชนได้ในระดับสากล
เช่นเดียวกับเรื่องราวจาก
เหล่า “นักคิด” ที่มาพร้อม “ความฝัน” อันเต็มล้น
สู่การบ่มเพาะและพัฒนาไอเดียสร้างสรรค์เพื่อปูทางไปยังเส้นทางสายธุรกิจภาย
ใต้โครงการ “ต่อยอดสินค้าทำมือ สู่ตลาดทำกิน”
ที่จัดขึ้นโดยศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC)
ซึ่งช่วยต่อยอดให้เหล่านักประกอบการรุ่นใหม่ได้มองเห็นถึง “ศักยภาพ”
ที่มีอยู่ในตัวตน อันนำมาซึ่งหนทางสู่ความสำเร็จ อย่างเช่น 4
มุมมองต้นแบบในการแปลงโฉม“ไอเดียไทยๆ” ให้กลายเป็นผลงานที่มีดีไซน์แปลกตา
******โปสการ์ด 3D เก็บกรุงเทพฯ เป็นของที่ระลึก ********
เริ่มต้นด้วยไอเดีย “โปสการ์ด 3 มิติ” ภายใต้ชื่องานว่า “กรุงเทพ 3 มิติ” อันเป็นผลงานทางความคิดที่เกิดขึ้นจากส่วนผสมที่ลงตัวระหว่าง “ความชอบ” และ “โอกาสทางธุรกิจ” ของ “ปิยทรรศ ธันธนาพรชัย” บัณฑิตจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ รั้วจามจุรี ที่ชูจุดขายด้วยการดีไซน์ที่แตกต่างไปจากโปสการ์ดที่ขายทั่วไปตามท้องตลาด
|
ปิยทรรศ ธันธนาพรชัย |
|
|
ปิยทรรศ ได้บอกเล่าไอเดียของโปสการ์ดแบบป๊อปอัพ “กรุงเทพ 3 มิติ”
ต้องการนำเสนอเสน่ห์เมืองหลวงของประเทศไทย ซึ่งมีวัฒนธรรมหลากหลาย
โดยการนำเป็นภาพป๊อปอัพ 3 มิติ ช่วยให้เกิดมุมมองใหม่
ด้านสถาปัตยกรรมสำคัญในกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ ได้ลงมือทำอย่างเต็มที่ทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง
เบื้องต้นทำเป็นลักษณะของหนังสือป๊อปอัพรวมรวบเฉพาะสถาปัตยกรรมเด่นๆ
ในกรุงเทพฯ ไม่ได้คิดว่าจะเอามาต่อยอดทำขาย
จนวันหนึ่งได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมของ TCDC
และได้รับคำแนะนำในการต่อยอดไอเดียสู่การทำธุรกิจ
ทำให้หนังสือป๊อปอัพที่เดิมใช้เทคนิคการออกแบบที่สมจริง
เน้นทุกรายละเอียดของสถานที่ และพิมพ์ 4 สี
เป็นเหตุให้มีต้นทุนในการผลิตค่อนข้างสูง
ถูก
แปลงสภาพเป็น “โปสการ์ด” สำหรับใช้เป็นของที่ระลึก
เพื่อให้หวนคำนึงถึงกรุงเทพฯ ภายใต้คอลเลกชั่น “Amazing Thailand:
Wonderful Street & Food”
รูปแบบของโปสการ์ด “กรุงเทพ 3 มิติ”
ได้เพิ่มรูปแบบจำลองสถานที่ในกรุงเทพฯ และสัญลักษณ์ต่างๆ
ให้มีความหลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม อาทิ
ตลาดน้ำ ภูเขาทอง รถตุ๊กตุ๊ก เรือนไทย ช้างไทย พร้อม
ลดต้นทุนด้วยการพิมพ์เพียงสีเดียว แต่ได้เพิ่มลูกเล่นสนุกๆ
ให้กับลูกค้าด้วยแนวคิด DIY
โดยลูกค้าที่ซื้อการ์ดไปสามารถออกแบบและมีส่วนร่วมตกแต่งด้วยสติ๊กเกอร์หลาก
หลายลวดลายตามใจชอบ จากคำแนะนำในวันนั้นทำให้ “โปสการ์ด”
ของนักคิดรายนี้ได้รับความนิยมและเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติที่แวะเวียน
เข้ามาเที่ยวในเมืองไทย
|
หุ่นยนต์ไม้ ”ตุ๊กตุ่นตึ๋ง” |
|
|
******* ”ตุ๊กตุ่นตึ๋ง” หุ่นยนต์ไม้ ตั้งโชว์ได้ ใช้งานแจ๋ว *************
ธนานพ แสงอรุณ เจ้าของไอเดียแปลงเศษไม้เป็นหุ่นไม้
แฮนด์เมด หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการของ TCDC ได้บอกเล่าถึงที่มาของผลงานว่า
ด้วยความรักในการ์ตูนและงานศิลปะ
ผนวกกับความหลงใหลในหุ่นยนต์ของเล่นที่สะสมไว้ตั้งแต่สมัยเด็กๆ
ทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะนำเอาความรู้สึกนั้นๆ กลับมา โดยถ่ายทอดผ่านผลงาน
“ตุ๊กตุ่นตึ๋ง”
หุ่นไม้แฮนด์เมดจากเศษไม้ที่เหลือจากโรงเลื่อยในราคาไม่กี่บาท
ถูกนำมาแปลงร่างวาดลวดลายตามจินตนาการลงบนแผ่นไม้ในแต่ละก้อน
จากเดิมที่เคยตั้งใจทำเป็นแค่ของขวัญ ให้กับเพื่อนๆ ในวันเกิด
ด้วยคอนเซ็ปต์ “ของขวัญชิ้นเดียวในโลก” TCDC
ก็ได้จุดประกายความคิดให้ต่อยอดเป็นสินค้าที่คนทั่วไปสามารถนำไปใช้ในโอกาส
ต่างๆ ได้มากขึ้น
ผลงานยุคบุกเบิกเคยทำเป็นหุ่นยนต์ไม้ตัวใหญ่ ใช้แค่ตั้งโชว์
ก็ได้ปรับให้มีขนาดเล็กลงและเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานให้มากขึ้น เช่น
ทำเป็นโคมไฟติดผนัง โคมไฟตั้งโต๊ะ พร้อมเพิ่ม
รายละเอียดให้ตุ๊กตุ่นไม้ดูมีสีสันและมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นด้วยการใช้
วัสดุเหลือใช้ เช่น น็อต ตะเกียบรถจักรยาน สวิตช์ไฟ กรวยพลาสติก ฯลฯ
และหลังจากปรับเปลี่ยนโฉมใหม่ให้เจ้าหุ่นยนต์ไม้ตุ๊กตุ่นตึ๋งแล้ว
ก็ทำให้สินค้าติดตลาดและมีคนสนใจสั่งทำมากยิ่งขึ้น”
********* ไดอารี่เพื่อนรัก สื่อความรู้สึก ทุกหน้ากระดาษ *******
ต่อด้วยผลงานการออกแบบของ
“เดือน จงมั่นคง” ทายาท
“จิตต์ จงมั่นคง”
ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ภาพถ่ายศิลปะ) ที่ฉายแวว “ความแตกต่าง”
จากการจัดแสดงผลงานจบการศึกษาในเทศกาลปล่อยแสง 4 เมื่อปลายปีที่แล้ว
โดยเดือนเลือกนำเสนอเรื่องราวในชีวิตประจำวันและบอกเล่าความรู้สึกผ่านภาพ
ถ่ายและการบันทึกทุกอย่างลงในศิลปนิพนธ์การออกแบบหนังสือภายใต้ชื่อ
“ไล้สาระ” ซึ่งเป็นหนังสือแจกฟรีฉบับพกพา
โดยมีที่มาจากกระเป๋าใบเก่าของคุณย่า
ที่สื่อถึงเรื่องราวความผูกพันของครอบครัว
|
“เดือน จงมั่นคง |
|
|
ด้วยความโดดเด่นและความสามารถเฉพาะตัวของเธอ
ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้หลากหลายแขนง
ทำให้เดือนมีโอกาสนำไอเดียเหล่านั้นมาพัฒนาเป็นผลงานสมุดบันทึก
“ไดอารี่เพื่อนรัก” ที่
มีความแตกต่างจากไดอารี่ทั่วไปตรงที่หน้ากระดาษทุกๆ
หน้าจะสามารถสื่อสารพูดคุยกับเจ้าของสมุดได้ ผ่านการเรียบเรียงข้อความสั้นๆ
ให้เป็นเสมือนประโยคคำถาม
พร้อมบอกเล่าเรื่องราวที่แสดงออกถึงอารมณ์และความรู้สึกทั้งในเชิงเข้าอก
เข้าใจ สร้างกำลังใจ
สลับกับการจัดวางภาพถ่ายด้วยฝีมือการถ่ายภาพของเดือนเอง
“ทุกๆ ภาพล้วนสะท้อนถึงช่วงชีวิตและสิ่งที่เราพบเห็นในแต่ละวัน
จะได้เห็นว่ากระดาษทุกแผ่นและข้อความสั้นๆ ทุกประโยคในสมุดเล่มนี้
จะเป็นเหมือนตัวแทนของชีวิตและสามารถเป็นเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยกันกับเจ้า
ของสมุดได้ในทุกที่ทุกเวลา” เจ้าของไอเดีย เผย
และนี่คือ จุดแตกต่างที่สามารถสร้างความโดดเด่นและครีเอทจุดขายให้ไดอารี่ สามารถดึงดูดใจให้ผู้ซื้อเกิดความสนใจและอยากเป็นเจ้าของ
************* ศักยภาพน้ำอบไทย โฉมใหม่สไตล์สากล *********
ต่อด้วยอีกหนึ่งไอเดียโดดเด่นที่สามารถสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยแท้ของ
“แจ่มกมล” แบรนด์น้ำอบไทย สูตรต้นตำรับชาววังที่สร้างสรรค์โดย
“ทิพย์กมล บูลภักดิ์”
ทายาท “ป้าแจ่ม” ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของเจ้าจอมประคอง พระสนมลำดับที่ 44
ในรัชกาลที่ 5
ได้บอกเล่าถึงที่มาของการถ่ายทอดมรดกทางปัญญาจากป้าแจ่มในการสร้างสรรค์
“น้ำอบไทยสูตรชาววัง” ให้ฟังว่า
“น้ำอบไทยก็เหมือนน้ำหอมต่างประเทศที่เราใช้กัน ในปัจจุบัน
แต่ด้วยค่านิยมของคนไทยโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่จะมองว่า
น้ำอบไทยเป็นของที่ดูล้าสมัย และเหมาะกับคนสูงวัย
หรือใช้เพียงแค่ในการสรงน้ำพระ
และในโอกาสไหว้ญาติผู้ใหญ่ในช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่ไทยแต่เพียงเท่านั้น
ตัวเราเองก็พยายามที่จะอนุรักษ์และคงไว้ซึ่งมนต์เสน่ห์แห่งภูมิปัญญาของ
บรรพบุรุษไทย” ทิพย์กมล ระบุ
|
ทิพย์กมล บูลภักดิ์ |
|
|
ทั้งนี้ โจทย์สำคัญ คือ
จะทำอย่างไรให้น้ำอบไทยดูเป็นสากลและได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น ดังนั้น
พยายามหาช่องทางในการสร้างการรับรู้ไปยังคนในหมู่กว้าง ซึ่งจากคำแนะนำของ
TCDC ที่กระตุ้นให้เราได้มองถึงโอกาสในการเติบโตของตลาด
ประกอบกับที่ได้รับการพัฒนาเรื่องบรรจุภัณฑ์ การปรับเปลี่ยนโลโก้
รวมถึงคำแนะนำในการทดลองออกแบบฉลากและดีไซน์ขวดใหม่ให้ดูทันสมัยน่าใช้มาก
ยิ่งขึ้น ตลอดจนการเพิ่มความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์ด้วยการเพิ่มส่วนผสมของ
“น้ำมันงา” และเพิ่มกลิ่นดอกไม้เข้าไป พร้อมกับปรับ positioning
ของสินค้าจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องหอมให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้
บำรุงผิวได้ด้วย ซึ่งการปรับเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ทั้งหมดนี้ ทำให้ “แจ่มกมล”
ก้าวสู่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ที่ทำให้ “น้ำอบไทย”
สามารถขยายการรับรู้ไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดีและผลิตภัณฑ์โดยคน
ไทยก็ได้รับการยอมรับจากตลาดมากยิ่งขึ้น
ทั้ง 4 รายข้างบน
เป็นต้นแบบสำหรับผู้ใช้ไอเดียเป็นใบเบิกทาง
ได้รับการต่อยอดจากหน่วยงานภาครัฐ โดยโอกาสดีๆ เช่นนี้ TCDC
ยังมีอีกหลายกิจกรรมที่พร้อมเปิดรอให้เหล่านักคิดนักสร้างสรรค์ได้มีโอกาส
แสดงออกซึ่งพลังทางความคิด โชว์ศักยภาพที่มีอยู่ในตัวได้อย่างอิสระ
และพร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยง ช่วยต่อยอดให้เหล่านักคิดคนไทย กล้าที่จะ
“แตกต่าง” เพื่อสร้าง “ความโดดเด่น”
พร้อมทั้งผลักดันและแปลงโฉมให้ไอเดียไทยๆ สามารถก้าวไกลในระดับสากล
สำหรับผู้สนใจ
สินค้าจาก 4 สุดยอดนักคิด รวมถึง อยากได้รับความช่วยเหลือจาก TCDC
ไปดูหรือติดต่อได้ที่ TCDC Shop ตั้งอยู่ที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ
(TCDC) ห้างเอ็มโพเรียม โทร.02-664-7667
credit by :
http://www.manager.co.th/iBizchanne/ViewNews.aspx?NewsID=9530000105125
แนะนำเวบรวมบทความ blog
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...
http://bit.ly/2kYAKOt
Adv