คนมีรถหลายคน บ้างก็ไม่มีเวลา บ้างก็แสนจะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ากับการล้างรถ
แม้ว่าจะยอมเสียเงินมากมายซื้อเครื่องมือ-วัสดุอุปกรณ์ในการล้างรถ
ด้วยเหตุนี้ธุรกิจรับจ้างล้างรถ จึงเกิดขึ้นมารองรับ
ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพสุจริตที่ทำเงินเลี้ยงชีพ-เลี้ยงครอบครัวได้ในเมืองใหญ่ๆ ทั่วไป
วันนี้ทีมงาน “ช่องทางทำกิน” จะนำเสนออาชีพรับจ้างล้างรถ
หลุน พุทธเคน ชายวัยกลางคนอายุย่าง 50 ปี ชาวอุบลราชธานี
เป็นอีกผู้หนึ่งที่ยึดอาชีพให้บริการล้างรถในกรุงเทพฯ มานาน
โดยปักหลักทำอยู่ในปั๊มน้ำมัน Q8 ใกล้โรงงานยาคูลล์ ถนนวิภาวดีรังสิต
หลุนบอกว่า ล้างรถไม่ใช่เรื่องยาก..!! หากเรามีความคิดว่า รถลูกค้าคือรถของเรา
หลุน พุทธเคน ชายวัยกลางคนอายุย่าง 50 ปี ชาวอุบลราชธานี
เป็นอีกผู้หนึ่งที่ยึดอาชีพให้บริการล้างรถในกรุงเทพฯ มานาน
โดยปักหลักทำอยู่ในปั๊มน้ำมัน Q8 ใกล้โรงงานยาคูลล์ ถนนวิภาวดีรังสิต
หลุนบอกว่า ล้างรถไม่ใช่เรื่องยาก..!! หากเรามีความคิดว่า รถลูกค้าคือรถของเรา
นี่เป็นปรัชญาในการทำงานของเขา และลูก-หลานอีกรวม 6 คนที่เป็นทีมล้างรถ
ธุรกิจล้างรถใช้เงินทุนไม่มาก เบื้องต้นเพียงแค่ประมาณ 40,000 บาท
สำหรับซื้อถังฉีดโฟม (น้ำยาล้าง) 11,000 บาท (ซื้อ1 แถม 1),
เครื่องดูดฝุ่น 3,500 บาทต่อเครื่อง,
น้ำยาล้างรถ (โฟม) 1,100 บาทต่อแกลลอน,
น้ำยาล้างคราบน้ำมัน 400 บาทต่อแกลลอน,
ผงซักฟอก 50 บาท,
แว็กซี่ขัดเบาะ 1,100 บาทต่อแกลลอน,
น้ำยาขัดเคลือบล้อ 1,100 บาทต่อแกลลอน,
ยาขัดสี 200 บาท,
ยาขัดเคลือบเงา 250 บาท
และหัวฉีดลม-น้ำ ประมาณ 1,000 บาท
รวมทั้งผ้าอีกหลายสิบผืน ประมาณ 300 บาท
ที่สำคัญคือ ค่าเช่าพื้นที่ปั๊ม 15,000 บาทต่อเดือน และค่าน้ำ-ไฟ ประมาณ 5,000 บาทต่อเดือน
ส่วนค่าแรงของลูก-หลานวันละ 100 บาทต่อคน กินอยู่เสร็จสรรพ
ทั้งนี้ ค่าเช่าพื้นที่ในปั๊มนั้น เจ้าของปั๊มให้ใช้เครื่องปั๊มลมและปั๊มน้ำด้วย
แต่หากต้องลงทุนซื้อก็ประมาณ 15,000-20,000 บาท
วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ สามารถหาซื้อได้ที่ คลองถม ในกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ วัสดุสิ้นเปลืองที่กล่าวข้างต้น บางอย่างสามารถใช้ได้มากกว่าเดือน
บางอย่างเช่นยาขัดเคลือบเงาใช้ประมาณ 2-3 ขวดต่อเดือน
ส่วนค่าใช้จ่ายรายเดือนอื่นๆ ก็จะมีค่าน้ำมันเครื่องปั๊มน้ำและปั๊มลมที่ต้องเปลี่ยนทุกเดือน
การให้บริการ เมื่อมีรถลูกค้าเข้ามาทีมงานก็จะแจ้งราคาค่าบริการให้ทราบ ตามที่ระบุไว้ที่ป้ายราคา
ล้างสี+ดูดฝุ่น รถเก๋ง 60 กระบะ 70 รถแวน 80 รถตู้ 100 บาท
แต่ถ้าเพิ่ม ล้างเครื่อง-อัดฉีด รถเก๋ง 150 กระบะ 160 รถแวน 180 รถตู้ 200 บาท
ราคาต้องไม่แพง เพื่อดึงดูดใจลูกค้า แต่ต้องล้างให้สะอาดเหมือนกับรถของเรา
นอกจากราคาย่อมเยาแล้วก็ยังลงแว็กขัดเงาเพิ่มให้อีกด้วย ซึ่งเป็นจุดจูงใจลูกค้าที่สำคัญ หาได้ไม่ง่ายกับที่อื่น
หลังจากที่รับรถแล้ว สิ่งต่อมาก็เอาผ้ายางรองพื้นไปทำความสะอาดด้วยผงซักฟอก
และนำมาทำให้แห้งด้วยแดด-ลม จากนั้นฉีดรถด้วยน้ำธรรมดาเพื่อล้างรอบแรกทั่วคัน
โดยเฉพาะบริเวณที่เปื้อนมาก เช่น ล้อและบังโคลน ตามด้วยโฟมล้างรถ
ซึ่งโฟมนี้จะมีส่วนผสมระหว่างน้ำยาล้างรถกับน้ำธรรมดาในอัตราส่วน 1:2
จากนั้นก็จะมีสองหน้าที่เข้าทำงาน คือล้างช่วงบนและล้างช่วงล่าง (ล้อ-บังโคลน)
เสร็จจากนั้นก็ขยับรถมายังบริเวณแห้ง ทำการเป่าลมไล่น้ำที่ขังตามซอกตามช่องว่างต่างๆ
ซึ่งทีมงานจะแบ่งงานกันตามหน้าที่
ใครทำภายในก็จะจัดการดูดฝุ่น+เช็ดเบาะ+ลงแว็กเบาะ+ลงแว็กคอนโซนหน้า
คนอื่นก็เช็ดขอบประตูหน้าต่าง+เช็ดกระจกภายในและนอก อีกคนก็จะเช็ดภายนอก+ลงแว็กเคลือบเงา
งานจะเสร็จในเวลาใกล้เคียงกัน เมื่อทุกคนเสร็จแว็กเคลือบเงาก็แห้งพร้อมเช็ดขัดได้พอดี
ท้ายสุดก็ตบด้วยแว็กที่ล้อ และใส่ผ้ายางรองพื้นตามเดิม เป็นขั้นตอนสุดท้าย
การทำงานตามที่อธิบายมาดูเหมือนจะง่าย แต่หลุนบอกว่า เวลาที่เข้ามะรุมมะตุ้มกันนั้น
แต่ละหน้าที่ต้องรับผิดงานให้ดีที่สุด ไม่ใช่ว่าดูดฝุ่นดี แต่กระจกภายในไม่สะอาด
หรือดูดฝุ่นเรียบร้อยดี แต่ลงแว็กเบาะไม่ดี
ทุกคนจะต้องช่วยกันทำงานกันอย่างเป็นระบบอย่างดีที่สุด และรวดเร็วทันใจ จึงจะถูกใจลูกค้า
ส่วนรถบางคันที่ต้องการอัดฉีด-ล้างเครื่องด้วย ก็ต้องเพิ่มขั้นตอนก่อนล้างสีทั่วไป
ทั้งนี้ รถสมัยใหม่ไม่มีจานจ่าย ทำให้ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความชื้นจะเข้าไปในระบบไฟฟ้า
แต่กับรถที่มีจานจ่ายต้องระวัง นำถุงพลาสติกมาคลุมให้เรียบร้อยก่อนทำการฉีดล้าง
นอกจากจานจ่ายแล้ว บริเวณไดชาร์จ ก็ต้องหลีกเลี่ยงการฉีดล้างที่รุนแรง
แม้ไดชาร์จสมัยนี้ จะมีสารเคลือบกันความชื้นก็ตาม
ส่วนบริเวณ กล่องคอมพิวเตอร์ ที่อยู่ในห้องเครื่องของรถยุโรปบางยี่ห้อก็ต้องหลีกเลี่ยง
ใช้เพียงผ้าหมาดๆ เช็ดทำความสะอาด
ธุรกิจล้างรถใช้เงินทุนไม่มาก เบื้องต้นเพียงแค่ประมาณ 40,000 บาท
สำหรับซื้อถังฉีดโฟม (น้ำยาล้าง) 11,000 บาท (ซื้อ1 แถม 1),
เครื่องดูดฝุ่น 3,500 บาทต่อเครื่อง,
น้ำยาล้างรถ (โฟม) 1,100 บาทต่อแกลลอน,
น้ำยาล้างคราบน้ำมัน 400 บาทต่อแกลลอน,
ผงซักฟอก 50 บาท,
แว็กซี่ขัดเบาะ 1,100 บาทต่อแกลลอน,
น้ำยาขัดเคลือบล้อ 1,100 บาทต่อแกลลอน,
ยาขัดสี 200 บาท,
ยาขัดเคลือบเงา 250 บาท
และหัวฉีดลม-น้ำ ประมาณ 1,000 บาท
รวมทั้งผ้าอีกหลายสิบผืน ประมาณ 300 บาท
ที่สำคัญคือ ค่าเช่าพื้นที่ปั๊ม 15,000 บาทต่อเดือน และค่าน้ำ-ไฟ ประมาณ 5,000 บาทต่อเดือน
ส่วนค่าแรงของลูก-หลานวันละ 100 บาทต่อคน กินอยู่เสร็จสรรพ
ทั้งนี้ ค่าเช่าพื้นที่ในปั๊มนั้น เจ้าของปั๊มให้ใช้เครื่องปั๊มลมและปั๊มน้ำด้วย
แต่หากต้องลงทุนซื้อก็ประมาณ 15,000-20,000 บาท
วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ สามารถหาซื้อได้ที่ คลองถม ในกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ วัสดุสิ้นเปลืองที่กล่าวข้างต้น บางอย่างสามารถใช้ได้มากกว่าเดือน
บางอย่างเช่นยาขัดเคลือบเงาใช้ประมาณ 2-3 ขวดต่อเดือน
ส่วนค่าใช้จ่ายรายเดือนอื่นๆ ก็จะมีค่าน้ำมันเครื่องปั๊มน้ำและปั๊มลมที่ต้องเปลี่ยนทุกเดือน
การให้บริการ เมื่อมีรถลูกค้าเข้ามาทีมงานก็จะแจ้งราคาค่าบริการให้ทราบ ตามที่ระบุไว้ที่ป้ายราคา
ล้างสี+ดูดฝุ่น รถเก๋ง 60 กระบะ 70 รถแวน 80 รถตู้ 100 บาท
แต่ถ้าเพิ่ม ล้างเครื่อง-อัดฉีด รถเก๋ง 150 กระบะ 160 รถแวน 180 รถตู้ 200 บาท
ราคาต้องไม่แพง เพื่อดึงดูดใจลูกค้า แต่ต้องล้างให้สะอาดเหมือนกับรถของเรา
นอกจากราคาย่อมเยาแล้วก็ยังลงแว็กขัดเงาเพิ่มให้อีกด้วย ซึ่งเป็นจุดจูงใจลูกค้าที่สำคัญ หาได้ไม่ง่ายกับที่อื่น
หลังจากที่รับรถแล้ว สิ่งต่อมาก็เอาผ้ายางรองพื้นไปทำความสะอาดด้วยผงซักฟอก
และนำมาทำให้แห้งด้วยแดด-ลม จากนั้นฉีดรถด้วยน้ำธรรมดาเพื่อล้างรอบแรกทั่วคัน
โดยเฉพาะบริเวณที่เปื้อนมาก เช่น ล้อและบังโคลน ตามด้วยโฟมล้างรถ
ซึ่งโฟมนี้จะมีส่วนผสมระหว่างน้ำยาล้างรถกับน้ำธรรมดาในอัตราส่วน 1:2
จากนั้นก็จะมีสองหน้าที่เข้าทำงาน คือล้างช่วงบนและล้างช่วงล่าง (ล้อ-บังโคลน)
เสร็จจากนั้นก็ขยับรถมายังบริเวณแห้ง ทำการเป่าลมไล่น้ำที่ขังตามซอกตามช่องว่างต่างๆ
ซึ่งทีมงานจะแบ่งงานกันตามหน้าที่
ใครทำภายในก็จะจัดการดูดฝุ่น+เช็ดเบาะ+ลงแว็กเบาะ+ลงแว็กคอนโซนหน้า
คนอื่นก็เช็ดขอบประตูหน้าต่าง+เช็ดกระจกภายในและนอก อีกคนก็จะเช็ดภายนอก+ลงแว็กเคลือบเงา
งานจะเสร็จในเวลาใกล้เคียงกัน เมื่อทุกคนเสร็จแว็กเคลือบเงาก็แห้งพร้อมเช็ดขัดได้พอดี
ท้ายสุดก็ตบด้วยแว็กที่ล้อ และใส่ผ้ายางรองพื้นตามเดิม เป็นขั้นตอนสุดท้าย
การทำงานตามที่อธิบายมาดูเหมือนจะง่าย แต่หลุนบอกว่า เวลาที่เข้ามะรุมมะตุ้มกันนั้น
แต่ละหน้าที่ต้องรับผิดงานให้ดีที่สุด ไม่ใช่ว่าดูดฝุ่นดี แต่กระจกภายในไม่สะอาด
หรือดูดฝุ่นเรียบร้อยดี แต่ลงแว็กเบาะไม่ดี
ทุกคนจะต้องช่วยกันทำงานกันอย่างเป็นระบบอย่างดีที่สุด และรวดเร็วทันใจ จึงจะถูกใจลูกค้า
ส่วนรถบางคันที่ต้องการอัดฉีด-ล้างเครื่องด้วย ก็ต้องเพิ่มขั้นตอนก่อนล้างสีทั่วไป
ทั้งนี้ รถสมัยใหม่ไม่มีจานจ่าย ทำให้ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความชื้นจะเข้าไปในระบบไฟฟ้า
แต่กับรถที่มีจานจ่ายต้องระวัง นำถุงพลาสติกมาคลุมให้เรียบร้อยก่อนทำการฉีดล้าง
นอกจากจานจ่ายแล้ว บริเวณไดชาร์จ ก็ต้องหลีกเลี่ยงการฉีดล้างที่รุนแรง
แม้ไดชาร์จสมัยนี้ จะมีสารเคลือบกันความชื้นก็ตาม
ส่วนบริเวณ กล่องคอมพิวเตอร์ ที่อยู่ในห้องเครื่องของรถยุโรปบางยี่ห้อก็ต้องหลีกเลี่ยง
ใช้เพียงผ้าหมาดๆ เช็ดทำความสะอาด
เวลาล้างก็ใช้น้ำยาล้างคราบสกปรกในห้องเครื่องก่อน ทิ้งไว้ 1 นาทีแล้วตามด้วยผงซักฟอกบริเวณที่สกปรกมาก
ล้างด้วยน้ำสะอาด แล้วตามด้วยแว็กชนิดเดียวกับที่ใช้ขัดเบาะ เพื่อรักษายางหุ้มและสายไฟต่างๆ
รวมทั้งส่วนที่เป็นพลาสติก เพื่อไม่ให้แห้งกรอบ
ท้ายสุดก็ทำการเป่าด้วยลมอีกครั้งในห้องเครื่องและกรองอากาศ (กรองแห้ง) ที่สามารถใช้ลมเป่าฝุ่นผงออกได้
หลุนบอกอีกว่า หากคิดต้นทุนต่อคันแล้วจะได้กำไรไม่มาก ต้องอาศัยปริมาณลูกค้ามากๆ
ลูกค้า 15 คันคือจุดคุ้มทุน ที่เกินกว่านั้นก็เป็นกำไรค่าแรง
ซึ่งที่ทำอยู่เฉลี่ยแล้วจะมีรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วประมาณ 12,000-15,000 บาทต่อเดือน ก็พออยู่ได้
อาชีพนี้อาจไม่โก้-รายได้ไม่หวือหวาตาลุก แต่นี่ก็เป็นอีกอาชีพสุจริต...ของคนขยัน !!.
ประสงค์ ชัยสารัตน์ : รายงาน
ข้อมูลโดย “ช่องทางทำกิน” เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 10 ส.ค. 2546
ที่มา : http://library.dip.go.th
ภาพจาก : http://www.fotosearch.com
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://bit.ly/2kYAKOt
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://bit.ly/2kYAKOt
Adv